เตือนโจ๋ฮิตฉีดเพิ่มสูงเสี่ยง

นพ.วรวัฒน์ เอี่ยวสินพานิช แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลปิยะเวท เปิดเผยว่า วัยรุ่นในปัจจุบันกังวลเรื่องความสูงกันมากขึ้น ทำให้เริ่มหาเทคนิคเพื่อเพิ่มความสูง โดยเด็กชายอยากมีความสูงประมาณ 170180 ซม. ส่วนเด็กหญิงอยากมีความสูงประมาณ 170 ซม. ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม วิธีบางอย่างมีความเสี่ยงมากและไม่ได้ผลเท่าที่ควร เช่น เชื่อโฆษณาในอินเทอร์เน็ตเรื่องการทำกายภาพในการใช้แผ่นรองรองเท้านวดฝ่าเท้าให้มีการสร้างฮอร์โมนเพื่อพัฒนาความสูงขึ้นมาได้ แต่ยังไม่มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง

รวมทั้งการฉีดฮอร์โมนเพิ่มความสูงที่มี 2 ประเภท คือ การฉีดฮอร์โมนเพศในกรณีเด็กมีภาวะผิดปกติเป็นหนุ่มเป็นสาวช้า ทำให้การพัฒนาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นช้ากว่าที่ควร และการฉีดโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์ที่มีราคาแพงมากเกือบหลักแสนบาท ทั้งที่ส่วนใหญ่เป็นการใช้รักษากรณีผู้มีภาวะพร่องฮอร์โมน

นพ.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า กระแสดังกล่าวอาจเกิดจากบางอาชีพมีการกำหนดความสูง เช่น แอร์โฮสเตส พยาบาล และวงการดารา อีกทั้งมีการเปิดสถาบันเพิ่มความสูงที่จัดเป็นแพ็กเกจฝังเข็มหรือการทำกายภาพ เช่น การดึงหลัง ดึงคอ หรือโหนบาร์ ซึ่งเป็นการยืดช่องว่างของกระดูกให้มากขึ้น

ทั้งนี้ วิธีการนี้ทำให้ผ่อนคลายและจะมีความสูงเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ซม. แต่ความสูงที่เพิ่มขึ้นจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อทำกิจกรรมนั่ง ยืน เดินตามปกติภายใน 2 ชั่วโมง ดังนั้นวิธีนี้จึงไม่ช่วยเพิ่มความสูงได้อย่างยั่งยืน การผ่าตัดก็ไม่ทำให้มีความสูงเพิ่มขึ้น เพราะกระดูกแขนขาเท่านั้นที่จะช่วยภาวะคนแคระ ซึ่งความสูงที่ได้จากการผ่าตัดจะไม่สมดุล