ตามล่า ‘แก๊งเรือใบ’บทพิสูจน์ฝีมือนครบาล

ขณะที่น้ำท่วม นอกจากบรรดา “แก๊งแมวน้ำ” ที่เป็นหนามยอกอกของตำรวจแล้ว ดูเหมือนว่าปัญหาใหม่ได้ถูกก่อตัวขึ้นอีก

โดย วัสยศ งามขำ

ขณะที่น้ำท่วม นอกจากบรรดา “แก๊งแมวน้ำ” ที่เป็นหนามยอกอกของตำรวจแล้ว ดูเหมือนว่าปัญหาใหม่ได้ถูกก่อตัวขึ้นอีก คือ รถของตำรวจทหารหลายคันที่อาสาช่วยเหลือชาวบ้าน ถูก “ของแข็ง” แทงยางจนพิการไปไม่น้อย และแน่นอนบรรดาเรือรับจ้างที่ถูกกล่าวขานว่า “รีดเงิน” จากลูกค้า กำลังกลายเป็นจำเลย

ตำรวจเรียกผู้ก่อกวนการช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านี้ว่า “แก๊งเรือใบ” จากข้อมูลของตำรวจนครบาล พบว่าปัจจุบันมีการจัดรถโดยสาร ขสมก. ราว 200 คัน และรถบรรทุกทหาร ตำรวจ รวมถึงรถของหน่วยงานราชการอีกหลายร้อยคัน เพื่อบริการประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม

แต่หลายคันกำลังเกิดปัญหาในบางเส้นทาง เช่น เส้นทางตลาดออเงินสายไหม ตลาดวงศกร ถนนวัชรพล ถนนพหลโยธิน ช่วงดอนเมือง และย่านบางพลัด บนถนจรัญสนิทวงศ์ เมื่อถูกผู้ไม่หวังดีนำเรือใบมาโรยในถนน ทำให้รถบรรทุกยางแตกไม่สามารถให้บริการได้

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เป็นผู้หนึ่งที่เจอประสบการณ์กับเรือใบใต้ผืนน้ำ จากข้อมูลของเขาทำให้รู้ว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนได้นำกำลังไปช่วยเหลือประชาชนย่านฝั่งธนบุรีขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่หลัง กทม.ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ได้จอดพักรถบรรทุกของเอกชนที่เอามาช่วยราชการไว้ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็ได้รับรายงานว่ารถสิบล้อคันหนึ่งโดนตะปูขนาดใหญ่ แบบตะปูเรือใบทิ่มตำปักคาอยู่ เบื้องต้นเขาไม่ได้ปักใจเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของผู้ไม่ประสงค์ดี คิดแง่บวกได้ว่าอาจจะเป็นอุบัติเหตุ

แต่ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สรรพค์พิสิฐ แย้มเกษร ผู้กำกับการ ศูนย์รวมข่าว 191 ก็ได้รับประสานจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า มีประชาชนร้องเรียนเข้ามามากว่า รถของเจ้าหน้าที่ถูกตะปูเรือใบตำยางล้อรถบริเวณถนนราชพฤกษ์และถนนกัลปพฤกษ์

ผู้แจ้งให้ข้อสังเกตว่า จะมีเรือรับจ้างที่มาจากต่างจังหวัดอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่รถโดนตะปู อาจจะเป็นไปได้ว่าบรรดาผู้นำเรือมารับจ้างรับส่งผู้คนไม่พอใจเพราะขาดรายได้ จากการที่รถราชการมาช่วยชาวบ้าน ซึ่งข้อมูลก็ตรงกับที่ตรวจสอบไว้ว่า มีรถราชการหลายคันโดนตะปูเรือใบตำมาแล้ว ทั้งรถของทหารและตำรวจ

เมื่อการซ้ำเติมผู้ประสบภัยจากฝีมือของ “แก๊งเรือใบ” เริ่มชัดขึ้น จึงทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเล่นบทบู๊ด้วยตัวเอง ยื่นดาบให้ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รักษาราชการแทนว่าที่ ผบช.น. จัดการบรรดาเหลือบที่ก่อความทุกข์ซ้ำซ้อนให้กับผู้ประสบภัยทันที โดย พล.ต.ต.วินัย ระบุชัดเจนว่า การก่อเหตุช่วงน้ำท่วมถือเป็นการซ้ำเติมประชาชน จึงได้กำชับตำรวจให้เข้มงวดเรื่องนี้ เบื้องต้นมีข้อมูลว่าแก๊งเรือใบนี้ได้ออกอาละวาดในพื้นที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงบางพลัด และถนนพหลโยธิน ช่วงดอนเมือง พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการ ศูนย์สืบสวนนครบาล รวมทั้งกองกำกับการสืบสวนนครบาล 2 และ 7 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ออกหาข่าวและจับกุมแก๊งนี้ให้ได้

พล.ต.ต.วินัย บอกว่า จากข้อมูลที่ได้รับในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนใครก่อเหตุ หรือพูดให้ง่ายขึ้นก็คือ ยังไม่ได้หลักฐานเป็นตัวเรือใบในเขตกรุงเทพฯ แต่พบหลักฐานชัดเจนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือของผู้ประกอบการเรือรับจ้างในบริเวณดังกล่าวที่เสียประโยชน์

“ตอนนี้ผมได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงไปทำประวัติเรือรับจ้างทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างน้อยเราก็จะประสานงานเรื่องค่าเรือที่มีการร้องเรียนว่ามีราคาแพงด้วย” พล.ต.ต.วินัย บอก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแก๊งเรือใบจะเกิดมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ถึงวันนี้ตำรวจเองก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ ก็เลยยังไม่รู้ใครเป็นคนโรยเรือใบกันแน่ คนพายเรือก็ได้แต่เป็นจำเลย นี่จึงเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่จะวัดฝีมือเจ้าพ่อ (ตำรวจ) นครบาลคนใหม่ว่า เจ๋งแค่ไหน !!!

ไม่อยากติดคุก 3 ปีฟังทางนี้

พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ว่าที่ ผบช.น. เตือนอีกครั้งไปถึงบรรดาเรือรับจ้างที่หากินแบบทำให้คนอื่นเดือดร้อนว่า แม้ว่าจะเป็นเพียงการโรยเรือใบ แต่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกด้วย หากใครคิดจะทำเพื่อหวังผลประโยชน์จากชาวบ้านที่เดือดร้อน จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่ได้ขู่

“สิ่งที่พวกแก๊งเรือใบทำลงไป พูดได้อย่างเดียวว่าเลว เป็นการซ้ำเติมคนเดือดร้อน มันใช้ไม่ได้ ถ้าเจอผมเล่นมันไม่เหลือ” พล.ต.ต.วินัย บอกอย่างมีอารมณ์