ท่วมถ้วนหน้าทุกข์ถ้วนทั่ว

สถานการณ์น้ำท่วมกรุงได้รุกคืบไปแทบทุกพื้นที่ ประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า...

โดย....ทีมช่าวโต๊ะการตลาด

สถานการณ์น้ำท่วมกรุงได้รุกคืบไปแทบทุกพื้นที่ ประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แม้รัฐบาลจะย้ำว่าได้เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง  ด้านพื้นที่คลองสามวา รัตนา นำสนธิ  อาศัยอยู่ริมคลองสามวา  ในพื้นที่คันกั้นน้ำ เปิดเผยว่า ต้องทนอยู่อาศัยกับน้ำท่วมสูงมานาน 2  สัปดาห์แล้ว ในระดับเข่า ซึ่งมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ  แต่จากการที่ได้เปิดคันกั้นน้ำที่คลองสามวา ระดับความสูง 1 เมตร ทำให้ระดับน้ำภายในบ้านเริ่มทรงตัว

“หน่วยงานรัฐมาเปิดคันกั้นน้ำคลองสามวาทำให้ ระดับน้ำ ด้านในคันนั้นเริ่มทรงตัว  แต่ก็มีข่าวลือว่า อาจจะลดระดับคันกั้นน้ำให้ต่ำลง  เพราะไม่ต้องการให้น้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ในเมืองมากขึ้น" 

วิไลพร หอยสังข์  ผู้ที่อยู่อาศัย อยู่นอกแนวคันกันน้ำคลองสามวา เล่าว่า รับได้ที่รัฐได้เปิดคันกั้นน้ำบริเวณคลองสามวาในระดับนี้  เนื่องจากเป็นการแบ่งเบาให้กับผู้ที่ประสบน้ำท่วมสูงที่อยู่อาศัยในบริเวณคันกั้นน้ำ  ขณะนี้ได้มีการเจรจาและทำความเข้าใจกันแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา  ที่มีการประท้วงและรื้อกระสอบทรายคันกั้นน้ำ

อย่างไรก็ตาม คลองสามวาถือเป็นจุดศูนย์กลาง ที่จะปล่อยน้ำลงสู่คลองแสนแสบ  ถ้าปล่อยน้ำออกจำนวนมาก เชื่อว่าจะยิ่งกระทบกับกรุงเทพฯชั้นในแน่

ขณะที่ ประกิต แสวง รองผู้อำนวยการโรงเรียนสุเหร่าคลอง 1  ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายดูแล1ใน 12 ศูนย์อพยพโรงเรียนสุเหร่าคลอง 1 สำนักงานเขตคลองสามวา เปิดเผยว่า ศูนย์ฯเปิดรับผู้อพยพตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนขอพักพิงซึ่งมีจำนวนสูงถึง 500 คน ขณะที่แต่ละศูนย์ฯรองรับคนได้เฉลี่ย 300-500 คนและบางแห่งรองรับผู้อพยพได้ 700  คน

สำหรับศูนย์ฯแห่งนี้ มีผู้อพยพเข้ามาตั้งแต่4วันก่อน ในช่วงที่เริ่มเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา โดยขณะนี้ที่ศูนย์ฯมีผู้อพยพแล้วจำนวน 70-80 คน และเริ่มมีผู้อพยพเข้ามาใช้แหล่งพักพิงที่ศูนย์ฯอย่างต่อเนื่องถึงวันนี้ โดยเป็นการเดินทางมายังศูนย์ฯเองไม่ได้มีรถรับส่งประชาชนแต่อย่างใดศูนย์ฯ

ทั้งนี้หากระดับน้ำขึ้นสูงในศูนย์ฯ ทางโรงเรียนจะประสานงานไปยังสำนักงานเขตคลองสามวาอีกครั้งว่าจะต้องเคลื่อนย้ายผู้อพยพทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนได้รับความช่วยเหลือถุงยังชีพจำนวน 50 ชุด แต่ยังไม่เพียงพอ และขาดแคลนชุดเครื่องนอน อาหารเด็ก โดยเฉพาะอาหารฮาลาล เนื่องจากผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

บุญฤทธิ์ แซ่ซิ้ม กล่าวว่า ได้อพยพมาทั้งครอบครัว 20 ชีวิต ตั้งแต่ช่วยปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากซ.เจริญพัฒนา 23 คลองสามวา หลังระดับน้ำสูงขึ้นและไหลท่วมบ้านถึงระดับเอวในขณะนี้ ซึ่งทุกครอบครัวได้อพยพมายังศูนย์ฯเอง ไม่มีรถรับส่งของหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด

สำหรับปัญหาที่กังวลในขณะนี้ของผู้อพยพ คือ ระดับน้ำที่ยังท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดระบายน้ำคลอง3วา ที่ยังไม่มีท่าทีว่ามวลน้ำจะลดลงหรือระบายออกจากคลองในชุมชนอย่างใด ซึ่งหากจะต้องมีการอพยพอออกจากศูนย์ฯ ทางครอบครัวก็พร้อม แต่ทางรัฐหรือเขตจะต้องประสานงานด้านรถรับส่ง หรือสถานทีพักพิงใหม่ให้ด้วย เพราะขณะนี้มืดแปดด้านจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมและไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในขณะนี้

ขณะที่ชาวบ้านย่านบางชัน ยงยุทธ ทองสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คณะทำงานป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน กล่าวว่า ระดับน้ำในขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ที่น่าเป็นห่วงและต้องหันมาจับตามองเป็นพิเศษ คือ คลองบางชัน ตัดผ่านพื้นที่นิคมฯ และมาบรรจบกับคลองแสนแสบในด้านทิศใต้ของนิคมฯ น้ำขึ้นในระดับสูงมากอยู่ที่ 81 เซนติเมตร เนื่องจากคลองสามวา ควบคุมน้ำยังไม่ได้ ส่วนคลองพระยาสุเรนทร์ยังมีจุดที่คันกั้นน้ำรั่วอยู่

ขณะที่น้ำเหนือเริ่มท่วมทุ่งลงมาลงในบึงกระเทียม คลองหลอแหล และไหลลงคลองบางชันในช่วงบ่ายของวันที่ 3 พ.ย. ระดับน้ำในคลองบางชันจึงอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จากปกติคลองบางชันมีระดับน้ำทรงตัว และไม่ได้ขึ้นสูงมาก รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์ของคลองบางชันอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย. เพื่อดูว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า หรือขึ้นมาในระดับทรงตัว

สำหรับระดับน้ำคลองแสนแสบระดับน้ำเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 71 เซนติเมตร จากเมื่อวานที่อยู่ที่ระดับ 66 เซนติเมตร แนวกำแพงป้องกันมีความสูง 2.10 เมตรยังรับได้อยู่

ย่านลาดกระบัง โสภณ ผลประสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะทำงานป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กล่าวว่า แผนป้องกันนิคมฯลาดกระบังยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ขณะนี้น้ำเริ่มเข้ามาประชิดพื้นที่นิคมฯ และเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลอดผ่านถนนสุวินทวงศ์เข้าใกล้พื้นที่นิคมฯ  ระดับน้ำขณะนี้อยู่ต่ำกว่าแนวคันดินไม่ถึง 1 เมตรแล้ว

ขณะที่ย่านบางแค-ท่าพระ ไพบูลย์  กล่อมบรรจง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองแขม ขณะนี้ทางโรงเรียนได้เปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในย่านบางแค หนองแขมและพื้นที่ใกล้เคียง รองรับผู้ประสบภัยได้ประมาณ 500 คน ปัจจุบันมีผู้มาอยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ อยู่ย่านชุมชนหนองแขม และคนจากย่านบางแคเริ่มมาบางส่วน รวมถึงผู้อพยพที่ต้องย้ายมาจากทั้ง 2 โรงเรียนดังกล่าว

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในถนนเพชรเกษมได้ขยายวงกว้างมายังบริเวณมหาวิทยาลัยสยามแล้วสูงระดับเข่า  สมพิศ  อินทรวัต ผู้พักอาศัยอยู่บริเวณซอยเพชรเกษม 94 เปิดเผยว่าไม่สามารถอยู่อาศัยได้แล้วหลังจากน้ำท่วมมานาน 4 วัน เนื่องจากอาศัยอยู่ในพื้นที่ลึกความช่วยเหลือเข้าไม่ถึง ได้ตัดสินใจย้ายทั้งครอบครัวไปอยู่บ้านญาติที่สมุทรสาคร ส่วน ธัญญรัตน์  ไชยรัตน์ ผู้อยู่อาศัยบริเวณเพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 2 กล่าวว่า ยังไม่ตัดสินใจย้ายแม้น้ำจะท่วมสูงถึงระดับเอวแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะอพยพไปไหน  ปัจจุบันได้อาศัยรถทหารเพื่อต่อรถไปทำงาน