สนามราชมังคลาฯที่มั่นแห่งใหม่ของผู้พักพิง
เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่รอบๆ ห้องพักนักกีฬา ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยราชมังคลากีฬาสถานเป็นการชั่วคราว
เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่รอบๆ ห้องพักนักกีฬา ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยราชมังคลากีฬาสถานเป็นการชั่วคราว
โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน
เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่รอบๆ ห้องพักนักกีฬา ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยราชมังคลากีฬาสถานเป็นการชั่วคราว เสมือนสัญญาณที่ดี อย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้ผู้พักพิงคนอื่นๆ ที่ตกอยู่ในอาการเครียดจากน้ำท่วม และผ่านความโกลาหลระหว่างการอพยพหนีน้ำจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต ค่อยรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง
จะด้วยความเหน็ดเหนื่อย หรือเริ่มเบาใจลงบ้างแล้ว หรือทั้งสองสิ่งรวมกันก็ตาม ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นคืนแรกในรอบหลายสัปดาห์ ที่พนักงานรายหนึ่งของโรงงานผลิตรองเท้าในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา บอกว่า ได้นอนหลับสนิท
ขณะที่ มะลิ เมืองเจริญ แม่บ้านจาก จ.พิจิตร เป็นหนึ่งในผู้ประสบชะตากรรมที่เรียกได้ว่า น่าเห็นใจเป็นที่สุด เธอต้องหอบข้าวของเท่าที่จำเป็นเข้าพักในศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมเดือน ล่าสุดระเหเร่ร่อนมาอยู่สนามกีฬาราชมังคลาฯ ย่านหัวหมาก ซึ่งต้องหนีออกมาจากศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
มะลิ เล่าว่า วันนี้ไม่ว่าจะเกิดน้ำท่วมขึ้นในวันข้างหน้า และน้ำจะไล่ให้ชีวิตเธอต้องไปอยู่ที่ใหม่อีก ก็พร้อมทำใจยอมรับได้แล้ว ด้วยเพราะวันนี้มีกำลังใจและน้ำใจจากเพื่อนร่วมชาติมอบมาให้เรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองต้องแข็งแกร่งและพร้อมรับทุกสิ่ง
“ตอนนี้รออยู่อย่างเดียวว่า เมื่อไหร่น้ำลด จะได้กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้านเกิด” มะลิ เล่า
ด้านหนึ่งบริเวณลานมิสทิน ก็ถูกดัดแปลงเป็นโรงครัวและคลังเก็บอาหารเครื่องดื่ม แม้จะทุลักทุเลในช่วงแรก แต่ปริมาณอาหาร น้ำดื่มและของใช้จำเป็นยังคงหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง “อ้อย” หัวหน้าทีมในโรงครัวชั่วคราว ซึ่งผ่านประสบการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาหลายแห่ง ระบุว่า หากมองไปถึงปัญหาในอนาคตก็จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า
“ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ยังจัดการได้ ยังมีทั้งกำลังคนและของจำเป็น คนบริจาคมากกว่าผู้เข้ามาพัก เช่น เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ข้าวกล่องมาที่นี่นับหมื่น แต่มีผู้พักพิงหลักร้อย ต้องส่งอาหารไปที่อื่น เพราะเก็บไม่ได้ ในวันข้างหน้าก็อาจจะต้องบริหารจัดการให้ดี ต้องนึกภาพให้เห็นว่า ถ้าน้ำท่วมหมด แล้วไม่มีใคร หรือการขอรับบริจาคทำไม่ได้ เราจะอยู่กันเองได้กี่วัน” อ้อย ระบุ
ขณะที่กลุ่มอาสาสมัครแม้จะบางตาลง เพราะวันอังคารที่ 25 ต.ค. เป็นวันทำงาน แต่อาสาสมัครนักเรียน นักศึกษา ก็ทยอยเข้ามาลงทะเบียนเข้าช่วยเหลือตลอดทั้งวัน “ลัคกี้” นักศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เล่าว่า ทันทีที่ทราบข่าวการย้ายผู้ประสบภัยมายังสนามกีฬาแห่งนี้ เขาและเพื่อนๆ ก็ตกลงใจอาสาเข้ามาช่วยในทันที และตั้งใจจะกระจายความช่วยเหลือผ่านสังคมออนไลน์ออกไปอีก เพื่อให้นักศึกษาสถาบันอื่นๆ เข้ามาช่วยกันอีก
สุชีพ เปรมสวัสดิ์ นักออกแบบอิสระ อาสาสมัครอีกราย ระบุว่า จากประสบการณ์สิ่งที่กลุ่มอาสาสมัครต้องแบ่งงานกันทำอย่างมีแบบแผน โดยบทเรียนจากศูนย์พักพิงอื่นๆ พบว่า ปัญหาสำคัญก็คืออาสาสมัครจะเข้ามาช่วยในวันแรกๆ เมื่อเวลาผ่านไปจะเหลือเฉพาะผู้อยู่ประจำ งานที่มีก็จะทำไม่ทัน จำเป็นจะต้องจัดระบบด้วยการลงทะเบียนไว้ และแบ่งคิวกันช่วยตามตารางเวร เป็นรายเดือนหรือรายสัปดาห์กรณีที่น้ำท่วมขังอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ดี กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การอพยพประชาชนและการจัดการผู้อพยพเข้าพักที่ศูนย์พักพิงยังมีอุปสรรคเล็กน้อย โดยเฉพาะการจัดสรรสถานที่ ซึ่งได้จัดที่พักไว้ 3 จุด คือ ห้องพักนักกีฬา โซน W E และ S และจะจัดที่พักเพิ่มเติมในโซน North และจะต้องเพิ่มที่พัก เนื่องจากจะมีประชาชนย้ายมาจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพิ่มเติมอีกประมาณ 1,800 คน จากเดิมมีอยู่แล้วกว่า 500 คน ขณะเดียวกันผู้ป่วยได้ถูกส่งไปยังศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี แล้ว 500 คน
ผู้ประสบภัย ณ ศูนย์พักพิงแห่งนี้ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า จะพึ่งพาบ้านชั่วคราวไปอีกนานเท่าไหร่ และจะต้องอพยพกันอีกกี่หน แต่ก็ยังพออุ่นใจอยู่บ้างที่ “น้ำใจ” ของคนไทยหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย


