อยุธยากว่า2,000โรงงานหยุดผลิต5วัน

พากร วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โรงงานอุตสาหกรรมทั้งจังหวัดกว่า 2,000 แห่ง

ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมแล้ว โดยรับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรง เช่น โรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่อยู่ใน ต.บางพระครู อ.นครหลวง ต้องประกาศหยุดโรงงาน 5 วัน แต่มีการจ่ายค่าจ้างตามเดิม เพื่อความปลอดภัย เพราะว่าน้ำจากแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และน้ำไหลบ่าตามทุ่งมาล้อมนิคมอุตสาหกรรมแล้ว

 

ทั้งนี้ คันล้อมของนิคมฯ สูงประมาณ 3 เมตร แต่น้ำที่ไหลมาเตรียมข้ามคันบ้านขล้อสูงกว่า 3 เมตร หากน้ำพังคันบ้านขล้อได้ ก็จะไหลเข้ามาในนิคมฯ ทันที ทำให้ทางนิคมต้องเริ่มเสริมความสูงของคันกั้นน้ำนิคมฯ อีก 1 เมตร และแต่ละโรงงานต้องหยุดการผลิตพร้อมจัดเก็บสิ่งของเพื่อความปลอดภัยในช่วงนี้

ส่วนโรงงานที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ พื้นที่ซึ่งยังไม่ถูกนำท่วม และอยู่ในโซนที่คาดว่าปลอดภัย เช่น นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย มีการเสริมแนวคันกั้นน้ำรอบนิคมฯ จาก 4.5 เมตร เป็น 5 เมตร นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินมีการเสริมคันกั้นน้ำเช่นกัน โดยโรงงานกลุ่มนี้ถึงแม้จะอยู่ในโซนที่คาดว่าจะปลอดภัย แต่ก็ต้องได้รับผลกระทบทางอ้อม เพราะว่าพื้นที่ทั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี ถูกน้ำท่วมหนัก คนงานมาทำงานไม่สะดวก ถนนหลายสายถูกตัดขาด การคมนาคมไม่สะดวก ทำให้คนงานมาเข้ากะทำงานไม่สะดวกเหมือนเดิม

พากร กล่าวว่า แนวทางแก้ไขหากคนงานขาดรายได้ไม่สามารถมาทำงานได้ตามเวลา ต้องขาดงาน แต่ทางโรงงานไม่ถือว่าขาดงาน เพราะเห็นว่ามีเหตุจำเป็น โดยจะจ่ายค่าจ้างให้ 75% ส่วนหน้างานที่ว่างลงก็จ้างแรงงานกะอื่นมาทำโอทีทดแทน ถึงแม้จะต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องช่วยเหลือกันไป

แหล่งข่าวจากบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) หรือดับเบิลยูดี ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่ของโลก กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานที่บางปะอินยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมสูง และฝั่งตรงข้ามเป็นที่ลุ่มรองรับน้ำได้ ทำให้โรงงานที่ผลิตฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งเป็นฐานผลิตใหญ่ส่งออกทั่วโลก ยังเดินสายการผลิตได้ตามปกติ

สำหรับพนักงานมีบางส่วนที่มีปัญหาน้ำท่วม ทางดับเบิลยูดีได้จัดสวัสดิการเช่าห้องพักในพื้นที่ใกล้เคียงกับบริษัทไว้บริการแล้วส่วนชิ้นส่วนการผลิตและการนำส่งสินค้าที่ผลิตออกมาจากโรงงานยังเป็นไปตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ส่วนค่าเสียหายจากสภาวะการเช่นนี้ยังไม่สามารถประเมินได้

แต่จะมีการติดตามตัวเลขเพื่อรวมรวมเป็นข้อมูลเสนอรัฐบาลเช่นกัน

นายพากร กล่าวอีกว่า " ในประเด็นนี้โรงงานจำต้องแบกภาระเพิ่ม

เพราะว่าสินค้าที่ทำสัญญาซื้อขายล่างหน้ากับตลาดต่างประเทศไว้แล้วนั้นต้องส่งสินค้าตามกำหมดเวลา

หากผลิตไม่ทันก็อาจต้องโดนปรับ หรืออาจสูญเสียลูกค้าไปเลย

ในประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องให้ความสนใจและช่วยเหลือบ้างเช่นกัน

เพราะทุกโรงงานก็ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากภาวะน้ำท่วมสูงทั้งประเทศแล้ว

โรงงานของตนเองทำสินค้าเครื่องสแตนเลสส่งออกนอก ตั้งอยู่ในเขต ต.แม่ลา

อ.นครหลวง ตอนสร้างโรงงานหลังปี 38 ประเมินแล้วถมดินสูงกว่าระดับน้ำปี 38

ไปอีก 1 เมตร แต่ตอนนี้โรงงานของตนเองโดนน้ำล้อมรอบโรงงานไว้หมดแล้ว

โดนตนเองทำคันล้อมไว้ และพบว่าน้ำด้านนอกสูงกว่าโรงงาน 60 ซม.

หากคันล้อมพันโรงงานตนเองก็จม

ทำให้ต้องเร่งเสริมความแข็งแรงและดูดน้ำซึมตลอดเวลาเช่นกัน"