แม่หญิงลาว เทรนด์ใหม่แก๊งค้ากาม
แม่สาวชาวลาวที่หวังมาแสวงหารายได้ในเมืองไทย กำลังตกอยู่ในอันตรายและเต็มไปด้วยความเสี่ยง
โดย...วัสยศ งามขำ
แม่สาวชาวลาวที่หวังมาแสวงหารายได้ในเมืองไทย กำลังตกอยู่ในอันตรายและเต็มไปด้วยความเสี่ยง
หลังตำรวจพบว่าพวกเธอกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของขบวนการค้ามนุษย์ ที่หวังล่อลวงบรรดาสาวผ้าซิ่นแสนซื่อเหล่านี้ข้ามแม่น้ำโขง ก่อนส่งขายไปค้ากามในซ่องโสเภณีที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ
จากข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (รอง ผบก.ปคม.) ต้องกัดติดขบวนการนี้แบบตาไม่กะพริบ
การจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ ทำให้ตำรวจรู้ว่าไม่ใช่เพียงชาวบ้านสาวไทยเท่านั้นที่กำลังถูกขบวนการค้าเนื้อสดจับจ้อง แต่สาวลาวก็เป็นที่ต้องการไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน การจับกุม เบญจวรรณ ฉายแพ้ว อายุ 32 ปี และ ประนอม โกฎิรักษ์ อายุ 47 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาค้ามนุษย์ได้คาบ้านพัก หลังมีเหยื่อสาวชาวไทยวัย 14 ปี พร้อมแม่ เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังจากถูกผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นเพื่อนบ้านชักชวนให้ไปทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา จ.สงขลา ย่านแหล่งบันเทิงที่กำลังเปิดกันอย่างโจ๋งครึ่ม และรู้กันดีในหมู่แวดวงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียว่า คือแดนสวรรค์ของพวกเขาแต่สาวน้อยที่เพิ่งมองโลกได้เพียง 14 ฝนก็ถูกทางร้านบังคับให้ขายบริการกับชายที่เธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แน่นอนมันสร้างความขมขื่นให้กับเธอไม่น้อย ก่อนที่เธอจะหนีออกมาได้หลังถูกกดขี่อยู่นาน 5 เดือน
ความแสบของขบวนการค้ากามรายนี้ไม่ธรรมดา กลุ่มผู้ต้องหาจะหลอกหญิงสาวชาวไทย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และยังหลอกลวงหญิงสาวชาวลาวไปด้วย ที่สำคัญเคยทำมาแล้วไม่น้อยกว่า 50 ราย โดยหลอกว่าให้ไปทำงานเสิร์ฟอาหาร แต่เมื่อไปถึงร้านใน อ.สะเดา ซึ่งมีชายชาวสิงคโปร์เป็นเจ้าของ และมีภรรยาคนไทยเป็นผู้ดูแล ก็ถูกบังคับให้ขายตัว
แม้ว่า ทั้ง เบญจวรรณ และประนอมจะให้การปฏิเสธ แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับตำรวจเพราะกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะรวบขบวนการค้ามนุษย์รายนี้ให้ได้ทั้งก๊วนแบบคาหนังคาเขา เพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาและการรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าเด็กสาวชาวลาวข้ามมาขายบริการทางเพศในไทย
“พวกนี้จะทำงานกันเป็นขบวนการ โดยเฉพาะการหลอกสาวลาวมาค้าบริการ เป็นการค้ามนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ ผิดทั้งกฎหมายและมนุษยธรรม” พ.ต.อ.ประเสริฐ บอกถึงลักษณะการล่อลวงคนของคนพวกนี้ จะเข้าไปตีสนิทกับครอบครัวของเหยื่อ เริ่มจากในหมู่บ้านเดียวกันก่อนที่จะขยายเครือข่ายออกไปจนเป็นเครือข่ายข้ามชาติ โดยปกติแล้วขบวนการนี้จะหลอกว่าพาเด็กสาวไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ มีรายได้ดีกว่าทำงานอยู่ที่บ้าน หรือในประเทศลาว ก่อนที่จะจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับครอบครัวของเหยื่อก่อนในราคาราว 3,500 บาทจากนั้นจะรับตัวเด็กสาวไปทันที
หากเป็นเด็กสาวชาวไทย ขบวนการค้ามนุษย์จะพาเหยื่อเข้ากรุงเทพฯ มาสมทบกับเหยื่อกลุ่มอื่นๆ ก่อนที่จะพาขึ้นรถลงไปทำงานที่ อ.สะเดาทันที แต่หากเป็นเด็กสาวชาวลาวจะมีทั้งที่เดินทางเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย และลักลอบเข้าเมือง
โดยหลักๆ แล้วขบวนการนี้ก็จะนัดรวมตัวกันที่ จ.หนองคาย ก่อนที่จะพาเข้ากรุงเทพฯ และต่อรถโดยสารไปยังจุดหมายปลายทางทันทีเช่นเดียวกัน เมื่อเดินทางไปถึงก็จะถูกบังคับให้ขายบริการให้กับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเหยื่อส่วนใหญ่นั้นจะมีอายุระหว่าง 14-18 ปี
เด็กสาวเหล่านี้น่าสงสาร จะถูกบังคับให้ขายบริการในราคาชั่วคราวครั้งละ 1,200 บาท หากนอนหลับค้างคืนก็จะอยู่ที่ราคา 2,500 บาท หากโชคดีพวกนี้ก็จะหนีออกมาได้ แต่หากหนีไม่ได้ก็ต้องถูกบังคับอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดตำรวจ บก.ปคม. ได้พยายามเข้าตรวจสอบสถานบริการที่ย่าน อ.สะเดาแล้ว หลังพบว่ามีการร้องเรียนมาจำนวนมาก เกี่ยวกับสถานบริการที่เปิดอย่างผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีสถานบันเทิงและซ่องอีกหลายแห่งที่ลักลอบเปิดเป็นสถานที่ค้ากามสาวชาวลาว อาทิ ใน จ.หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น นครปฐม สมุทรสาคร และอีกหลายแห่งใน จ.สงขลา เป็นต้น
โดยเฉพาะในจังหวัดที่ติดกับลาวอย่าง จ.อุดรธานีหรือหนองคาย จากข้อมูลการสืบสวนพบว่าการซื้อขายบริการกับเด็กสาวชาวลาวนั้นทำได้ง่ายมาก และมีราคาอยู่ที่คนละประมาณ 500-800 บาทต่อครั้งเท่านั้น ในส่วนนี้ บก.ปคม. ก็กำลังเร่งปราบปรามอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังจัดชุดเคลื่อนที่ออกไปให้ความรู้กับชาวบ้านเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์แล้ว ชาวบ้านจะได้หูตาสว่างขึ้น


