posttoday

ยิ่งลักษณ์ชูพัฒนาไทยจากภายใน

19 กันยายน 2554

“ยิ่งลักษณ์” โชว์วิสัยทัศน์ชูสร้างพื้นฐานการพัฒนาประเทศจาก “ภายใน” หวังให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

“ยิ่งลักษณ์” โชว์วิสัยทัศน์ชูสร้างพื้นฐานการพัฒนาประเทศจาก “ภายใน” หวังให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน  

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดงาน Thailand Sustainable Development Symposium 2011 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นหัวใจของความสำเร็จในการพัฒนา และทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ก่อนที่จะออกไปแข่งขันกับคนอื่น ไทยต้องสร้างพื้นฐานการพัฒนาในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้การดำเนินการอันโปร่งใส่ ตรวจสอบได้

ยิ่งลักษณ์ชูพัฒนาไทยจากภายใน

“ในศตวรรษที่ 21 เศรษฐกิจกลุ่มประเทศใหม่เกิดขึ้น ชื่อว่ากลุ่ม BRICs ประกอบด้วยประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ซึ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังเคลื่อนตัวสู่ภูมิภาคเอเชีย ดังนั้น เวทีอาเซียนจึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะพัฒนาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ”น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ

นายกฯ ย้ำว่า บทเรียนจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ตอนนี้เศรษฐกิจไทยมีภูมิคุ้มกันต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกค่อนข้างดี จากนี้ไปไทยต้องรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องมองหาโอกาสทางเศรษฐกิจจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ภาวะโลกร้อน ทำให้ผลผลิตลดลงส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งอาเซียนตื่นตัวในเรื่องนี้ ในขณะที่การใช้พลังงานจากฟอสซิลที่เหลือน้อยและราคาแพง นโยบายรัฐบาลจึงสนับสนุนพลังงานทดแทนจากธรรมชาติเพื่อใช้ประโยชน์ในประเทศ และเป็นสิ่งจำเป็นในระยะยาวของภาคอุตสาหกรรม

วันเดียวกัน นายธนะ ดวงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย นำนักธุรกิจมาเลเซียเข้าพบ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยนายธนะ ให้สัมภาษณ์ว่า นายกิตติรัตน์ ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลให้นักลงทุนมาเลเซียฟัง และหวังว่าการพบปะกันในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ

นายธนะ ระบุว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย โดยในปี 2553 ไทย-มาเลเซียมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขึ้น 31% เทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่มาเลเซียมีรายได้ต่อหัวต่อปี 8.4 พันดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าไทยเท่าตัว และในปี 2563 มาเลเซียตั้งเป้าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และมีรายได้ต่อหัวประชากร1.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับนักธุรกิจมาเลเชียที่เข้าพบนายกิตติรัตน์ เช่น นายออง เหลียง ฮวด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท OSK โอลดิ้ง ซึ่งลงทุนในธุรกิจธนาคารและการเงิน นายปวน ชาน เชียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทกรีนแพคเก็ต ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการโทรศัพท์ 4G และ WiMAX นายชาน ยิว ไก ประธานและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มบริษัทไดอะลอก ผู้ให้บริการด้านเทคนิคในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซและปิโตรเคมี

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"