ฝนยังถล่มเหนือ แพร่-เชียงรายอ่วม
ฝนตกหนักน้ำป่าทะลักบ้านปินเมืองแพร่รอบสองจนอ่างเก็บน้ำล้นตลิ่งชาวบ้านผวาอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยากแตก ขณะที่เชียงรายน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน นครพนมหนักสุดรอบ 30 ปีนาข้าวเน่าเสียหายกว่าแสนไร่
ฝนตกหนักน้ำป่าทะลักบ้านปินเมืองแพร่รอบสองจนอ่างเก็บน้ำล้นตลิ่งชาวบ้านผวาอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยากแตก ขณะที่เชียงรายน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน นครพนมหนักสุดรอบ 30 ปีนาข้าวเน่าเสียหายกว่าแสนไร่
สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ยังไม่พ้นวิกฤตหลังเกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านส่งผลทำให้หลายจังหวัดอ่วมน้ำท่วม ชาวบ้านเดือดร้อนขยายเป็นวงกว้าง
ฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมาส่งผลทำให้น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนหมู่ที่ 8 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 3 ต.บ้านปิน อ.ลอง เป็นรอบที่สอง และยังเอ่อท่วมทางรถไฟสายเหนืออีกครั้งในรอบสัปดาห์ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่อยู่ในชุมชนอย่างมาก เพราะนอกจากอันตรายที่มากับความแรงของน้ำแล้วยังอาจมีสารพิษปนเปื้อนจากเหมืองวูลแฟลม ที่หมู่ 3 ต.บ้านปิน ติดมากับน้ำไหลลงสู่ลำธารสาธารณะ ซึ่งล่าสุดยังไม่มีหน่วยงานใดในจังหวัดแพร่ ออกมายืนยันความปลอดภัย หรือหาทางแก้ไขแต่อย่างใด
ขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เส้นทางของน้ำป่าดังกล่าว กำลังหวั่นวิตกว่า น้ำฝนที่ตกลงมาทุกวันมีปริมาณสูงมาก อาจทำให้อ่างเก็บน้ำอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอ่างขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ชื่อว่า “อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยาก” ที่มีน้ำล้นสปิลเวย์ในปริมาณมาก และมีรอยรั่วซึมของน้ำที่ฐานของสันเขื่อน อาจทำให้แนวสันเขื่อนซึ่งเป็นดินเหนียวอัด พังทลายเสียหาย จนเกิดน้ำทะลักครั้งใหญ่ก็เป็นได้ นอกจากนี้ที่บริเวณหมู่ 8 ต.เวียงต้า เกิดเสียงสัญญาณเตือนภัยดังเป็นระยะ ๆ ทำให้คนชุมชนหวั่นว่าปริมาณน้ำฝนที่มีมากอาจทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยาก พังลงมาเวลาใดเวลาหนึ่ง
เชียงรายน้ำท่วมหนักระบายไม่ทัน
ฝนตกหนักนานติดต่อกันกว่า 5 ชั่วโมงส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเฉพาะถนนพหลโยธินสายเก่า หน้าโรมแรมวังคำ ถนนหน้ากาดเจ็ดยอด ถูกน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 30 เซ็นติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงราย ต้องทำงานอย่างหนัก นำแผงเหล็กมาปิดกั้นเส้นทางจราจรในบางจุด ขณะที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ซึ่งเป็นสถานีบริการสำหรับโดยสารสายสั้น ภายในจังหวัดก็ถูกน้ำท่วมจนถึงชานชลา ทำให้ผู้โดยสารต้องเดินลุยน้ำ มาใช้บริการ ด้วยความลำบากตลอดทั้งวัน
ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเชียงรายรายงานว่า ฝนที่ตกในช่วงนี้เป็นร่องฝนที่เกิดขึ้นปกติในช่วงฤดูฝน โดยมีปริมาณน้ำฝนที่หนาแน่นประมาณ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีลักษณะฝนเช่นนี้ ไปจนถึงวันที่ 14 ส.ค.ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงลุ่มแม่น้ำและแนวสันเขา ที่มีโอกาสเกิดน้ำป่าไหลหลาก ก็ให้ใช้ความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ตากเคลียร์เส้นทางท่าสองยาง-แม่ระเมิงได้แล้ว
เจ้าหน้าที่แขวงการตาก 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ประกาศแจ้งประชาชนว่า สามารถใช้เส้นทางสายบ้านแม่สลิด ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ไปยังบ้านแม่ระเมิง ต.อมก๋อย อ.ท่าสองยาง ซึ่งเป็นติดต่อกับอ.อ๋มกอย จ.เชียงใหม่ได้แล้ว หลังจากที่เกิดเหตุอุทกภัยดินโคลนถล่ม ถนนสายดังกล่าวหลายจุด จากอทธิพบของพานุนกเตน เป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งขณะนี้ทางแขวงการตากที่ 2 อ.แม่สอด สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเคลียร์เส้นทางได้แล้ว อย่างไรก็ดีขอให้ประชาชนระวังในการสัญจรไปมา โดยเฉพาะบริเวณทีก่อสร้างใหม่ ส่วนการสร้างสะพานเบลี่ย์ที่บ้านแม่ตื่น เชื่อมหมู่บ้าน 8 หมู่บ้านนั้น ทางศูนย์สร้างสะพาน และบูรสะพานที่ 1 จ.พิจิตร สำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง ยังคงเร่งก่อส้รางสะพานให้ใช้ได้ทันก่อนวันที่ 12 ส.ค.นี้
หนุนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแก้น้ำท่วม
นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจน์ ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมที่สุดสำหรับน้ำจากแม่น้ำยมท่วม จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.อุตรดิตถ์ และจังหวัดลุ่มน้ำยมคือ การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ เพราะแม่น้ำยมเป็นลุ่มน้ำเดียวในประเทศที่ยังไม่มีการบริหารจัดการเรื่องน้ำ จากสถิติของน้ำในแม่น้ำยมมีมากถึง 3,200 ล้านคิวต่อปี ปริมาณน้ำดังกล่าวทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.แพร่ สุโขทัย และอีกหลายจังหวัดลุ่มแม่น้ำยม แต่พอถึงช่วงฤดูแล้งก็ไม่มีน้ำใช้ โดยเฉพาะด้านการเกษตร และระบบการผลิตน้ำประปา หากสามารถสร้างเขื่อนแก่งเสื้อเต้นได้ จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างเป็นรูปธรรม
นครพนมหนักสุดรอบ30ปี-นาข้าวเน่ากว่าแสนไร่
น้ำท่วมในจ.นครพนม ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.จนถึงปัจจุบันว่า ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากปัจจุบันระดับโขงจะขึ้นลงในละดับ 12 เมตร เพราะมีร่องมรสุมพัดผ่านเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นระดับน้ำที่หนุนเนื่องและเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรตลอดจนบ้านเรือนประชาชนตามแนวลำน้ำโขง เช่น อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง อ.ธาตุพนม
ทั้งนี้โดยเฉพาะอ.ศรีสงคราม อ.นาทม อ.นาหว้า และอ.โพนสวรรค์ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลน้ำในลำน้ำสงครามที่มีน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานเขตสกลนครไหลตามลำน้ำอูนมาสมทบกันที่ลุ่มน้ำศรีสงครามแต่ระบายลงสูงแม่น้ำโขงปลายทางคือปากน้ำสองสีต.ไชยบุรีไม่ได้ จนทำให้น้ำสงครามหนุนขึ้นสูงขึ้นท่วมถนนและบ้านเรือนริมน้ำสงครามในเขตเทศบาลศรีสงคราม เช่น บ้านปากอูน บ้านท่าบ่อ บ้านปากยามฯ พื้นที่การเกษตรนาข้าวเสียหาย สัตว์เลี้ยงวัวควายก็เดือดร้อนซึ่งหนักสุดในรอบ 30 ปี
นอกจากนี้จากสรุปผลพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้ง 12 อำเภอมี 97 ตำบล 1507 หมู่บ้าน 63,522 ครัวเรือน 26,1468 คน ถนนชำรุด 652 สาย สะพาน 2 แห่ง วัดโรงเรียน 5 แห่ง หนักที่สุดคือ นาข้าว 233,849 ไร่ สวนมันสำปะหลัง 4,705 ไร่ สวนยางพารา 3,691 ไร่ บ่อปลา 1,166 บ่อ รวมมูลค่าเสียหายเบื้องต้น 30,107,530 บาท มีประชาชนเสียชีวิต 2 รายจากน้ำเชี่ยวพัดจมน้ำในเขต บ.นาขาม ต.หนองแวง อ.บ้านแพง คือ 1.นางนิทรา ชมชนะกูล 2.น.ส.นัยนา บุญตาท้าว โดย นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ตายคนละ 2.5 หมื่นบาท


