ปูง่อนแง่นวงศาคณาญาติทึ้งโผครม.
โค้งสุดท้ายรายชื่อ ครม.ปู 1 ยังสะพัด ลงตัวเพียงไม่กี่ตำแหน่ง!
โค้งสุดท้ายรายชื่อ ครม.ปู 1 ยังสะพัด ลงตัวเพียงไม่กี่ตำแหน่ง!
โดย...ทีมข่าวการเมือง
ศูนย์อำนาจในพรรคเพื่อไทยมีหลายจุด ทำให้แกนนำ ลูกพรรคต่างวิ่งไปยัง “คนใกล้ชิดทักษิณ” ล็อบบี้ขอเป็นรัฐมนตรีกันคึกคัก รายชื่อว่าที่รัฐมนตรีใหม่จึงกระจุยกระจายมีหลายหน้าในช่วงที่ผ่านมา
ถ้าเปิดแคนดิเดตชิงเก้านับนิ้ววันนี้ปรากฏชื่อออกมาทั้งหมด มีถึง 50 คน ยังไม่รวมอีกร่วม 20 คน ที่คิดในใจว่า “ตัวเองก็เป็นได้” แต่ไม่กล้าเสนอตัว
พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่มี สส.มากถึง 256 คน บุคลากรจึงเพียบพร้อมมากกว่าทุกพรรค ที่สำคัญกว่าจะเป็นเพื่อไทยวันนี้ก็สืบทอดมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน รวมแล้วมีถึง 5 รัฐบาล
ทักษิณ ชินวัตร มีกุนซือมากมาย ใช้รบในสถานการณ์ต่างๆ ตามเงื่อนไขและการต่อสู้ขณะนั้น
เมื่อศูนย์อำนาจอยู่ที่ทักษิณ ใครวิ่งหาทักษิณได้หรือทักษิณไว้ใจใคร โอกาสเป็นรัฐมนตรีก็มีสูง
แต่การที่ทักษิณบริหารพรรคโดยผ่องถ่ายให้ครอบครัวชินวัตรดูแล มีน้องๆ คอยรับผิดชอบ สส.ตามแต่ละภาค ถนนสายต่างๆ จึงวิ่งไปหา คนตระกูลชินวัตรเพื่อผลักดันเป็นรัฐมนตรี
“เครือญาติชินวัตรและทีมกุนซือ” จึงมีอำนาจสูงสุดเสนอชื่อให้ทักษิณเคาะเอาใครเป็นรัฐมนตรี
รายชื่อเสนาบดีจึงเบียดขับเหมือนการจราจรตอนเช้าในกรุงเทพฯ ที่คับคั่งกว่าจะถึงเส้นชัยที่ดูไบ
ศูนย์อำนาจในพรรคแยกย่อยก่อนถึงมือทักษิณ ประกอบด้วย
สายจันทร์ส่องหล้า ของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร แม้จะไม่ปรากฏกาย แต่อำนาจใหญ่ล้นพรรค ในฐานะคนคู่ใจทักษิณ จนในพรรคเปรียบเปรยว่า “นี่แหละนายกฯ หญิงตัวจริง”
ที่ผ่านมาจึงปรากฏชื่อตัวเต็งวิ่งไปสายนี้ แต่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน นอกจากคนที่คุณหญิงอ้อเคยใช้บริการและไว้ใจ และหลายคนเมื่อหลุดโผจากมือทักษิณก็วิ่งไปที่ “หญิงอ้อ” จนเกิดการหักกับทักษิณหลายครั้ง เล่นเอาโผสุดท้ายพลิกไปมาหลายรอบ
อีกสาย คือ ว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโควตาที่ต้องขอแบ่งกับพี่ทักษิณ ที่ชัดสุดเห็นจะเป็น นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและแกนนำยุทธศาสตร์ที่ทุ่มเทให้พรรค ส่วนใหญ่ก็ตรงใจทักษิณ เช่น ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ปลอดประสพ สุรัสวดี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
สาย “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คุม สส.ภาคเหนือ ผลักดันมือขวามือซ้าย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ บุญทรง เตริยาภิรมย์ สส.เชียงใหม่ เป็นรัฐมนตรี
อีกสาย คือ พายัพ ชินวัตร คุมภาคอีสาน 104 คน แม้จะดูเยอะด้วยตัวเลข แต่ สส.สายอีสานทั้งหมดก็ไม่ได้ยอมรับ พายัพ จากปัญหาบริหารคนลำเอียง ใครใกล้ชิดมักได้ดี
กลุ่มอีสานจึงแตกกระจายไปขึ้นตรงกับหัวหน้ามุ้งที่ใจถึงพึ่งได้บางคน ชัดๆ เช่น “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มือขวาทักษิณ หรือ มุ้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ช่วยปราศรัยในหลายจังหวัด บ้างก็สร้างมุ้งจังหวัดเพื่อสร้างอำนาจต่อรองเอง
กระนั้น เด็กสาย พายัพ ที่ฝากให้พี่ชายพิจารณา เช่น นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ สส.ชัยภูมิ ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย สส.หนองคาย
นอกจากสายพี่น้องชินวัตรที่ส่งเข้าประกวดแล้ว ยังมีโควตาตรงของทักษิณ ส่วนใหญ่เป็น “คนนอก” ที่มีชื่ออยู่ขณะนี้ ซึ่งเจ้าตัวลงทุนทาบทามด้วยตัวเอง เช่น วิกรม คุ้มไพโรจน์ กิตติรัตน์ ณ ระนอง และกลุ่มแกนนำรู้ใจในพรรคอีกจำนวนหนึ่ง เช่น สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล พิชัย นริพทะพันธุ์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
ส่วนสายกุนซือเก่า เช่น “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ มี สส.ในมือ 40 คน และประเดิมได้ตำแหน่งรองประธานสภาไปแล้ว คือ วิสุทธิ์ ไชยอรุณ แว่วว่า เก้าอี้สำคัญที่กำลังได้มาครองอีก คือ รมว.คมนาคม หลังไล่บี้ สันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.คมนาคม ลูกน้องเก่าสำเร็จ
อีกสาย คือ “ยุทธ ตู้เย็น” ยงยุทธ ติยะไพรัช ถึงแม้จะทำให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบเพราะเจ้าตัวทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ทักษิณก็ยังใช้ยงยุทธ ทำงานเฉพาะกิจอยู่ และมีบทบาทร่วมในชัยชนะครั้งนี้
ทว่า กลุ่ม “ยุทธ ตู้เย็น” เน้นใน จ.เชียงราย เป็นหลัก โดยผลักดันให้พี่สาว บุศริณธญ์ วรพัฒนานันน์ และ อิทธิเดช แก้วหลวง สส.เชียงราย เป็นรัฐมนตรี
ที่พลาดไม่ได้ สาย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าทีมภาค กทม.คนข้างกายทักษิณสมัยนายใหญ่เล่นการเมืองใหม่ๆ ตั้งแต่อยู่พรรคพลังธรรม โดยเสนอชื่อ อุดมเดช รัตนเสถียร วิชาญ มีนชัยนันท์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นรัฐมนตรี แถมพ่วงด้วยการดัน ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ให้เป็น รมว.มหาดไทย
ในจังหวัดที่เข้มแข็งอย่าง อุดรธานี ที่ถือเป็นเมืองหลวงเสื้อแดงในภาคอีสาน ก็มีแกนนำอย่าง ขวัญชัย ไพรพนา ขึ้นตรงนายใหญ่ที่ลุ้นให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น มท.1
ส่วนปีกที่ใหญ่สุด คือ กลุ่มเสื้อแดง เทียบแล้วใหญ่กว่าทุกกลุ่ม ไม่ต้องวิ่งตรงกับทักษิณ แต่ทักษิณอาจต้องง้อกลุ่มเสื้อแดง เพราะถ้าไม่มีชื่อแกนนำ นปช.เป็นรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็อาจต้องเสียศรัทธาจากคนเสื้อแดง
งานนี้จึงเป็นการวัดใจนายใหญ่กล้าทิ้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ลงคอหรือไม่
ภาวะฝุ่นตลบในเพื่อไทย และไม่มีใครรู้ว่านายใหญ่ตัดสินใจเลือกใคร สะท้อนได้ดีจากคำพูดของเหล่าตัวเต็งที่มีต่อผู้สื่อข่าวหลายครั้ง “ยังไม่รู้เลยได้อะไร รู้อะไรช่วยบอกมั่ง” “เช็กข่าวให้หน่อย ว่าพี่ได้ (เก้าอี้) หรือเปล่า” “เขายังฝากให้ผมช่วยวิ่งให้ด้วยเลย” “พรรคนี้มันอยู่ที่คุณทักษิณคนเดียว”
สารพัดชื่อว่าที่รัฐมนตรีจึงปรากฏมากกว่าทุกครั้ง เพราะทุกคนถือว่าเป็น “นั่งร้าน” ช่วยทักษิณและเพื่อไทยชนะฝ่ายตรงข้ามครั้งนี้
ดังนั้น ต้องปูนบำเหน็จให้สมกับความเหนื่อยยากและใครได้เป็นก่อนได้เปรียบสูง
ฉะนั้น ภาพการเคลื่อนไหวแย่งชิงเก้าอี้ที่ออกมาในเวลานี้ จึงทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ที่มีการประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มียี้ หน้าตาต้องดี เพื่อปรองดอง ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข คงไร้ความเชื่อมั่นเชื่อถือ และนี่คือวิบากกรรมที่เพิ่งเริ่มของ “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย


