posttoday

คุก6เดือนสนธิ-สโรชาหมิ่น"ดามาพงศ์"

03 สิงหาคม 2554

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คดีสนธิ-สโรชาหมิ่นฯตระกูลดามาพงศ์จำคุก6 เดือนปรับคนละ5หมื่น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คดีสนธิ-สโรชาหมิ่นฯตระกูลดามาพงศ์จำคุก6 เดือนปรับคนละ5หมื่น

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ พิพากษาลงโทษจำคุก นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน, น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นายขุนทอง ลอเสรีวานิช เจ้าของและผู้จัดทำเว็บไซต์ manager.co.th และนายปัญจภัทร์ อังคสุวรรณ ผู้ควบคุมดูแลเว็บไซต์ จำเลยที่ 1, 2, 5 และ 10 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่น และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นเวลาคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 50,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลาคนละ 3 ปี

 

คุก6เดือนสนธิ-สโรชาหมิ่น"ดามาพงศ์" สนธิ-สโรชา

นอกจากยังพิพาษาให้ปรับบริษัทแมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และ บริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร จำเลยที่ 3 และ 6 ซึ่งเป็นนิติบุคคล คนละ 50,000 บาท และให้ร่วมกันลงตีพิมพ์คำพิพากษาลงใน น.ส.พ.ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์เป็นเวลา 7 วันต่อเนื่องกัน

คดีนี้ พล.ร.ท.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ญาติคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิกับพวก กล่าววิจารณ์การขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น ด้วยถ้อยคำลักษณะใส่ร้ายตระกูลดามาพงศ์และบุคคลในตระกูลดามาพงศ์ของโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2549

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2550 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ข้อเท็จจริงที่ได้จากคำเบิกความพยานโจทก์ยังคลาดเคลื่อนในทางนำสืบ จึงมีน้ำหนักไม่มั่นคงให้รับฟังได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลย จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทฯจึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 10

ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จากข้อความตามโจทก์ฟ้อง แม้ไม่มีชื่อโจทก์ แต่การที่ลงชื่อตระกูลทำให้ผู้อ่านย่อมเข้าใจไปได้ว่าหมายถึงทั้งตระกูลโจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย อีกทั้งมีความหมายในทางลบทำให้ประชาชนทั่วไปรู้สึกว่าการกระทำของตระกูลโจทก์กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ จึงไม่ใช่การเสนอข้อเท็จจริงโดยสุจริต ขณะที่จำเลยที่ 2,3 ,5,6และ10 มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วม ส่วนจำเลยที่ 4 เป็นเพียงผู้บริหารแผนฯของจำเลยที่ 3 ย่อมไม่มีส่วนกระทำผิด จำเลยที่ 8 และ 9 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 5 โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด
         
ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยพิพากษาว่าแก้ว่า จำเลยที่ 1,2,3,5,6 และ 10 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328, ประกอบมาตรา 83 ลงโทษดังกล่าว.

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์