เขมรโอดบาทแข็งซื้อสินค้าได้น้อยลง
ชาวเขมรทะลักชายแดนครวญเงินบาทแข็งค่า 1 บาทต่อ 150 รีล ทำให้ซื้อสินค้าได้ปริมาณน้อยลง
ชาวเขมรทะลักชายแดนครวญเงินบาทแข็งค่า 1 บาทต่อ 150 รีล ทำให้ซื้อสินค้าได้ปริมาณน้อยลง
ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากฝ่าสายหมอกแห่ข้ามพรมแดนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมั่นใจด้านความปลอดภัยภายหลังจากที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศพร้อมถอนทหารออกจากพื้นที่กรณีข้อพิพาทที่ปราสาทเขาพระวิหาร จ.พระวิหาร เพื่อซื้อหาสินค้าสำหรับการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนนำไปค้าขายต่อแก่เพื่อนบ้านสร้างรายได้สร้างกำไร
อย่างไรก็ตามประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากที่แห่ซื้อสินค้าชายแดนช่องจอมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสินค้าไทยแพงขึ้นซื้อของได้น้อยเพราะเงินบาทไทยแข็งค่าในรอบ 10 ปี ประกอบกับประเทศเขมรเองผูกขาดกับเงินสกุลดอลล่าร์สหัฐส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศไทย กับประเทศกัมพูชาอัตราการแลกเปลี่ยนเงินสกุลไทย กับสกุลเงินรีล ในอัตราการแลกเปลี่ยน 150 รีล ต่อ 1 บาทไทย หรืออยู่ที่ 15,000 รีลต่อ 100 บาทไทย
นางสก เค็ง ชาวจ.กำปงธม ผู้ประกอบการด้านการให้แลกเปลี่ยนเงินตราที่ตลาดช่องสะงำ กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนชาวเขมรมีความมั่นใจด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเชื่อมั่นในการเจรจากันเชื่อ2ประเทศกลับมามีมิตรไมตรีจิตเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกันตลอดไป
การค้าขายน่าจะกลับมารุ่งเรืองของประชาชนทั้ง2 ชาติ ขณะนี้ประชาชนชาวเขมรข้ามพรมแดนผ่านช่องสะงำจำนวนมาก
ด้าน นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าการท่องเที่ยวช่องสะงำกล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนชาวกัมพูชากล้าข้ามแดนไปมาหาสู่กันจำนวนมาก ส่งผลทำให้การค้ามีเงินสะพัดอีกครั้งโดยเฉพาะที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ประชาชนทั้งสองประเทศแห่ข้ามพรมแดนมากกว่ารอบหลายๆปีที่ผ่านมา แต่เนื่องมาจากขณะนี้เงินบาทประเทศไทยแข็งมาก ทำให้ชาวกัมพูชาซื้อสินค้าน้อยลง


