posttoday

ส่องประกันญี่ปุ่นผ่านสายตาลูกพระอาทิตย์

17 มีนาคม 2554

ความกลัวของประชาชนที่อยู่ใกล้กับประเทศญี่ปุ่นถูกกระพือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแดนปลาดิบ เมืองเซนไดประเทศญี่ปุ่นขนาด  8.9 ริกเตอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.2554

ความกลัวของประชาชนที่อยู่ใกล้กับประเทศญี่ปุ่นถูกกระพือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแดนปลาดิบ เมืองเซนไดประเทศญี่ปุ่นขนาด  8.9 ริกเตอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.2554

โดย...วารุณี อินวันนา

ความหวาดหวั่นอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกมายอมรับว่า การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกสร้างความเสียหายให้กับเตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมาถึง 3 เตา และ มีแนวโน้มว่าที่เหลืออีก 3 เตาอาจะเจอปัญหาเดียวกัน เพราะระบบความเย็นในการหล่อเลี้ยงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ทำงาน

ขณะที่ ลูกหลานพระอาทิตย์ที่มีถิ่นฐานแสนอบอุ่นแถบชายฝั่งทะเลทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียชีวิตและสูญเสียทรัพย์สินในชั่วข้ามคืน จากการเกิดสึนามิ ผืนดินที่อยู่ชายขอบของทะเล ที่เคยสูงกว่าระดับน้ำ ตอนนี้กลายเป็นผืนดินที่ปริ่มน้ำไม่อาจใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้เช่นเดิม

ปฏิกริยาตอบสนองความหวาดกลัวต่อมัจจุราชนิวเคลียร์ของชาวเอเชียรวมถึงทวีปอื่นๆ รวดเร็วดั่งคลื่นสึนามิที่ซัดกระหน่ำเมืองเซนได หลายประเทศออกมาตรการป้องกันการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีนิวเคลียร์ที่อาจมากับสายลม มากับน้ำ กับคน รวมถึงสัตว์ที่เป็นอาหาร

บริษัททัวร์ นักธุรกิจ ประชาชนทั่วไป หยุดการเดินทางไปญี่ปุ่น การลงทุนหยุดชะงัก รัฐบาลทั่วโลกเร่งอพยพประชากรของตัวเองออกจากญี่ปุ่นอย่างอลหม่าน

ความเสียหายทางเศรษฐกิจถูกประเมินทันทีจากสำนักวิจัยทั่วโลก ทั้งที่แผ่นดินยังสั่นสะเทือน น้ำที่ถูกพัดจากสึนามิ ยังไม่ลด เหยื่อภัยธรรมชาติยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทประกันภันภัยในญี่ปุ่นในฐานะที่ทำธุรกิจบริหารความเสี่ยงถูกวิเคราะห์ว่าจะต้องขาดทุนหนักและอาจมีปัญหาสภาพคล่อง ต้องระดมเงินทุนจากบริษัทลูกจากทั่วโลกเข้าไปช่วยจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้น อาจทำให้บริษัทในเครือทั่วโลกมีปัญหาสภาพคล่อง การขยายการลงทุนหยุดชะงัก จากข้อมูลที่ว่า คนญี่ปุ่นทำประกันชีวิตและประกันภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เฉลี่ยถือกรมธรรม์คนละ 5 ฉบับ

ขณะที่ ชาวญี่ปุ่น ลูกพระอาทิตย์ กลับมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับประชาชนทั่วโลกที่อยู่นอกประเทศ โดยสะท้อนผ่านสาร แถลงการณ์ภายในของบริษัทประกันภัยในญี่ปุ่น ที่ถูกส่งต่อไปยังบริษัทลูก หรือ บริษัทในเครือทั่วโลก ผู้บริหารจากแดนปลาดิบในประเทศไทยว่า ความเสียหายที่จะเกิดกับบริษัทประกันภัยในญี่ปุ่น ไม่ได้รุนแรงอย่างที่สายตาชาวโลกมอง

 

ส่องประกันญี่ปุ่นผ่านสายตาลูกพระอาทิตย์

 

ทั้งนี้ ลูกพระอาทิตย์ แยกว่า ความเสียหายแยกเป็น 2 ส่วน คือ

1.ความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว และ สึนามิ ซึ่งกรณีนี้ หากประชาชนซื้อความคุ้มครองภัยธรรมชาติต่อทรัพย์สินไว้ ก็จะได้รับการชดใช้ตามสัญญา แต่ถ้าไม่ได้ซื้อก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง ส่วนกรณีชีวิต จะได้รับความคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณีรวมถึงการเสียชีวิตจากนิวเคลียร์

แน่นอนว่า ความสูญเสียของชาวญี่ปุ่นครั้งนี้ ในความรู้สึกของคนในชาติแล้วเป็นความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ไม่อาจจะเยียวยาได้ด้วยเงิน หรือ สิ่งของ แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน การให้กำลังใจซึ่งกันและกันเข้าช่วย

แต่ความสูญเสียต่อบริษัทประกันภัยมีไม่มาก โดยสะท้อนผ่านรายงานของทางเอเอ็มเบส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ประมาณการความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในครั้งนี้อยู่ระหว่าง 1.45 –3.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4.35 แสนล้านบาท ถึง 1.03 ล้านล้านบาท

และประเมินว่า บริษัทประกันภัยในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการจัดอันดับโดย เอเอ็มเบส  6 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทโตเกียว มารีน แอนด์ นิชิโดะ ไฟร์ อินชัวรันส์ บริษัทสมโพธิ์ เจเปน อินชัวรันส์ บริษัทมิตซุย สุมิโตโม ประกันภัย บริษัทไอโออิ นิสเซย์ โดวา อินชัวรันส์ บริษัทนิปปอนโกะ อินชัวรันส์ บริษัท เดอะฟูจิ ไฟร์ แอนด์ มารีน อินชัวรันส์ และบริษัทเดอะ Toa รับประกันภัยต่อ ซึ่งมีเบี้ยรับรวมกันครองส่วนแบ่งตลาดถึง 91% ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2552 จะสามารถรับมือได้

ขณะที่ ความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยจากแผ่นดินไหว ทางบริษัทประกันภัยญี่ปุ่น และ บริษัทรับประกันภัยต่อต่างๆ คาดว่าจะเสียหายสูงสุดจำนวน 5.9 แสนล้านเยน หรือ ประมาณ 7,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทเจแปน เอิร์ทเควก รับประกันภัยต่อ ในฐานะรับประกันภัยธรรมชาติต่อจากบริษัทประกันภัยในประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งบริษัทนี้ได้กันเงินสำรองเพื่อไว้จ่ายกรณีภัยธรรมชาติ 90% จะลดผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนของบริษัทประกันภัยญี่ปุ่นในปี 2554 นี้

 

ส่องประกันญี่ปุ่นผ่านสายตาลูกพระอาทิตย์

ด้าน โกลด์แมน แซค วิเคราะห์สถานะของ 3 บริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ 3 อันดับแรกของญี่ปุ่น มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหวคิดเป็นประมาณ 3% ของเบี้ยรับรวมของแต่ละบริษัท ประกอบด้วย บริษัทเอ็มเอส แอนด์ เอดี ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น มีเบี้ยประกันภัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ณ มี.ค. 2553 จำนวน 3.07% ของเบี้ยรับรวม 1.28 ล้านล้านเยน หรือ 1.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 81.915 เยน

บริษัทโตเกียว มารีน โฮลดิ้งส์ มีเบี้ยประกันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว 3.2% หรือ 3.52 หมื่นล้านบาท ของเบี้ยประกันรวม 1.1 ล้านล้านเยน

บริษัทเอ็นเคเอสเจ โฮลดิ้งส์ มีเบี้ยประกันภัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหว 3.16% หรือ 4.05 หมื่นล้านเยน จากเบี้ยประกันรับรวม 1.28 ล้านล้านเยน

แสดงให้เห็นว่า บริษัทเหล่านี้ได้รับผลกระทบในวงเงินที่จำกัดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ

ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงก่อนหน้านี้เกิดที่เมืองโกเบ และบริเวณใกล้เคียง เมื่อปี 2538 ซึ่งครั้งนั้นนับเป็นการจ่ารยเงินชดเชยกรณีแผ่นดินไหวจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาจำนวน 7.83 หมื่นล้านเยน

2.ความเสียหายที่เกิดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับชาวญี่ปุ่นที่สุด ไม่ใช่เฉพาะชาวโลกเท่านั้น เพราะบาดแผลจากการที่พี่น้องในชาติได้รับเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองฮิโรชิมา และนางาซากิ เมื่อปี 2488 ยังมีให้เห็นแม้จะผ่านมาแล้ว 66 ปีและเป็นความสูญเสียที่หยั่งลึกในจิตวิญญาณของลูกหลานพระอาทิตย์ทุกคน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับมันอีก

ลูกพระอาทิตย์ ได้แต่ภาวนาว่า รัฐบาลจะจัดการเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดอย่างมีสติ และเพื่อนร่วมชาติทั้งในประเทศและอยู่ทั่วโลกจะเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาและซึมซับความเจ็บปวดในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อบริษัทประกันภัยในด้านที่จะต้องมาจ่ายชดเชยไม่มี เนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้ทำประกันภัยไว้กับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบกรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากนิวเคลียร์ และกรณีประชาชนเจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสีนิวเคลียร์รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงไม่กระทบต่อบริษัทประกันภัย

กระนั้นก็ตาม มุมมองของลูกพระอาทิตย์ เกิดจากการหล่อหลอมวิถีชีวิตที่เติบใหญ่มากับภัยธรรมชาติ ที่มองเหตุการณ์แผ่นดินไหว เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญตลอดชีวิต ต้องอยู่และยอมรับกับธรรมชาติมอบให้ มีความเสียสละเพื่อสร้างชาติให้เข้มแข็ง อดทนในการรวมพลังประเทศให้มั่นคงแข็งแกร่ง

ต่างจากประชาชนที่อยู่ภายนอกซึ่งมองเข้าไปดูเหตุการณ์ในญี่ปุ่น ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนกันว่า ธรรมชาติที่ดินแดนแห่งนี้ช่างโหดร้ายกับเพื่อนร่วมโลกบนผืนดินนี้ยากที่จะรับได้ ยิ่งการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้สั่นสะเทือนความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในรัศมีที่ลม น้ำ คน สัตว์ จะพัดหอบมฤตยูกัมมันตรังสีไปคร่าชีวิตถึงบ้านอันแสนอบอุ่นอย่างไม่รู้ตัว