posttoday

22ส.ค.มวลน้ำเหนือ ทะลักถึงสุโขทัย-เตือนภัยเขตศก.

21 สิงหาคม 2561

อิทธิพลของพายุ “เบบินคา” ทำฝนตกสะสมในหลายจังหวัดภาคเหนือเป็นจำนวนมาก และกำลังไหลผ่านแม่น้ำยมจนวิกฤต

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์ 

อิทธิพลของพายุ “เบบินคา” ทำให้ปริมาณฝนตกสะสมในหลายจังหวัดภาคเหนือเป็นจำนวนมาก และกำลังไหลผ่านแม่น้ำยมจนวิกฤต โดยปริมาณน้ำในแม่น้ำยมสูงสุด 1,116 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที น้ำไหลผ่าน อ.เมือง จ.แพร่มีปริมาณสูงสุด 900 ลบ.ม./วินาที และผ่านที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีปริมาณสูงสุด 900 ลบ.ม./วินาที ซึ่งในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะไหลผ่าน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีปริมาณสูงสุด 850 ลบ.ม./วินาที โอกาสเสี่ยงสูงที่น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจเมืองสุโขทัย

ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนชาว จ.สุโขทัย เตรียมพร้อมรับมือน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ดังนั้นขอให้ยกสิ่งของนำไปเก็บไว้ที่สูง อย่างไรก็ตามทางกรมชลฯ ได้เตรียมการล่วงหน้ารับมือน้ำท่วมเมืองสุโขทัยแล้ว โดยลดระดับน้ำที่หน้าประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ที่ระดับต่ำสุด สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 8-10 ล้าน ลบ.ม. กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำในคลองยม-น่าน และแม่น้ำยมสายเก่า พร้อมกับพร่องน้ำในแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงลงที่ระดับต่ำสุด สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 25 ล้าน ลบ.ม.

“ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมพื้นที่เพาะปลูกในทุ่งบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พื้นที่ 3.82 แสนไร่เพื่อใช้เป็นพื้นที่รับน้ำจากภาคเหนือ ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกได้เก็บเกี่ยวไปแล้ว 90% ที่เหลืออีก 10% เป็นพื้นที่ดอนไม่ได้รับผลกระทบจากการนำน้ำเข้าไปพัก รวมทั้งแก้มลิง บึงขี้แร้ง บึงตะเคร็ง และบึงระมาณ มีปริมาณน้ำประมาณ 50% สามารถรับน้ำได้ประมาณ 16 ล้าน ลบ.ม.” ทองเปลว กล่าว

สำหรับการบริหารจัดการลดผลกระทบเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงมีระดับตลิ่งต่ำสุด โดยผันน้ำเข้าคลองสวรรคโลก-พิชัย (ยม-น่าน) ผ่านประตูระบายน้ำคลองหกบาท ในอัตรา 250 ลบ.ม./วินาที ผันน้ำลงแม่น้ำน่าน ในอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งผันน้ำลงแม่น้ำยมสายเก่า ในอัตรา 150 ลบ.ม./วินาที โดยควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 650 ลบ.ม./วินาที เพื่อทำการหน่วงน้ำที่ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ผันน้ำเข้าคลองเล็กฝั่งซ้าย-ขวาในอัตราสูงสุดรวมไม่เกิน 150 ลบ.ม./วินาที ผันน้ำเข้าไปเก็บที่ทุ่งทะเลหลวงผ่านคลองตาดินและคลองบางคลอง เข้าเก็บกักในแก้มลิงต่างๆ ที่ยังมีช่องว่าง
เพื่อควบคุมปริมาณน้ำผ่านสถานี Y4 อ.เมือง จ.สุโขทัย ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 550 ลบ.ม./วินาที

ขณะเดียวกัน ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดที่ติดแนวแม่น้ำยมขอให้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถขุดตัก ให้พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำให้กับทาง จ.สุโขทัย ทราบ เพื่อประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบและเตรียมรับสถานการณ์ การเฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยง เฝ้าระวังพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยตามแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม ที่อาจจะมีน้ำผุดลอดใต้กำแพง

ด้าน พิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.สุโขทัย กล่าวว่า ได้ประกาศเตือนประชาชนผ่านหน่วยงานทุกพื้นที่และสื่อทุกแขนง พร้อมทั้งได้กำชับทุกหน่วยงานให้เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งสภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลันในตั้งแต่วันที่ 21-24 ส.ค. โดยเฉพาะในวันที่ 22 ส.ค.คาดว่ามวลน้ำจาก จ.แพร่ ซึ่งมีปริมาณ 1,350 ลบ.ม. จะไหลเข้าสู่พื้นที่ จ.สุโขทัย และให้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 100% จนกว่าสถานการณ์จะยุติ แต่ได้พร่องน้ำในแม่น้ำยมตลอดสายไว้แล้ว

ด้าน สำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต กล่าวว่า ฝนตกหนักจากอิทธิพลเบบินคาทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศ 2,674 ล้าน ลบ.ม. สูงสุดที่ภาคตะวันตก 1,062 ล้าน ลบ.ม. ภาคเหนือ 627 ล้าน ลบ.ม. ภาคใต้549 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 256 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 119 ล้าน ลบ.ม. และภาคกลาง 61 ล้าน ลบ.ม. โดยมี 5 เขื่อนใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะมีน้ำกับเก็บ 84% ของความจุ ทำให้ต้องพร่องน้ำออกต่อเนื่องและรับมือฝนตกหนักหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามคาดการณ์ว่าจะเกิดพายุไต้ฝุ่นและพายุดีเปรสชันเขตร้อนราว 5-6 ลูกในทะเลจีนใต้ส่งผลกระทบต่อเวียดนามและไทยด้วย

ทั้งนี้ 5 เขื่อนใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ ประกอบด้วย เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปริมาณน้ำ 776 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 109% เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ปริมาณน้ำไหลเข้าน้อยกว่าระบายออก 5.28 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ปริมาณน้ำ 7,984 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 90%เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 194 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 86% เขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปริมาณน้ำ 330 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84%