posttoday

"ถอดบทเรียนภัยเรือล่ม" เร่งฟื้นความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย

25 กรกฎาคม 2561

เหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มกลางทะเลที่ภูเก็ตเป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องนำมาถอดบทเรียนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวไทยให้คืนกลับมา

เหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มกลางทะเลที่ภูเก็ตเป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องนำมาถอดบทเรียนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวไทยให้คืนกลับมา

*****************************

โดย.....ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะอนุกมธ.ด้านการท่องเที่ยว ได้จัดเสวนาเรื่อง “ท่องเที่ยว ไทยเท่ เก๋ไก๋ สดใส ทุกที่” ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีนี้ในไตรมาสหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวมากกว่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ และแนวโน้มก็จะมีมากขึ้น และการเข้ามาเกินกว่าครึ่งของนักท่องเที่ยว กระจุกอยู่ใน 20 เมืองหลักๆของไทย อาทิ กทม. ภูเก็ต ดังนั้น ต้องกระจายไปยังท่องเที่ยวเมืองรอง

ขณะเดียวกัน การส่งนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเมืองรอง ต้องลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ เช่น หากจำหน่ายอะไร วัตถุดิบก็ควรจะมาจากพื้นที่นั้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการท่องเที่ยวชุมชน ไม่ใช่แค่เที่ยวผ่านไปเท่านั้น อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่เป็นสาระ คนเที่ยว เที่ยวด้วยความรู้สึก แต่การจัดท่องเที่ยวต้องทำด้วยความรู้

นอกจากนี้ สำคัญที่สุดเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวสูง แออัด ในบางพื้นที่ ไม่ใช่แค่ความปลอดภัย อาชญากรรม ภัยพิบัติเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยต้องไม่ต่อรอง เพราะวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก และประเทศไทยนั้นมีนักท่องเที่ยวหลากหลาย

“เราได้บรรยากาศการตื่นตัวขนาดนี้ไม่ได้ง่ายๆ เราต้องมาดูคุณภาพ ความรับผิดชอบ ไม่ว่าใครจะเข้าประเทศต้องซื้อประกัน เพื่อคุ้มครองภัย นักท่องเที่ยวเพิ่มความเสี่ยงตัวเอง ต้องซื้อประกันเพิ่ม เพื่อให้เป็นมาตรฐานทางระบบป้องกันภัย สิ่งที่ต้องเร่งทำ คือ มาตรฐานการใช้ เช่น เรือนักท่องเที่ยว มาตรฐานการท่องเที่ยวถ้ำ เรือภัตตาคาร การล่องแพ เพื่อทำงานอย่างมืออาชีพ”

ด้าน พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยากเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและมีธรรมาภิบาล คือ 1.ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด2.ไม่หลอกลวงมีจิตบริการต่อนักท่องเที่ยว 3.เข้าระบบการทำธุรกิจให้ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการสีเทาที่ไม่ยอมเสียภาษี ก็ต้องเข้าสู่ระบบเสียภาษีให้ถูกต้อง

และ 4.ขอให้ทำธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ขณะเดียว อยากฝากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงองค์กรภาคเอกชนต่างๆ ควรร่วมกันออกกฎในการปฏิบัติในการกำกับดูแลกันเอง หากไม่ทำตาม ก็ให้ขับไล่ เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว

ขณะที่ ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า สถานการณ์การท่องเที่ยว 6เดือนแรก มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดจีน แต่เมื่อเกิดเหตุเรือล่มในจ.ภูเก็ต สิ่งเป็นประเด็นปัญหาได้มีการแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว แต่อาจยังตอบโจทย์ และจากมีโอกาสพบผู้ประกอบการในจีนได้รับรายงานว่ามีการยกเลิกการจอง ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือขอเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งไม่ใช่ทะเล

“ททท. พยายามเร่งสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆด้วย เราติดตามสถานการณ์เดือนส.ค. จะส่งผลกระทบหรือไม่อย่างไร แต่การไม่เชื่อมั่นมีหลายสาเหตุ สุดท้ายเป็นความรู้สึก และโซเชียลมีการนำเสนอบางส่วนไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกนักท่องเที่ยวจีน เราพยายามสร้างความเชื่อมั่น และเรายังให้ความสนใจทุกเรื่องเสมอ”

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า วันนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากที่อาศัยประเทศไทย โดยใช้วีซ่าเข้ามาทำงาน แล้วบางส่วนเข้ามาประกอบอาชญากรรม โดยในปี 2558 ในเรื่องของทัวร์ศูนย์เหรียญ รัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้ทุกวันนี้ไม่มีทัวร์ศูนย์เหรียญหลงเหลือ ส่งผลให้ปี 2559 ประเทศไทยสามารถจัดเก็บภาษีจากการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวได้ถึง 6 พันกว่าล้านบาท ขณะที่ ปี 2560 เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาท

“ผมยืนยันว่านโยบายของนายกรัฐมนตรีในการปราบปรามเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญถือว่ามาถูกทางแล้ว ส่วนกรณีจ.ภูเก็ตจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในทุกมิติ สร้างความปลอดภัยในทุกด้าน ทั้ง เรือ รถบัส โดยวันนี้กรมเจ้าท่าได้มีการลงไปตรวจเรือทุกชนิดที่มีอยู่กว่า 400 ลำ เบื้องต้นตรวจเรือแล้ว 100 กว่าลำ พบว่าผิดมาตรฐาน 26 ลำ ก็จะไม่ให้ออกทะเล เพื่อให้รัฐบาลจีนเห็นถึงความเข้มข้นของมาตรการความปลอดภัย”

อย่างไรก็ตาม จากนี้ในการปล่อยเรือออกทะเลแต่ละครั้ง จะต้องมีเจ้าท่ารวมกับตำรวจท่องเที่ยวทำหน้าปล่อยเรือออกสู่ทะเล ส่วนการดำเนินคดี การจับกุมผู้กระทำผิดในเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญจากเดิม คนต่างชาติสวมบัตรเพื่อเข้ามาทำธุรกิจ ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยน คนต่างชาติยังอยู่ต่างประเทศ แล้วให้คนไทยเป็นนอมินี วันนี้ก็จะจัดการทั้งนอมินีและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง