posttoday

เฉลิมโมเดล ปฎิบัติการพา "ทักษิณ"กลับบ้าน

02 ตุลาคม 2553

เฉลิม อยู่บำรุง เป็นอีกคนที่ประกาศตัวนำเสนอ "แพ็กเกจ" การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นระบบ โดยพุ่งเป้าดึง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" มาเป็นจุดขายสำคัญ.....

เฉลิม อยู่บำรุง เป็นอีกคนที่ประกาศตัวนำเสนอ "แพ็กเกจ" การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นระบบ โดยพุ่งเป้าดึง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" มาเป็นจุดขายสำคัญ.....

โดย ...ทีมข่าวการเมือง

เฉลิม...ไม่เคยใฝ่ฝันเป็นนายกฯ

ท่ามกลางความปั่นป่วนภายในพรรคเพื่อไทย แกนนำในพรรคต่างออกมาชิงจังหวะการนำประกาศตัวอาสาแก้วิกฤต ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางการเมือง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.สัดส่วนและประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เป็นอีกคนที่ประกาศตัวนำเสนอ "แพ็กเกจ" การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นระบบ โดยพุ่งเป้าดึง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" มาเป็นจุดขายสำคัญ

แนวคิดนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังอุบไต๋รายละเอียดที่จะรอจังหวะนำไปขายไอเดียโดยตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กับจุดยืนหลักๆ ทั้งนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้พักหนี้เกษตรกร5 ปีในรายที่ไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนวงเงิน5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท ให้ปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมเดินตามแนวทางเดิมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ วางไว้ และเสริมสร้างแนวทางปรองดอง พร้อมไฮไลต์ด้วยการ "นิรโทษกรรม"และ "อภัยโทษ" ความผิดที่เกิดตั้งแต่หลังวันที่ 19 ก.ย. 2549

เฉลิมโมเดล ปฎิบัติการพา "ทักษิณ"กลับบ้าน

"ไม่ทำอย่างนี้เพื่อไทยไม่มีวันชนะ ถ้าจะแข่งกับอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) ต้องขายความหวังว่าเราจะเอาทักษิณกลับมา ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะไม่งั้นจะขายใครยาหมดอายุแล้วทั้งนั้น ต้องขายทักษิณ พอโฟกัสตรงนี้ ถ้าไม่ขายจุดนี้เพื่อไทยจะขายอะไร"

ร.ต.อ.เฉลิม อธิบายแนวคิดของเขาว่าหากนำเสนอ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือนายโอฬาร ไชยประวัติ มาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วเกิดชนะเกินกึ่งหนึ่ง เขาก็จะบอกว่าชนะเพราะนายโอฬาร ไม่ได้ชนะเพราะทักษิณดังนั้นต้องเปิดหน้าชก เขาจะทำหน้าที่ไดเรกต์เซลส์ ซึ่งจะต้องมีสินค้าแบรนด์เนมเป็นทักษิณ ถ้าไม่มีก็เจ๊ง ส่วนคนที่จะเป็นนายกฯยังไม่ต้องบอกว่าจะเป็นใคร รอให้ชนะก่อน

"คล้ายกับภาคใต้ หากไม่อ้าง ชวน (หลีกภัย) จะหาเสียงได้ไหม เพราะขนาดป้ายหาเสียงไปติดตามท้องถนน ฝนตกยังมีคนไปกางร่มให้ แค่คุณชวนนั่งรถจี๊ปก็เป็นข่าวใหญ่แล้วถ้าไม่ยอมรับตรงนี้การเมืองสู้เขาไม่ได้ มีคนบอกว่าพี่เล่นเบากับอภิสิทธิ์ ผมก็บอกว่าเล่นแรงก็เจ๊งสิ แค่ยืนคู่กันเขาก็ดีผมชั่วแล้ว"

ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า แนวคิดขาย"ทักษิณ" จะไม่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม เพราะเนื้อหาทั้งหมดจะเป็นเหมือนกับข้อตกลงสาธารณะก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ว่าจะทำอะไรบ้าง เป็นขั้นเป็นตอน หนึ่ง สองสาม เป็นนโยบายของพรรคเสร็จใน 180 วันหากไม่เห็นด้วยก็เลือกพรรคอื่น ซึ่งผมมั่นใจว่าได้ ไม่ใช่ไม่บอกก่อนแล้วอยู่ดีๆ มาทำเพราะแม้แต่ฝั่ง "กองทัพ" ที่ยังมีการต่อสายแอบคุยไว้หมดแล้วแค่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด

"การปรองดอง สามัคคีจะเกิดขึ้นได้ ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เพราะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่พอ แค่ฝ่ายค้านคุยรัฐบาล แค่เราไม่ด่าประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ไม่ด่าเรายังไม่ใช่ปรองดอง ปรองดองต้องทำเป็นองค์รวม ต้องได้รับฉันทานุมัติจากสังคม วันนี้ไม่ต้องไปเจรจากับใครแล้ว มันอยู่ที่มาตรฐานลอว์เอ็นฟอร์ซเมนต์ หลักนิติรัฐ หลักนิติธรรมต้องมีความเสมอภาคถึงจะไปได้ บอกไปแล้วให้จตุพรเลิกด่าทหาร ด่าแต่ประชาธิปัตย์เพราะเขาเป็นรัฐบาล"

ส่วนความกังวลในกระแสข่าวว่าอาจจะมีการกระบวนการที่ไม่ใช่การเลือกตั้งเข้ามาแทรกนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ฟันธงว่า อย่างไรก็ต้องมีเลือกตั้ง ที่สำคัญอยู่ตรงที่หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล เพราะจะไม่มีใครจะมาจับกับพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่อัตตาหิ อัตตโน นาโถ คุณไม่มีวันที่จะเป็นรัฐบาล

ทว่า สาเหตุที่ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม ต้อง "ดึงเรื่อง" ไม่หอบข้อมูลทั้งหมดไปเสนอขอความเห็นชอบจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงนี้เนื่องจากเห็นว่ายังมีเวลาอีกนาน 15 เดือน เมื่อประเมินแล้วยังมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าจะถูกยุบ ดังนั้นถ้าไปพูดก่อนเดี๋ยวมีใครไปเปลี่ยนความคิดเขา

สัญญาณตอบรับที่ออกไป หลายคนเห็นด้วย มีแต่พวกสมาชิก 111 ที่มองการเมืองไม่เหมือนเขา เนื่องจากสมาชิก 111 มองว่าเป็นคนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โต แต่เขาหารู้ไม่ว่าที่เขาโตเพราะทักษิณ

ทั้งหมดนี้ ต้องทำเป็นสัญญาประชาคมต้องใส่สุดหมัดวัดไปเลย ต้องให้ชนะ ไม่งั้นก็ไม่ได้กลับ ถ้าคุณไม่มีอำนาจก็อย่าหวังได้กลับบ้านเลย ถ้าคุณตัดสินใจให้คนเป็นนายกฯ ผิดก็อย่าหวังได้กลับบ้าน ดูประชาธิปัตย์ร้ายกาจขนาดไหนแล้วใครจะไปสู้เขา รอบนี้อีกสี่ปี ถ้าไม่กลับมาก็มีคลื่นลูกใหม่

สำหรับปัญหาใหญ่อย่างเรื่อง "คดีความ" กลุ่มทั้งกลุ่มนักการเมือง ทหาร ตำรวจ เสื้อเหลือง เสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิม อธิบายคร่าวๆ ว่า เตรียมที่จะผลักดันการนิรโทษในคดีที่ยังไม่ตัดสิน ส่วนคดีที่ตัดสินแล้วก็ให้อภัยโทษ ซึ่งเขียนไว้เสร็จแล้ว มีอดีตอัยการ อดีตผู้พิพากษา ที่เป็นเพื่อนกัน มาช่วยเขียนเสร็จเรียบร้อย ง่ายๆ

"ถ้าจะให้ผมเล่นการเมืองแล้วไปไฟเตอร์ คุณต้องให้ผมมีสัดส่วนในการกำหนดแนวทาง และถ้าแนวทางนี้ไม่เห็นด้วยก็ต้องให้โหวตในพรรค ผู้แทนว่าไง เห็นด้วยไหมถ้าไม่เอาก็ไม่ว่านะ แต่ถ้าไปตัดสินใจกันเองแล้วไม่โหวต?ผมก็ไปลงเขต แต่ถ้าโหวตมั่นใจว่าชนะ แต่ทักษิณต้องอิกนอร์

สายอีสาน สายเหนือ ชอบผม แนวนี้ ให้ผมขายคุณนะ ไม่ใช่ขายผมนะ คุณเก่ง มีความสามารถ แล้วคุณยังปฏิเสธความหวังดี และความเป็นไปได้ทางการเมือง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ถ้าผมบอกว่ารอบนี้ ต้องขายผมนะ บ้าการเมืองเป็นเรื่องของความเชื่อ"

"ถ้าวันนี้เอาผมไปขายตั้งแต่ต้น เอาเฉลิมเป็นนายกฯ ก็แพ้เลย ต้องให้คนมีความรู้สึกว่า กูรักทักษิณ กูจะทำยังทักษิณปลอดภัย ให้ทักษิณกลับมา ให้คดีความจบ เรียบร้อย เป็นนโยบายต้องไม่ประกาศนายกฯ พี่จิ๋วเป็น มิ่งขวัญเป็นก็ไม่รังเกียจ ผมก็เป็นรัฐมนตรี แต่ถ้าไปชูมิ่งเมื่อไหร่แพ้เลย มิ่งขวัญดีไหม ก็ดีประนีประนอม แต่ถ้าเป็นแล้วทักษิณไม่ได้กลับ เขาไม่กล้า พี่จิ๋วเหมาะสุดในความเป็นทหารเก่าอดีตนายกฯผมไม่เคยใฝ่ฝันเป็นนายกฯ สูงสุดคิดไว้ที่รัฐมนตรีมหาดไทยและก็ได้เป็นแล้ว"

"ถ้าทักษิณมีตัวเลือก ผมจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เขาเลือก นี่เราคิดให้เขา แต่เขาไม่เอาเรา เพราะคนเป็นเพื่อนกันมานาน คบกันมานานรู้นิสัยใจคอ เพราะพี่เหลิมนี่สั่งได้บางเรื่อง บางเรื่องสั่งไม่ได้ ผมเป็นคนมีหลักการ ผมก็รู้เขาไม่ไว้ใจผม เพราะความเป็นเพื่อน เขารู้ว่าสุดท้ายถ้าเขาพูดแล้วพี่ไม่ฟังเขาจะทำอย่างไร เขาทำสำเร็จมาเยอะแต่รอบนี้เขาต้องทบทวน"

"ถ้าไม่เชื่อแนวทางผม ผมก็ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ ไปลงเขตไม่อยากเหนื่อย แล้วไปหาเสียงถูกยิงตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าไม่เคลียร์ให้ชัดเจน แล้วใครยิงก็ตูมๆ ไม่รู้ใครยิง บนเวทีปราศรัยเอ็ม 79 ยิงมาสักลูกก็ไม่รู้ใคร คนแพ้เคยเขียนประวัติศาสตร์ไหม มีแต่คนชนะ

...แต่ไม่ทิ้งเขา ห่วงใยกัน แต่ถ้าไม่ฟังกันบ้างเราก็ต้องมีทางเดินของเรา แผนนี้ยังไม่รู้จะชนะหรือเปล่าเลย แต่ชนะประชาธิปัตย์ชนะแน่ ซึ่งนี่คือการบ้านที่ทักษิณต้องคิด"

พท.อยู่ในคิลลิงโซน

สวนทางกับการวิเคราะห์ของบรรดา"เกจิการเมือง" ที่ประสานเสียงไปทำนองเดียวกันว่า "รัฐบาล" น่าจะไม่สามารถประคองตัวฝ่า "คลื่นลม" ไปพ้นปลายปีนี้ โดยเฉพาะเงื่อนไขสำคัญ อย่างคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่จ่อคิวรอการตัดสิน  ทว่า "สิงห์เหลิม" ฟันธงแล้วเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ครบวาระ "เตรียมเลือกตั้งล่วงหน้าไว้อีก 15 เดือน"

พร้อมวิเคราะห์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าจะถูกยุบ ทางออกจะไปอยู่ตรงที่ประเด็นซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองเคยเห็นว่าไม่ผิดทำให้ไม่ต้องยุบพรรค เมื่อเขาออกไปทางข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็จะไปออกทางข้อกฎหมาย

หรือหากพิจารณาเรื่องนี้เสร็จออกไม่ได้ ก็เตะไปอีกคดี 258 ล้านบาท รวมเสร็จก็แก่พอดีพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ใกล้ชิดสถาบันศาลมากที่สุด และคุณชวนปูพื้นฐานไว้ดี พอเราบอกชวนดี ในพรรคก็หาว่าเรากลัวชวน

ทฤษฎีเรื่องยุบประชาธิปัตย์ แล้วมี สส.ไหลมารวมกับพรรคเพื่อไทยแล้วไม่ต้องมีเลือกตั้งนั้นยาก เพราะกรณีแรก ไม่ยุบก็จบ กรณีที่สอง ยุบแต่ไม่ตัดสิทธิ หรือกรณีสาม ยุบแล้วไม่ตัดสิทธิ สุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นมารักษาการนายกฯ กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้รักษาการนายกฯยุบสภาไม่ได้ ทำไมเขาจะไม่เตะชามข้าวทิ้งดังนั้น ก็ต้องอยู่กันไปอีกนาน

ในแง่การเมืองพรรคภูมิใจไทยคงไม่ถอนตัวแม้แต่ถีบมันยังไม่ออก ขณะนี้งบประมาณที่ผ่านสภาไปยังไม่ได้เบิกสตางค์ออกไปใช้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะถอนตัวในเวลานี้ หรือหากเนวิน ชิดชอบเกิดกินดีหมี สวมหัวใจสิงห์ออกขึ้นมาจริงๆแต่เชื่อว่าสายสมศักดิ์ เทพสุทินสุชาติ ตันเจริญ คงไม่ออก

ร.ต.อ.เฉลิม ประเมินว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าพื้นที่อีสานของพรรคเพื่อไทยจะเสียแค่ที่ จ.อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ จาก 136 เหลือ 134

ในส่วนของพื้นที่ กทม. ถ้าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เปิดกว้างแบ่งพื้นที่เป็นกรุงเทพฯ กลาง กรุงเทพฯธนบุรี ให้คุณหญิงเป็นใหญ่อย่างเก่า แต่ให้คนอื่นทำงาน

"ตำรวจทหารที่สมัครสมาชิกพรรคไม่เคยใช้เขาเลย ต้องเปิดให้เขาทำงาน เขาอยู่ฝ่ายเสนาธิการมา ส่วนผู้สมัครต้องตัดสินใจว่าจะเอาใคร ถ้ามีคนเยอะต้องทำโพลวัดเสียง ต้องเลือกก่อน ไม่ใช่บอกว่าถ้าไม่เลือกลง สส.แล้วจะให้ไปเป็นผู้แทนการค้าชายแดน ถามว่าแล้วใครจะเชื่อถือเพราะพรรคยังไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง"

อีกปัญหาคือ ในพรรคไม่มี "ความลับ" เขาเคยเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ยังไม่ทันเซ็นชื่อ ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ โทร.มาถามว่าเขียนเพราะจัง สงสัยเขียนญัตติด้วยตัวเอง ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยนี่คุยอะไรกัน "เนวิน" รู้หมด

"เพื่อไทยวันนี้อยู่บนคิลลิงโซน แต่ต้องก้าวให้พ้น คุณไม่มีวันทำอย่างอื่น ต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง แล้วต้องอินเกมเท่านั้น" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวทิ้งท้าย