posttoday

ข้าราชการใจมาราธอน 20 ช.ม.เฝ้ารับเสด็จฯ

26 ตุลาคม 2560

"ในฐานะข้าราชการคนหนึ่งต้องอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ให้ได้เพื่อจะได้ไปบอกเล่าเรื่องราวให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ฟัง"

โดย...ปริญญา ชูเลขา

ในวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 26 ต.ค. 2560 จะมีการปิดถนนหลายสาย กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ประชาชนจะไม่สามารถนั่งรถเข้าไปยังสนามหลวงได้โดยตรง  แต่ทางรัฐบาลได้จัดจุดจอดรถและรับส่ง หลายจุดโดยรอบ โดยเฉพาะ "สนามม้านางเลิ้ง" นับเป็นจุดพักสำคัญของประชาชนที่ต้องการเฝ้ารอรับเสด็จริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเพราะมีพื้นที่กว้างทั้งที่จอดรถ ห้องน้ำ ที่พักค้างแรม และจุดจอดรถรับส่ง ดังนั้นบรรดาประชาชนที่ต้องการอยู่ยาวข้ามวันข้ามคืนจึงเลือก สนามม้านางเลิ้ง เป็นฐานที่มั่น 

นายมนชัย  ภูสีเขียว ข้าราชการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สป.) กล่าวว่าเตรียมตัวมาหลายวันนัดเพื่อนฝูงที่เป็นข้าราชการด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยนัดกันมาเจอที่สนามม้านางเลิ้ง เพราะสะดวกสามารถนำรถมาจอดทิ้งไว้ได้เป็นคืนๆ โดยจอดค้างคืนไว้แล้วเดินเท้าไปสนามหลวง ซึ่งเหตุผลที่ต้องจอดรถค้างคืนทิ้งไว้เพราะต้องเก็บเสื้อผ้า ทั้งชุดเต็มยศข้าราชการ และชุดลำลองที่เตรียมไว้ อาบน้ำเข้าห้องน้ำก็ใช้สถานที่สนามม้าได้ เพราะสะดวกดี การเดินทางที่นี้มีรถรับส่งตลอด ดังนั้นจึงมีความตั้งใจลาพักร้อนในวันที่ 27 ต.ค.ไว้ล่วงหน้าเลย และจะอยู่ต่อไปจนวันเสาร์ - อาทิตย์ เพราะยังมีพิธีเก็บพระบรมอัฐิ และอัญเชิญพระบรมอัฐิ พร้อมพระบรมราชสรีรางคาร เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ที่สำคัญอยากชื่นชมความงดงามของพระเมรุมาศ จึงอยากเฝ้ารอดู เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ นานนับร้อยปีกว่าจะมีพิธีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้สักครั้ง ในฐานะข้าราชการคนหนึ่งต้องอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ให้ได้ไม่งั้นเสียชาติเกิด เพื่อจะได้ไปบอกเล่าเรื่องราวให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ฟัง

"เมื่อคืนก็เกือบท้อเหมือนกันเพราะเห็นแถวยาวเหยียดมากๆ นั่งรอนอนรอกว่า20ชม.จะได้เวลาที่ผ่านเข้าไปยังจุดคัดกรอง เชื่อไหมว่าต้องใช้ความอดทนอย่างสูงจริงๆ ทั้งง่วงทั้งร้อน ทั้งหิว แต่ต้องระวังดื่มน้ำมากไม่ได้ ต้องค่อยๆจิบที่ละนิด เพราะหากดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ปวดฉี่เอาได้ แม้แต่ข้าวที่นำมาด้วยก็ต้องค่อยๆทานไม่ให้อิ่มมากนัก อยากทานเยอะกลัวปวดท้องเข้าห้องน้ำ เพราะถ้าออกไปแล้วกว่าจะกลับเข้ามาก็ลำบากเพราะห้องน้ำก็อยู่ไกล"

นายมนชัย เล่าถึงพลังแรงใจที่เป็นแรงผลักดันที่ทำให้อดทนมารอเฝ้ารอรับเสด็จริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศแห่อัญเชิญพระบรมโกศ นานกว่า 20 ชั่วโมงตั้งแต่ค่ำวานนี้ เพราะอยากอยู่ในช่วงนาทีประวัติศาสตร์ นานนับร้อยปีจะมีสักครั้งหนึ่งในชีวิต จะผ่านไปอีกกี่่ชั่วคนจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้หรือไม่ไม่อาจรู้ได้ ยิ่งด้วยความที่เป็นตนเองเป็นข้าราชการจึงมีความผูกพันกับแนวทางพระราชดำริและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาโดยตลอด ตั้งแต่เข้ารับราชการใหม่ๆ เห็นภาพการตรากตรำทรงงานหนัก  จนปัจจุบันรับราชการมากว่า20 ปีแล้ว ยึดถือแนวทางของพระองค์ท่านมาโดยตลอด เหมือนพระองค์เป็นเหมือนพ่อของแผ่นดิน และต้นแบบของการรับราชการที่ดี ที่ต้องเอาเป็นแบบอย่าง จึงสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานทุกสิ่่งทุกอย่างให้ดีที่สุด และที่ผ่านมาพระองค์ทุ่มเททรงงานหนักที่สุดให้กับแผ่นดินไทยเหนื่อยยากยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลก ดังนั้นจึงอยากหนึ่งในข้าราชการนับแสนนับล้านคนที่จะได้มีช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์หนนี้ 

นายมนชัย เล่าว่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้เหมือนกับการบอกเล่าถึงรากเหง้าและเรื่องราวของบรรพบุรุษไทยว่าเกิดและเติบโตขึ้นมาเป็นเมืองไทยมาได้อย่างไร แม้ในชีวิตไม่เคยได้เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 9 แม้แต่ครั้งเดียว แต่ในฐานที่ทำงานรับราชการให้กับสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับรู้และใกล้ชิดกับแนวคิดโครงการพระราชดำริ 4 พันกว่าโครงการ โดยเฉพาะเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นแนวทางสำคัญในการดำรงชีวิต

นายทศพนธ์ นรทัศน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  กล่าวว่าสำหรับแรงบันดาลใจที่ได้มาเป็นจิตอาสา คือ การดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการทำความดีและอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น ด้วยรักการถ่ายภาพทางจึงได้มอบหมายให้มาเป็นจิตอาสาทำหน้าที่ เป็นตากล้องถ่ายรูปให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน นับว่าเป็นภารกิจที่ชอบมากๆเพราะโดยส่วนตัวเป็นคนรักการถ่ายภาพอยากเก็บและบันทึกเรื่องราวที่เป็นความทรงจำอันทรางคุณค่าที่สุดในชีวิตในวันนี้เอาไว้ให้มากและนานที่สุด ยิ่งเกิดความประทับใจเมื่อได้เห็นใบหน้าและแววตาของประชาชนที่มาร่วมงาน รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเศร้าใจและตื้นตันใจของประชาชนคนไทย ทุกครั้งเมื่อต้องกดชัตเตอร์ถ่ายรูปกับพระบรมฉายาลักษณ์ หรือ ซุ้มดอกดาวเรือง  ว่าทุกคนรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มากแค่ไหน นอกจากนี้ยังมาช่วยทำหน้าที่งานด้านบริการ เช่น แจกน้ำ แจกข้าว แจกยา เป็นต้น รวมถึงแนะทำหน้าที่แนะนำเส้นทางและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาวางดอกไม้จันทน์ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ทำงานบริการประชาชนเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9