posttoday

ย้อนรอย "ทพญ.ดลฤดี" เรื่องราวของคนหนีชดใช้ทุนรัฐบาล 24 ล้าน

20 กันยายน 2560

ย้อนเส้นทางประเด็นดราม่า ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ ไม่ใช้ทุนรัฐบาลกว่า 24 ล้าน จนกลายเป็นภาระให้ผู้อื่น

ย้อนเส้นทางประเด็นดราม่า ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ ไม่ใช้ทุนรัฐบาลกว่า 24 ล้าน จนกลายเป็นภาระให้ผู้อื่น

เรื่องราวของ ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ขอทุนไปเรียนต่อปริญญาโทและเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อศึกษาจบแล้วไม่ยอมกลับมาใช้ทุนรัฐบาล คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 24 ล้านบาท จนเป็นเรื่องฟ้องร้องและทำให้แพทย์ที่ค้ำประกันต้องจ่ายชดใช้หนี้แทน กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจาก ทันตแพทยสภามีมติ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ "ทพญ.ดลฤดี"

โดยทันตแพทยสภาเห็นว่า ทพญ.ดลฤดี ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม ขณะเดียวกันได้แต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณาคุณสมบัติการเป็นสมาชิกทันตแพทยสภาของ ทพญ.ดลฤดี กรณีประพฤติเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพทันตกรรม

วันนี้โพสต์ทูเดย์พาย้อนลำดับเหตุการณ์ดราม่า “ทพญ.ดลฤดี ผู้หนีทุน” ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในอดีต

19 ม.ค. 2559 ประเด็นดราม่าปวดใจ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี 1 ใน 4 ผู้ค้ำประกันให้ ทพญ.ดลฤดี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยความอัดอั้น ตีแผ่ให้เห็นเป็นอุทาหรณ์ว่าคนที่มีการศึกษาดี มีชาติตระกูล ใช่จะโกงไม่ได้

“สิ้นสุดสักทีกับกรรมเก่า ผมได้ชดใช้ให้แล้ว รวมยอดกับที่ต้องชำระให้อีกร่วมล้าน กับการค้ำประกัน นางสาว....อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ ม.มหิดล ผู้ซึ่งรับทุนศึกษาต่อที่อเมริกา โดยมีผมซึ่งเข้ามาเรียนที่มหิดลในฐานะคนรู้จักแต่ด้วยความที่เห็นแก่คณะและวิชาชีพ จึงยอมค้ำประกันร่วมกับอาจารย์และเพื่อนร่วมงานและเพื่อนอีกคนของนางสาว....หวังว่าเขาจะกลับมาทำประโยชน์แก่ส่วนรวม

"แต่สิ่งที่ผมและทุกคนได้รับคือบอกว่า ไม่มีเงิน ทั้งๆ ที่เขาทำงานเป็นนักวิจัยที่ ม.ฮาร์วาร์ด รับเงินเดือนสูง อยู่อพาร์ตเมนต์หรูหราในอเมริกา เขาทำได้แม้อาจารย์ผู้สั่งสอน และสนับสนุนให้ได้เรียน ผู้ร่วมงาน เพื่อน อย่างไม่ละอายแก่ใจ พ่อของเขาและญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เขาเคยโทรหาผมแค่ครั้งเดียวว่าจะไม่ทำให้ผมเดือดร้อน"

หลังกลายเป็นกระแสอย่างกว้างขวาง ทพ.เผด็จ ให้สัมภาษณ์ให้กับหลายสื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน สรุปรวมความได้ว่า สมัยนั้น ทพ.เผด็จ เป็นข้าราชการสาธารณสุข ได้ไปค้ำประกันให้กับอาจารย์คนดังกล่าว ร่วมกับผู้ค้ำประกันอีก 3 ราย เป็นอาจารย์ของดลฤดี 2 คน และเพื่อนอีกคนหนึ่ง เพราะเห็นตรงกันว่าหากดลฤดี เรียนจบจะได้กลับมารับใช้ประเทศชาติ จึงยอมเซ็นค้ำประกัน แต่เมื่อเธอหนีทุนไม่กลับ ผู้ค้ำประกัน ทั้ง 4 ราย ต้องร่วมกันชดใช้หนี้ ที่ต้องใช้เป็นเงิน 30 ล้านบาท แต่ได้ไปทำเรื่องขอต่อรองเหลือจ่ายเงินต้นไม่รวมค่าปรับอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท

ย้อนรอย "ทพญ.ดลฤดี" เรื่องราวของคนหนีชดใช้ทุนรัฐบาล 24 ล้าน ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ

ต่อมา ทพ.เผด็จ  ได้ตั้งทนายพร้อมส่งจดหมายไปถึงอาจารย์ที่เป็นคู่กรณีและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปรากฏว่าอาจารย์คนดังกล่าวได้ตั้งทนายสู้คดี ส่วนทางด้านม.ฮาร์วาร์ดมีจดหมายตอบกลับมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเข้ามาช่วยจัดการได้ ทำให้ทพ.เผด็จ กลับมาคิดว่าคงสู้คดีไม่ไหว เพราะต้องบินไปเมืองนอก มีค่าใช้จ่าย และคงไม่ทำอะไรแล้วปล่อยให้เป็นบทเรียนไป

อีกเรื่องที่ ทพ.เผด็จ ผิดหวังคือ ต้นสังกัดเดิมของดลฤดี คือ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมองว่าไม่ได้จริงจังกับการชำระสะสางปัญหา เเละไม่ได้ใส่ใจที่จะรับรู้ติดตามทวงหนี้ดลฤดี ทำให้ผู้ค้ำประกันทุกคนต่างเดือดร้อนถึงขนาดต้องนำบ้านไปจำนองและยื่นกู้ เพื่อนำเงินมาใช้หนี้คืนให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559  เพราะหากไม่จ่ายจะโดนยึดทรัพย์

เหยื่ออีกรายอย่าง “ผศ.ทพญ.ภัทรวดี ลีลาทวีวุฒิ” รองหัวหน้าภาควิชาทันตกรรมเด็ก คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ต้องชดใช้หนี้กว่า 2 ล้านบาทแทน ทพญ.ดลฤดี  โดยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากเกินไป ตัดสินใจเซ็นค้ำประกันให้เนื่องจากเห็นว่าภาควิชาไม่มีบุคลากรที่มีประสบการณ์การศึกษาขั้นสูงสุดเลย ถ้าเขาได้ไปเรียนต่อและกลับมารับใช้ประเทศชาติ จะถือเป็นเรื่องดี

 

ย้อนรอย "ทพญ.ดลฤดี" เรื่องราวของคนหนีชดใช้ทุนรัฐบาล 24 ล้าน

ม.ค. - ก.พ. ช่วงเวลานั้นโลกออนไลน์พากันขุดคุ้ยเเละเเชร์ข้อมูลส่วนตัวของ ทพญ.ดลฤดี อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เพจเฟซบุ๊ก CSI LA ที่ระบุชื่อและประวัติของเธอเอาไว้ว่า ดลฤดี จำลอง Dolrudee Porche Jumlon จบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่น 46   อดีต อจ. คณะทันตแพทยศาสตร์ ม. มหิดล ที่ทำงานปัจจุบัน Harvard School of Dental Medicine 188 Longwood Ave, Boston, MA 02115

ทพญ.ดลฤดี ได้ซื้อบ้านในเมืองนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ.2557

ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกาอย่างฮาร์วาร์ด และเธอยังมีคลินิกทันตแพทย์เป็นของตัวเอง

หลังจากถูกกดดันอย่างหนัก ทพญ.ดลฤดี ได้ส่งข้อความหา ทพ.เผด็จ  โดยระบุว่า  ได้บอกผู้ค้ำประกันหลายรอบแล้วว่าจะคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ทั้งหมด และยังพยายามหาเงินมาคืนให้อยู่ พร้อมกันนี้ยังได้ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับด้วย

3 ก.พ. 2559 ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)  แถลงว่า สกอ.ได้ส่งเรื่องการฟ้องล้มละลาย ทพญ.หญิง ดลฤดี ไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2548 ขณะนี้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องล้มละลายต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2558 คดีหมายเลขดำ ที่ ล.3603/2558 ทพญ.ดลฤดีจะต้องชดใช้หนี้ขณะนี้มีจำนวน 30 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7 ดังนั้นยอดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เเละถ้าจำเลยไม่มาศาลก็ถือเป็นการขัดขืนหมายเรียก ซึ่งศาลจะมีคำสั่งให้ออกหมายจับ ทั้งนี้หลังจากผ่านกระบวนการในการขอรับชำระหนี้ และศาลได้พิพากษาจนตกเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว จากนั้นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับคดี

23 ส.ค.2559 กรมบังคับคดี ได้ส่งคำสั่งศาลล้มละลายกลางสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด น.ส.ดลฤดี เพื่อให้ชดใช้ทุนหลังผิดสัญญารับทุนรัฐบาลศึกษาวิชาต่างประเทศ ตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ให้เป็นไปตามคำสั่งศาล

20 ก.ย.2560 ทันตแพทยสภามีมติ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ "ทพญ.ดลฤดี" โดยอดีตเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ทพ.เผด็จ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

“สิ่งที่ผมอยากให้ทำต่อคือขอผลการตัดสินเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ทนายเป็นข้อมูลในการฟ้องร้องต่อไป และนำส่งผลการตัดสินไปที่ทันตแพทยสภาแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐแมสซาชูเซตส์ที่ดลฤดี ทำงานอยู่ซึ่งน่าจะมีผลต่อการทำprivate clinic ของเธอบ้าง แม้ผลแห่งคำสั่งนี้ดลฤดีจะไม่สนใจเพราะคงไม่คิดกลับเมืองไทยแล้ว แต่ก็เป็นบรรทัดฐานบทลงโทษแก่ทันตแพทย์ที่คิดจะทำแบบนี้ในอนาคตว่า คงยากที่หากจะกลับมาทำงานที่เมืองไทย และขอบคุณสื่อมวลชนที่ยังติดตามข่าว และขอบคุณพี่น้องชาวไทยทั้งในและต่างประเทศที่ยังติดตามและให้กำลังใจครับ สิ่งที่เราต้องรอคือผลจากกรมบังคับคดีเพื่อรอผลการตัดสินสุดท้ายต่อไปครับ”

สิ่งที่ ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ ทำไว้ กำลังไล่ล่าเเละติดตัวเธอไปตลอดกาล