posttoday

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

18 กันยายน 2560

บรรยากาศและความรู้สึกของพสกนิกรชาวไทยในช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดย..ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ออนไลน์

เหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ที่พสกนิกรชาวไทยจะได้เข้ากราบถวายบังคมเบื้องหน้า พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เนื่องจากสำนักพระราชวังได้ประกาศอนุญาตให้ประชาชนเข้ากราบพระบรมศพฯถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้เป็นวันสุดท้าย เพื่อเตรียมจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

หลังมีประกาศดังกล่าวออกมา มีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเข้ากราบถวายบังคมเป็นครั้งสุดท้าย

โพสต์ทูเดย์รวบรวมความรู้สึกช่วงเวลาสุดท้ายที่พสกนิกรชาวไทยจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดพ่อแห่งแผ่นดิน มาถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้รับทราบ

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

พร เรืองสุวรรณ ประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้ากราบพระบรมศพและร่วมประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ถึง 21 ครั้ง เล่าทั้งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติว่า ทุกครั้งที่เดินมารู้สึกดีใจมาก แต่ถ้าไม่ได้มาก็จะสวดมนต์ถึงพระองค์ที่บ้าน พร้อมระลึกว่า “พ่อ ขอให้พ่อไปสู่สวรรคาลัย อยากให้พ่อรับรู้ว่าลูกคิดถึง ขอให้พ่อมองลงมา ดูประชาชน ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข บ้านเมืองสงบ”

ป้าพร บอกว่า พระองค์เปรียบเสมือนเทพ ที่คอยช่วยเหลือประชาชนไทยมาตลอด ไม่ว่าประสบปัญหาอะไร ภัยแล้งหรือน้ำท่วม พระองค์จะเดินเท้าไปช่วยประชาชน นี่จึงเป็นสิ่งตนนำหลักคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาสอนลูกหลานตลอดว่า ให้เดินตามรอยพ่อหลวง กินอยู่พอเพียง ใช้เท่าที่มี ซึ่งตั้งแต่นำหลักดังกล่าวมาใช้ ก็ไม่เคยลำบากเดือนร้อนอีกเลย

อินทิรา บัวเงิน ชาวจังหวัดนนทบุรี เล่าว่า มากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 4 ทุกครั้งเมื่ออยู่เบื้องหน้าพระบรมโกศ จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยูู่ ต้องร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกใจหายพร้อมกับดีใจขณะเดียวกัน  วันนี้เมื่อเหลือระยะเวลาอีกไม่กี่วัน ยิ่งทำให้รู้สึกเศร้าใจ แต่จะขอจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่พระองค์ทำเพื่อประชาชนไปตลอดชีวิต

เนื่องตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่จำความได้ พระองค์ทำงานหนักเพื่อประชาชน พยายามสั่งสอนให้คนไทยรู้ และเข้าใจถึงหลักพอเพียงที่หมายความว่า พอประมาณ ไม่มากไม่น้อย มีความเป็นระบบ ระเบียบ  มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ สุจริตมาตลอด

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

ครอบครัวอ่อนอารี บอกว่า รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ครั้งหนึ่งได้เข้ากราบเบื้องหน้าพระองค์ แม้ใช้ระยะเวลารอกว่า 9 ชั่วโมง ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพราะพระองค์ทำงานหนักกว่าพวกเราทุกคนมาก นี่จึงเป็นสิ่งได้นำหลักการทำงานของพระองค์มาสอนลูกว่า ยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งควรนำคำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ เพราะเป็นหลักที่ทำให้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบนี้ได้ง่ายขึ้น แม้ต้องเจออุปสรรค

คำรณ สะอาดเอี่ยม ประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี เล่าว่า ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 เพื่อกราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะก่อนหน้านี้เคยมาครั้งหนึ่ง แต่เข้าไม่ถึงจึงกลับไปก่อน วันนี้ตั้งใจที่ต้องเข้าไปกราบให้ได้ เมื่อได้ทำสมความตั้งใจ รู้สึกปลื้มปิติมาก

คำรณ บอกความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าพระองค์เป็นเหมือนพ่อคนที่ 2 เพราะตั้งแต่จำความได้ ท่านทำงานหนักเพื่อประชาชนไทยให้ได้มีอาชีพ มีกิน และมีความสุขมาตลอด

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

 

 

ทศนี-ภัทรพล รุ่งเจริญวนิช บรรยายความรู้สึกที่ได้พาครอบครัวเข้ากราบพระบรมศพว่า รู้สึกปลื้มปิติมาก เพราะส่วนตัวรู้สึกและผูกพันต่อพระองค์ เนื่องจากเป็นบ้านอยู่เขตพระนครเมื่อมีงานพระราชพิธีสำคัญ จึงมักเดินมาคอยเฝ้ารับเสด็จเป็นประจำ ประกอบกับตลอดชีวิตเห็นพระองค์สร้างคุณประโยชน์มากมายให้ประชาชน จึงคิดว่านี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไทยทุกคนรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มากถึงเพียงนี้

ประนอม สิงห์คีรี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจมากที่ได้เข้ากราบพระบรมศพ เพราะพระองค์คือกษัตริย์ผู้ที่เป็นแบบอย่างของคนไทยและชาวโลก แม้พระองค์สวรรคตไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรพระองค์จะเป็นกษัตริย์ในหัวใจคนไทยตลอดไป

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

 

 

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...

 

"รอนานแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย"ขอเพียงได้กราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย...