posttoday

ชาติหน้าไม่ขอเกิด ชาตินี้รอเข้าคุก ชีวิต "เณรคำ" จากวัดสู่ห้องขัง

19 กรกฎาคม 2560

จากที่เคยอยู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์ ชีวิตกลับตาลปัตรสู่ห้องขังเพื่อรอตัดสินชะตากรรมของตนเองในอีกไม่ช้า

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

นับตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 4 ปีที่ วิรพล สุขผล หรือ เณรคำ ฉัตติโก อดีตประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีษะเกษ ได้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งเมื่อดึกวันที่ 19 ก.ค.2560 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ หิ้วตัวข้ามน้ำมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อก้าวเท้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ภายใต้ 5 ข้อหาหลักที่ดีเอสไอ จัดถวายให้อดีตพระดังในภาคอีสาน คือ พรากผู้เยาว์ อนาจารผู้เยาว์ กระทำชำเราผู้เยาว์ ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน

จากพระดังที่มีคนกราบไหว้นับถือด้วยแรงศรัทธา ดำรงบรรชิตด้วยสิ่งของรอบข้างที่มีราคาสูง เช่าเครื่องบินเจ็ตเดินทาง สวมแว่นตาดำแบรนด์ดัง หิ้วกระเป๋าที่ไฮโซบรรดามี นั่งรถยนต์หรูราคาหลายล้านบาท และทรัพย์สินเป็นเงินสดอีกหลายร้อยล้านบาท

ทั้งหมดทั้งมวลที่เณรคำได้สร้างมา เกิดเตะตาของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงนำไปสู่การตรวจสอบและสืบค้นให้ลึกกว่าเดิม จนนำไปสู่การแจ้งข้อหาที่เกิดขึ้นจากดีเอสไอ

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เณรคำ ที่นับได้ว่าเป็นพระสงฆ์อีกกรูปที่สร้างความแปดเปื้อนให้กับพุทธศาสนาของเมืองไทย มีประวัติชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อย

 

ชาติหน้าไม่ขอเกิด ชาตินี้รอเข้าคุก ชีวิต "เณรคำ" จากวัดสู่ห้องขัง

 

เณรคำ หรือด.ช.วิรพล สุขผล ชาวจ.อุบลราชธานี ในวัย 6 ขวบ เริ่มสนใจในการนั่งสมาธิ เดินจงกลม และถึงขั้นนอนในป่าช้า โดยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือการปฏิบัติธรรม ก่อนที่ปี 2537 จะตัดสินใจบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ที่วัดป่าดอนธาตุ จ.อุบลราชธานี

เดินสายธุดงค์ในหลายอำเภอของจ.อุบลราชธานี กระทั่งปี 2542 เมื่ออายุครบเกณฑ์จึงเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ

ว่ากันว่า เณรคำ ออกเดินธุดงค์ไปเรื่อยด้วยเท้าเปล่าไปถึง เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ก่อนจะกลับมายังสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีษะเกษ

ครั้งหนึ่ง ศิษย์เอกของเณรคำ บอกว่า เณรคำมีความคิดที่ยึดโยงเอาไว้ว่า "ถ้าเสร็จภารกิจทางโลกแล้ว จะไม่กลับมาทางโลกอีก เพราะได้เกิดมาหลายชาติ จึงพอแก่การเกิด อีกทั้งเห็นอะไรก็สังเวชไปทั้งหมด นั่นเพราะรู้มาก่อน เกิดมาก่อน เห็นมาก่อน ตั้งแต่ครั้งอดีตชาติ”

ก่อนใช้ความเชื่อความศรัทธา สั่งสมบารมีของตนขึ้นมา มีลูกศิษย์ลูกหามาโข บ้างให้เงินบริจาคต่างๆ บ้างยกที่ดินถวายให้ เพราะเชื่อสนิทใจว่าเณรคำมีอภินิหาร หยั่งรู้อนาคต รู้อดีตชาติ และหวังจะสร้างโชคลาภให้คนที่กราบไหว้

หากดูเหมือนว่า เณรคำ เป็นสงฆ์ที่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนมาโดยตลอด แต่แล้วเมื่อกลางปี 2556 คณะสงฆ์ของจ.อุบลราชธานี และจ.ศรีษะเกษ ได้รวมกับขับไล่เณรคำให้พ้นไปจากสมณะเพศ ข้อกล่าวหาคือผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง เสพเมถุน

สาววัย 26 ปี ออกมาเผยความลึกซึ้งระหว่างเธอกับเณรคำ พร้อมกับมีพยานรักร่วมกันในวัย 11 ปี เธอยืนยันว่าเด็กคนนี้คือลูกของเณรคำ และพร้อมจะให้พิสูจน์ดีเอ็นเอ

ที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ เพราะคำให้การของเธอที่บอกว่ารู้จักกับเณรคำขณะเรียนอยู่ชั้นม.2 ที่จ.ศรีษะเกษ และพบกับเณรคำที่มาปักกลดธุดงค์แถวบ้านพักของเธอ

ความสัมพันธ์ดำเนินอย่างรวดเร็ว เธออ้างว่าเณรคำขับรถยนต์หรูมารับถึงหน้าโรงเรียนเพื่อไปมีความสัมพันธ์ด้วยกัน ทั้งที่รีสอร์ทห่างตาผู้คน หรือแม้แต่ในรถยนต์ของเณรคำเองด้วย

สอดรับกับทางเจ้าหน้าที่ที่เริ่มได้กลิ่นไม่ดี จึงสืบสวนเชิงลึกและยืนยันได้ว่ายังมีหญิงสาวอีก 7 คนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเณรคำขณะที่เขายังดำรงคราบรรพชิต

กอปรกับหลักฐานที่มีอยู่ในมือ จึงนำไปสู่การแจ้งข้อหา และสอบสวนต่อเนื่องจนพบว่ามีความผิดฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน และฟอกเงิน ร้อนถึงคณะสงฆ์ในข้างต้นที่ต้องประชุมและมีมติขับไล่พ้นสมณเพศ

ชาติหน้าไม่ขอเกิด ชาตินี้รอเข้าคุก ชีวิต "เณรคำ" จากวัดสู่ห้องขัง

 

ความร้อนเข้ามาเยี่ยมเยือนเณรคำ และทำให้เขาอยู่เมืองไทยอีกต่อไปไม่ได้ ท้ายสุดเณรคำต้องเหินฟ้าหลบไปอยู่ที่ฝรั่งเศส และไปอยู่ที่สหรัฐฯ ในปีเดียวกันนั้นเอง

ตลอดทั้งปี 2556 เรื่องราวของเณรคำเป็นที่สนใจต่อสาธารณะอย่างมาก และปรากฎภาพเณรคำหลากอิริยาบถในสหรัฐฯ ทั้งการรับกิจนิมนต์ และการถ่ายรูปยังสถานที่ต่างๆ พร้อมด้วยลูกศิษย์ที่ยังรักและศรัทธา นัยว่าเป็นการปูเรื่องว่าคดีที่เกิดขึ้นนั้นเณรคำถูกกลั่นแกล้ง กระทั่งมีข่าวว่าเณรคำได้ลาสิกขาที่วัดแห่งหนึ่ง แต่ยังปรากฏภาพว่ายังคงนุ่งห่มอาภรณ์คล้ายจีวรของพระสงฆ์อยู่ตลอด

วลีว่าชาติหน้าไม่ขอเกิด คนที่รู้ซึ้งเห็นโลกจนชัดแจ้ง ไม่ได้ช่วยให้เณรคำรอดพ้นสำนวนคดีรวม 261 หน้าใน 5 ข้อหาหนักที่ดีเอสไอรวบรวมเพื่อเตรียมฟ้องเอาผิด จากพระชื่อดังที่ปราถนาสร้างตนให้เป็นเกจิดังของเมืองไทย ต้องหลบลี้หนีคดีอาญาอันลือลั่น ดาวที่เคยจรัสแสงก็ดับลงในพริบตา

และในวันนี้เณรคำต้องมานอนคุกหลังดีเอสไอบินไปรับตัวจากสหรัฐฯ จากที่เคยอยู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์ ชีวิตกลับตาลปัตรสู่ห้องขังเพื่อรอตัดสินชะตากรรมของตนเองในอีกไม่ช้า

ชาติหน้าไม่ขอเกิด ชาตินี้รอเข้าคุก ชีวิต "เณรคำ" จากวัดสู่ห้องขัง

 

 

 

ชาติหน้าไม่ขอเกิด ชาตินี้รอเข้าคุก ชีวิต "เณรคำ" จากวัดสู่ห้องขัง บ้านพักของเณรคำใน จ.อุบลราชธานี