posttoday

"กมลวิศว์" ชู อตก. ผู้นำด้านตลาดอาเซียน

23 กุมภาพันธ์ 2560

"สิ่งที่อยากเห็น อ.ต.ก.เป็น คือสามารถเป็นองค์กรที่สามารถพึ่งตนเองได้ ทำธุรกิจเลี้ยงตัวเองได้ และสามารถเป็นตลาดเพื่อเกษตรกรได้จริงๆ"

โดย...สิทธินี ห่วงนาค

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีภารกิจสำคัญช่วยเกษตรกรด้านการตลาดสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร ทั้งการจัดหาและจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรมและตรงตามเวลาที่ต้องการให้แก่เกษตรกร 

แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมายังประสบกับปัญหาขาดทุนสะสมมาต่อเนื่อง จึงถือเป็นเป้าหมายท้าทายของ “กมลวิศว์  แก้วแฝก” ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ที่ต้องพลิกฟื้นองค์กรนี้ให้กลับมามีศักยภาพที่ดีขึ้น เพื่อเป็นกลไกสำคัญทางด้านการตลาดให้กับเกษตรกร 

กมลวิศว์ กล่าวว่า เป้าหมายที่เข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะเห็นว่าที่นี่ขาดทุนมาต่อเนื่อง 100 ล้านบาท ประกอบกับเป็นตลาดที่ตอบสนองและเป็นช่องทางช่วยเกษตรกรขายสินค้าได้จริง ซึ่งต้องมีการปฏิรูปการบริหาร เพราะหากปล่อยไป อ.ต.ก.มีแต่จะแย่ลง ดังนั้นจึงเสนอคณะกรรมการ อ.ต.ก. (บอร์ด อ.ต.ก.) เพื่อขอปรับรูปแบบการบริหารจากเดิมการทำงานให้ความสำคัญกับนโยบายรัฐ 70% ด้านธุรกิจ 30% มาเป็นนโยบายรัฐ 40% และด้านธุรกิจ 60% เพื่อให้ อ.ต.ก.สามารถสร้างรายได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าการทำงานตามนโยบายรัฐที่ อ.ต.ก.รับผิดชอบมีเพียงโครงการรับจำนำข้าว ที่ต้องดูแลสต๊อกข้าว 2 ล้านตันเท่านั้น

"กมลวิศว์" ชู อตก. ผู้นำด้านตลาดอาเซียน

ทั้งนี้ อ.ต.ก.ในยุค “กมลวิศว์” มั่นใจว่าภายหลังปรับแผนการทำธุรกิจ ในอนาคตตั้งเป้าหมายจะผลักดันให้ อ.ต.ก.เป็นผู้นำด้านตลาดในอาเซียนภายในปี 2560 โดยปัจจัยสนับสนุนเป้าหมายคือ 1.การเปิดพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. เพื่อเกษตรกรมากขึ้น จากพื้นที่ตลาด อ.ต.ก.  6,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ได้จัดสรรพื้นที่ 700 ตร.ม. ให้เกษตรกรตัวจริงจากทั่วประเทศที่จะมีการคัดเลือกกันเองมาจำหน่ายสลับหมุนเวียนกัน รวมทั้งยังเตรียมขยายตลาดมินิ อ.ต.ก. เริ่มในจังหวัดใหญ่ เช่น ขอนแก่น สงขลา ตรัง นครราชสีมา ภายในปีนี้กำหนดเปิดให้ได้อีก  20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรนำสินค้ามาขายเช่นกัน

2.กำหนดเพิ่มพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. อีก 1,000 ตร.ม. สำหรับเกษตรอินทรีย์ มีแผนเปิดตัว 30 มี.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายได้ในพื้นที่รวม 1,700 ตร.ม. 3.การเปิดตลาดสินค้าออนไลน์เพื่อให้ อ.ต.ก. เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าเกษตรในตลาดออนไลน์ ภายใต้การการันตีคุณภาพของ อ.ต.ก. ที่ผู้บริโภคมีความเชื่อถือว่า สินค้า อ.ต.ก.ดี มีมาตรฐาน

"กมลวิศว์" ชู อตก. ผู้นำด้านตลาดอาเซียน

“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสินค้า อ.ต.ก. บางท่านอาจบอกว่าแพง แต่อยากให้เปิดใจ เช่น ท่านซื้อเงาะที่ตลาด อ.ต.ก. 100 บาท/กก. ท่านทานได้ทุกผล แต่หากซื้อที่อื่น กก.ละ 80 บาทท่านได้ไม่ถึง 60% ต้องซื้อ 2 กก. หรือกิโลครึ่งจึงได้ทาน 100% ฉะนั้นท่านซื้อแพงกว่า นอกจากนั้นสินค้า อ.ต.ก.สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และผู้ค้าทุกรายยินดีเคลมสินค้าให้หากว่าไม่ดีจริงหรือไม่พอใจ” กมลวิศว์ กล่าว

ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. กล่าวว่า ตลาดสินค้าออนไลน์จะเป็นช่องทางที่สำคัญของสินค้าเกษตรของไทยอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วยในการเปิดตลาดชักชวนผู้สนใจสินค้าการเกษตรของไทยจากทุกประเทศสามารถเข้ามาติดต่อได้ ซึ่งจะทำรายการแนะนำสินค้าทั้งภาษาอังกฤษ จีน และอีกหลายๆ ภาษาเพื่อรองรับลูกค้าได้ทุกมุมโลก กรณีผู้สั่งอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑลจะใช้เวลาส่งสินค้าภายใน 3 ชั่วโมง และกรณีเป็นภูมิภาคจะให้มินิ อ.ต.ก.ที่กระจายในหลายจังหวัดเป็นผู้จัดส่ง ส่วนกรณีการสั่งสินค้าจากต่างประเทศก็อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำระบบอยู่

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่ทำงานอยู่กับ อ.ต.ก.เมื่อครั้งทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหาร ทำให้ “กมลวิศว์” มองเป็นปัญหาต่างๆ อย่างเข้าใจ และเมื่อเข้ามาสวมหมวกคุมโดยตรง ทำให้มีเป้าหมายที่ท้าทาย โดยย้ำไว้ว่าหลังครบวาระ 4 ปี สิ่งที่อยากเห็น อ.ต.ก.เป็น คือสามารถเป็นองค์กรที่สามารถพึ่งตนเองได้ ทำธุรกิจเลี้ยงตัวเองได้ และสามารถเป็นตลาดเพื่อเกษตรกรได้จริงๆ

"กมลวิศว์" ชู อตก. ผู้นำด้านตลาดอาเซียน

ชี้แจงข้อกล่าวหาตลาดเพื่อคนรวย

การเข้ามาทำ หน้าที่ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ของ “กมลวิศว์” นอกจากการบริหารจัดการให้องค์กรหลุดจากปัญหาหนี้สะสมแล้ว ยังขอเคลียร์ข้อกล่าวหาที่สังคมมองว่าเป็นตลาดเพื่อคนรวย ไม่ใช่เพื่อเกษตรกรนั้น กมลวิศว์ กล่าวว่า ผู้อำนวยการ อ.ต.ก.ก่อนหน้านี้เป็นยังไงไม่ทราบ แต่หลังจากการเป็นอดีตกรรมการบริหาร อ.ต.ก.มา 2 สมัย ก็เอาปัญหามาแก้ไข โดยปัจจุบัน อ.ต.ก.มีพื้นที่ ตลาดประมาณ 6,000 ตร.ม. โดยจัดสรรให้เกษตรกรมาขายในส่วนของตลาดเกษตร และตลาดเกษตรอินทรีย์ 1,700 ตร.ม. ทั้งหมดฟรี ไม่ได้เก็บค่าเช่า ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกับพื้นที่ตลาด เพราะ อ.ต.ก.ยังต้องหารายได้เลี้ยงองค์กร

และเมื่อหลายเดือนก่อน มีลุงคนหนึ่งมาขายฟักทองจากสวนราคากก.ละ 2 บาท อยู่หน้าฟุตปาท ได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรียกมาคุย และ อ.ต.ก.ก็อนุญาตให้ขายได้ในพื้นที่ตลาดที่กันไว้ให้ ปรากฏว่าสามารถขายได้ถึง กก.ละ 25 บาทจนขายได้หมดสวนและคุ้มกับที่ลงทุนตลาดสดมาเฟียคุม นอกจากนี้ ข้อครหาที่มองว่าเป็นตลาดสดมาเฟียคุมนั้น กมลวิศว์ย้ำว่าที่นี่ไม่มีมาเฟีย ยืนยัน ใครเจอให้มาบอกเลยว่ามีมาเฟียที่ตลาด อ.ต.ก.เพราะหลังจากที่  พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกาศเรื่องจะล้างมาเฟีย อ.ต.ก.ก็รับนโยบายนี้มาปฏิบัติอย่างจริงจัง ขณะที่อัตราค่าเช่าแผงในตลาด อ.ต.ก.นั้นก็ไม่ได้แพงปัจจุบันในตลาดทั้งหมดมี 600 แผงค่าเช่าเริ่มต้นที่ 120-380 บาท/แผงเป็นการปรับตามราคาที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ทุกวันนี้เงื่อนไขของการเช่าแผงคือ ผู้เช่าเป็นคนขายเอง ห้ามเซ้ง ห้ามให้เช่าช่วง จะต่อสัญญาทุก 3 ปี หากพบว่าผู้เช่ารายใดทำ ผิดเงื่อนไขจะยกเลิกสัญญาทันที

“ผลจากการไม่มีการเซ้งแผงผมว่าทำให้ไม่มีเรื่องมาเฟีย ที่ยังพอเห็นอยู่บ้างคือเรื่องการปล่อยเงินกู้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคลแต่พอเดินไปถามใคร ก็ไม่มีใครยอมบอกว่าใครปล่อยกู้”กมลวิศว์ กล่าว

"กมลวิศว์" ชู อตก. ผู้นำด้านตลาดอาเซียน