posttoday

"ผมฟังเพลงลูกทุ่งยุคนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว"เสียงจากรุ่นใหญ่ "เสรี รุ่งสว่าง"

05 กุมภาพันธ์ 2560

วงการเพลงลูกทุ่งที่เห็นและเป็นไปในสายตาของนักร้องรุ่นใหญ่"เสรี รุ่งสว่าง"

เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล / ภาพ...กิจจา อภิชนรจเลข

ในวันที่รายการประกวดร้องเพลงทะลักล้นหน้าจอโทรทัศน์ เรตติ้งกระฉูด ผู้ชมทางบ้านกดโทรศัพท์โหวตให้นักร้องที่ตัวเองชื่นชอบมือเป็นระวิง

บ้างมองว่านี่คือเวทีใหม่ๆที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านธรรมดาได้แสดงความสามารถ ไต่เต้าจากดินสู่ดาว เพื่อชื่อเสียง เงินทอง และคำสรรเสริญเยินยอในฐานะซูเปอร์สตาร์คนใหม่ บ้างมองว่าความน่าเป็นห่วงอยู่ตรงรายการเหล่านี้เน้นเรื่องธุรกิจมากกว่าจะปลุกปั้นนักร้องมาประดับวงการอย่างจริงๆจังๆ เรตติ้งสำคัญกว่าคำแนะนำสั่งสอน รวมถึงการนำดารา คนดัง ตลกมาเป็นคอมเมนเตเตอร์แทนที่จะเป็นครูเพลง อาจทำลายวงการเพลงลูกทุ่งโดยไม่รู้ตัว

เสรี รุ่งสว่าง ตำนานนักร้องลูกทุ่งเมืองไทยวัย 62 นายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทยคนล่าสุด เฝ้ามองสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการด้วยสายตากังวลและมีคำถาม

วันนี้เขาจะมาวิพากษ์วงการเพลงลูกทุ่งอย่างเปิดเผย ดุดัน ตรงไปตรงมา

ทำไมถึงรับตำแหน่งนายกสมาคมนักร้องเพลงลูกทุ่ง

จริงๆไม่ได้อยากรับตำแหน่ง ตัวเราเองทำงานก็เหนื่อยมากมาย แถมช่วยสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่แล้ว ทีนี้พี่น้องศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ รวมถึงนายกฯคนเก่า (ทศพล หิมพานต์) เขาอยากให้เราเป็น ชวนตลอด ปฏิเสธมา 2-3 ครั้งแล้ว วันที่รับตำแหน่ง น้องๆมันชวนไปงานประชุมสมาคม พอไปถึงก็เสนอชื่อเรา เลือกเราเป็น มัดมือชกเลย ก็ต้องขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราได้มาดูแลศิลปินตรงนี้

นโยบายผมคือ นักร้องรุ่นเก่าๆที่ดังแล้วตก ดังแล้วหายไป คนชอบเข้าใจผิดว่าทำไมตอนดังถึงไม่เก็บเงิน อยากให้แฟนเพลงทุกท่านเข้าใจใหม่ว่า สมัยก่อนตอนที่นักร้องดังๆเขามีนายทุน พอมีนายทุนปุ๊บ ได้เงินมานักร้องก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซนต์นิดหน่อยเท่านั้นเอง สมัยผมเป็นนักร้องใหม่ๆดังถล่มทลาย ค่าตั๋ว 15 บาทคืนนึงสามารถเก็บได้ถึง 5-6 แสน แต่เงินจำนวนนั้นแทบไม่ตกถึงมือเรา ได้เบิกอาทิตย์ละแค่ 1,000-2,000 ที่เหลือเป็นของนายทุน เพราะนายทุนเขาตั้งวงให้ เชียร์ให้ พอได้เงินเขาก็กอบโกยเอาไป ทีนี้ผ่านไป 10-20 ปี พอหมดความดังก็หมดเงิน ถึงตอนนั้นนายทุนก็ปล่อย ปล่อยแล้วจะไปหากินตรงไหน เพราะเขากินหัวน้ำไปหมดแล้ว พวกที่อยู่ปลายน้ำก็ต้องหากินเองตามยถากรรม นักร้องหลายคนถึงได้นับหนึ่งใหม่ หาเช้ากินค่ำ แฟนเพลงจึงไม่เข้าใจว่าทำไมนักร้องถึงตกทุกข์ได้ยาก ตายไม่มีโลงจะใส่ เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มีหน่วยงานไหนดูแล

ผมอยู่วงการมา 40 ปีเล็งเห็นว่า ถ้าไม่มีกระบอกเสียงตรงนี้ ประชาชนก็จะไม่รู้ความจริง ไม่มีใครสงสาร ฉะนั้นที่ดูแลอยู่ตอนนี้ประมาณ 30-40 คน ก็ต้องช่วยดูว่ามีทางไหนบ้างที่จะช่วยเขาได้ นักร้องหลายคนขนาดลอยกระทง ตรุษจีน ปีใหม่ เทศกาลสำคัญๆไม่มีงานเลย วันธรรมดาๆไม่ต้องพูดกัน ค่าตัวไม่ใช่ว่าแพงนะ บางคน 5,000 3,000 ก็ไปแล้ว ผมมารับตำแหน่งนี้ก็อยากจะดูแล อยากบอกแฟนเพลงทุกๆท่านว่า นักร้อง ศิลปินที่ไปทำแผ่นขายหน้าเวที ช่วยเขาซื้อเถอะ ทุกวันนี้ห้างต่างๆมันเละเทะไปหมดแล้ว เทปผีซีดีเถื่อนก็มีมากมาย ฉะนั้นการทำซีดีไปขายตามงานโชว์ก็ช่วยเขาซื้อเถอะครับ นี่เป็นการช่วยนักร้องจริงๆ

อาชีพนักร้องสมัยก่อนกับสมัยนี้แตกต่างกันมากไหม

วงการเพลงลูกทุ่งสมัยก่อนเงินสะพัด มือปืนเยอะ เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น นายทุนไม่ต่างจากมาเฟีย เทคโนโลยีก็ไม่มี ตำรวจก็ไม่ทัน

นักร้องยุคก่อนจะเสียเปรียบเยอะ ยกตัวอย่างเช่น สมัยนี้นักร้องรับเชิญอย่างเดียว วงไม่มี สามารถแบ่งรายได้ 70/30 นักร้อง 70 นายทุน 30 แต่สมัยก่อนคุณจะได้เล่นแค่ครั้งเดียว หนึ่งโชว์เท่านั้นสำหรับงานที่เขาจ้างไป วงไหนไม่ดี ไม่ดังก็ไม่ได้เงิน ถึงได้เงินก็ไปตกที่นายทุนซะหมด จะไปขอร้อง ถามหาความยุติธรรม คุณแบ่งเงินให้ผมบ้างได้ไหม พูดมากเดี๋ยวถูกกระทืบ ไปแข็งข้อกับเขา ดีไม่ดีตายอีก สมัยนี้นักร้องดังๆค่าตัวไม่ต่ำกว่าแสน นักร้องที่เป็นเอกเทศอย่างผมก็หาเช้ากินค่ำไป เจ้าภาพพอใจก็จ่าย งานใกล้ๆหน่อยก็แค่ 20,000-30,000 บาท แต่นักร้องตามค่ายตอนนี้ คุณไปดูได้เลย 2 แสนทั้งนั้น ยิ่งเป็นนักร้องสตริงเดี๋ยวนี้ 5 แสน

เมื่อก่อนเทคโนโลยีก็ไม่เหมือนสมัยนี้ คุณร้องผิดต้องร้องใหม่หมด เดี๋ยวนี้ร้องผิดคำเดียว ก็ร้องแก้แค่คำเดียว เสียงไม่เอื้อนก็ทำให้เอื้อนซะเลย เสียงไม่ยาวก็ทำให้ยาวซะเลย เสียงไม่กว้างก็ทำให้กว้าง สมัยนี้มันเป็นแบบนี้ สมัยก่อนต้องแหกปากออกมาเลย ร๊ากกกกมาก่อนใคร (ตะโกนร้องเพลงรักมาห้าปีของศรเพชร ศรสุพรรณเสียงดังมาก) ไม่มีเทคโนโลยีช่วย ร้องผิดร้องใหม่สถานเดียว แล้วดูนักร้องรุ่นเก่าสิ ร้องมา 40 ปี ถือไมค์ตัวเดียวยืนร้องเพลงทื่อๆเหมือนสากกะเบือ แต่อยู่ได้ เพราะเขาขายเสียง เขาจะอยู่ได้จนกระทั่งเขาตาย ถึงตายไปแล้วก็ยังมีคนโจษขาน เพราะนี่คือของแท้

"ผมฟังเพลงลูกทุ่งยุคนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว"เสียงจากรุ่นใหญ่ "เสรี รุ่งสว่าง"

จริงหรือไม่ที่เขาว่านักร้องลูกทุ่งยุคนี้มีตัวช่วยเยอะ ทั้งสื่อ เทคโนโลยี เวทีประกวด โอกาสดังเลยง่าย

สมัยก่อนเพลงลูกทุ่งเขาฟังทางวิทยุ ไม่เห็นรูปร่างหน้าตา ฉะนั้นเสียงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง พอสื่อเปลี่ยนจากวิทยุเป็นโทรทัศน์ ค่านิยมเสพสื่อของคนก็เปลี่ยนจากหูเป็นลูกตา ทุกอย่างเลยบิดเบือนไปหมด คุณภาพของศิลปินกลายไปรวมกันอยู่กระจุกเดียว เอ๊ะ ไอ้นี่เป็นดารารึเปล่าวะ ไอ้นี่เป็นนักร้องรึเปล่าวะ ชักสับสน คนเดียวเป็นมันทุกเรื่อง หน้าตาดี ร้องเพลง เต้น เล่นตลก ผมถามหน่อยว่าไอ้คนที่เป็นหลายๆเรื่องมันเอาดีสักเรื่องได้ไหม

เมื่อค่านิยมเปลี่ยนจากหูเป็นลูกตา ถามว่าการดูไปด้วยฟังไปด้วยกับใช้หูฟังอย่างเดียว อันไหนดีกว่ากัน ...ก็ต้องฟังสิ โห ไอ้นี่มันร้องเพราะว่ะ เสียงมันดีจัง ร้องชัดทุกคำ เราจะมีสมาธิในการฟัง แต่พอดูทางลูกตาปุ๊บ เฮ้ย ไอ้นี่มันหล่อเว้ย แต่พอฟังเสียง อ๋อ มันร้องพอใช้ได้ แต่กูชอบมันเพราะมันหน้าตาดี คนปั้นก็ลังเล มึงร้องไม่ดี แต่กูอยากจะปั้นมึงอ่ะ เพราะมึงสวย ต่างจากนักร้องยุคเก่าโชว์เสียงกันสดๆ รู้กันไปเลยว่าไอ้คนนี้ร้องเพราะโว้ย แบบนี้แหละที่ทำให้นักร้องรุ่นเก่าๆอยู่เป็นอมตะ อย่างสุรพล สมบัติเจริญ หลานผมยังรู้จักเลย ตายไปนาน 40-50 ปีแล้วแต่คนยังฟังอยู่

นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่เน้นขายหน้าตามากกว่าเสียงจริงไหม

เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ทันสมัย คนไม่หล่อจะทำให้หล่อมากๆก็ได้ เพราะเทคโนโลยีมันเอื้ออำนวย สมัยก่อนกว่าจะผ่านมาเป็นศิลปินได้ยากมาก ถ้าไม่เจ๋งจริง ร้องไม่ดีจริง คุณไม่ได้เกิด

ลูกทุ่งสมัยก่อนเขาฟังทางหู เสียงดีอย่างเดียว รูปหล่อไม่เกี่ยว แต่ลูกทุ่งสมัยนี้ดูทางลูกตา เสียงไม่เกี่ยว มึงรูปหล่อ มึงสวย กูเอา ก็เลยทำให้วงการมันเละ มาตรฐานไม่มีแล้ว นักร้อง คุณจำไว้เลยว่าต้องใช้เสียง ดารามันต้องใช้หุ่นใช้หน้าตา ต้องแยกแยะกันให้ถูกเรื่อง สื่อปัจจุบันนี้มันทำให้ทุกอย่างบิดเบี้ยวไปหมด ยกตัวอย่างคุณกับผมไปสมัครร้องเพลงด้วยกัน คุณเสียงพอใช้ได้เท่าๆกับผม หรือผมอาจจะดีกว่าคุณ แต่เขาไม่ได้พิจารณาผมนะ เพราะผมหน้าตาไม่ดี แต่คุณหน้าตาดี เขาก็เอาคนหน้าตาดีไว้ก่อน ยุคนี้มันเป็นแบบนี้ คุณภาพวงการเพลงลูกทุ่งมันก็เลยด้อยลงไป แต่ยังไงก็ตามถึงยุคสมัยจะเปลี่ยนไป ก็ขอให้มันร้องชัดหน่อย บางคนร้องมาผมยังฟังไม่รู้เลยว่ามันร้องเพลงลูกทุ่งรึเปล่า มันร้องเพลงไทยหรือร้องเพลงสากลวะ ฟังไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) วัยรุ่นสมัยนี้มันฟังออกกันได้ยังไง ไม่เข้าใจ เราเป็นศิลปินก็ต้องให้คนมาเลียนแบบเรา ต้องให้คนมาตามอย่างเรา ฉะนั้นคุณเป็นศิลปินดังก็ขอให้ร้องให้มันชัดได้ไหม ทุกสาขาเลย ร้องให้มันถูกต้อง

คนที่ร้องเพลงได้ชัดมากๆและดังไม่หยุดก็คือ เบิร์ด ธงไชย คุณลองไปฟังสิ เขาไม่มีร้องมั่ว ชัดทุกคำ ฟังได้ทุกคำ เขาถึงเป็นอมตะ ฉะนั้นนักร้องไม่ว่าจะแนวไหน สตริง ลูกทุ่ง ลูกกรุง ก็ใช้ภาษาให้มันถูกต้อง คนที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลหน่อย อย่าให้ทำภาษาไทยวิบัติ

มองวงการเพลงลูกทุ่งวันนี้อย่างไร

ทุกวันนี้วงการเพลงลูกทุ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง รายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งต่างๆที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ผมขอบคุณเขานะที่ช่วยให้เพลงลูกทุ่งอยู่ได้ แต่มันเป็นดาบสองคม ถ้ารายการคุณทำไม่ถูกต้องมันจะไปทำลายวงการ แต่ถ้าทำถูกต้อง ทำออกมาได้ดี มีมาตรฐาน มันจะช่วยให้มีศิลปินนักร้องดีๆมาประดับวงการ

สมัยนี้กติกาการให้คะแนน บางรายการคะแนนเต็ม 100 แบ่งเป็นลีลา 20 เสื้อผ้า 20 อักขระ 20 จังหวะ 20 เสียงร้อง 20 ถามว่าเสื้อผ้ามันทำให้เสียงเพราะได้ไหม อักขระ จังหวะ และเสียงร้อง 3 อย่างนี้มันต้องประกอบเข้าด้วยกัน แค่ 3 อย่างเท่านั้น คุณจะนุ่งกางเกงขาสั้นขายาวมันไม่ได้ช่วยให้ดังได้ ลีลาดึงฟ้าดึงดาวก็ไม่ได้ช่วยให้ดังได้ เสียงร้องต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง การให้คะแนนเรื่องเสียงนี่ต้อง 90-95 % เลย ถ้าไม่ถึงขั้นนั้น อมตะไม่ได้ แบบฟลุ๊คๆก็อาจจะดังได้เพลงเดียว แต่จะดังยาวนาน 30-40 ปีคงไม่ใช่ ถ้าผมเป็นกรรมการตัดสิน ผมจะให้ความสำคัญที่เสียงร้อง 100 % เลย อย่างอื่นไม่เกี่ยว นี่คือมาตรฐานของเสรี รุ่งสว่าง

อยากถามเจ้าของรายการต่างๆว่า คุณจะเอาอะไรกันแน่ ถ้าให้ผมเดา ผมเดาว่าคุณอยากได้อะไร อยากได้เงินไง อยากให้รายการคุณสนุก คุณไม่ได้มาปั้นจริงจัง ที่คุณทำกันอยู่มันคือธุรกิจ แล้วจะไปเอาดีตรงไหนล่ะ เพราะเน้นเรตติ้ง ต้องโหวต ที่คุณทำอยู่มันไม่ได้สร้างนักร้องหรอก คุณสร้างเงินใส่กระเป๋าคุณ เพื่อใช้ชื่อตรงนี้เท่านั้นเอง แต่การจะมาใช้ชื่อตรงนี้ก็ขอให้มันได้ดีสักนิดนึง ทิ้งอะไรให้คนรุ่นต่อไปได้หยิบไปต่อยอดได้ในอีก 40 ปีข้างหน้า ทำสิ่งดีๆฝากไว้ในวงการได้ไหมให้คนรุ่นหลังได้เอาไปใช้ ถ้าคุณมาทำลายหมดสมัยนี้ ไม่ส่งต่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานแล้วมันจะเอาอะไรกินกันล่ะ

"ผมฟังเพลงลูกทุ่งยุคนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว"เสียงจากรุ่นใหญ่ "เสรี รุ่งสว่าง"

เคยเห็นคุณออกมาวิจารณ์ว่าบางรายการเอาใครไม่รู้มาเป็นคอมเมนเตเตอร์

พวกคอมเมนเตเตอร์บางทีก็ปล่อยเพชรหลุดมือ มีให้เห็นอยู่ทุกรายการ ถามว่าคุณกับผมแค่สองคนยังคิดไม่เหมือนกันเลย แล้วการเอากรรมการมา 10 คน ถ้าไม่ชัดเจนจริงๆจะตัดสินคะแนนให้เป็นเอกฉันท์ได้ยังไง ไม่มีทาง

ทุกคนฟังเพลงลูกทุ่งเป็นหมดแหละ แต่ไม่ใช่อาชีพเขาไง นักมวยก็ฟังเป็น ร้องได้ นักการเมือง จบดอกเตอร์อะไรก็ร้องลูกทุ่งได้ แต่เขาสอนได้ไหม รู้จริงไหม บางคนคอมเมนต์ว่า น้องไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ ถ้าเป็นผมจะให้กำลังใจเด็กบอกว่า 'วันนี้หนูร้องผิดหลายที่ ออกเสียงก็ไม่ตรง จังหวะหนูก็เพี้ยน อักขระตรงนี้หนูก็ไปแก้อย่างนี้นะ แต่เสียงดีแล้ว เสียงหนูดังได้ แต่วิธีการร้องยังใช้ไม่ได้ลูก เพราะฉะนั้นให้กลับไปแก้ตัวใหม่ อย่าเสียใจลูก ไปทำให้มันถูกต้อง แล้วกลับมาสู้กัน' แล้วผมก็ไม่ให้เขาผ่านจริงๆ เราสอนวันนี้เพื่อให้เขากลับไปฝึกให้เก่งขึ้น

ทุกวันนี้นักร้องหน้าตาไม่ดีแต่เสียงดีมีโอกาสเกิดไหม

ถามว่าสังข์ทอง สีใสหล่อไหม รุ่งเพชร แหลมสิงห์ล่ะหล่อไหม แล้วเขาเกิดไหม ยิ่งใหญ่ไหม

คนฟังเพลงลูกทุ่งจริงๆเขาฟังที่เพลงเพราะ รูปร่างหน้าตาคุณมาบิวท์ข้างนอกได้ เคยเห็นไหมล่ะบางคนเสียงดี๊ดี แต่รูปร่างหน้าตาใช้ไม่ได้เลย แต่พอดังเท่านั้นล่ะคนพูดเลยว่า เฮ้ยหล่อว่ะคือดังแล้วเดี๋ยวมันหล่อเอง ราศีมันจับเอง (หัวเราะ) ไปโมดิฟายเพิ่มมันก็หล่อได้เหมือนกัน แต่ถามว่าเสียงดีกับรูปหล่อ อย่างไหนไปได้ไกลกว่ากัน อย่างไหนอมตะกว่ากัน ถ้าคุณหล่อ อาจจะดังวูบเดียวตอนที่คุณยังหนุ่มอยู่ พอความหล่อคุณหมด เขาก็ไม่จำคุณแล้ว แต่ทำไมคนถึงจำสุรพล สมบัติเจริญได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ทำไมจำพุ่มพวง ดวงจันทร์ สายัณห์ สัญญา ยอดรัก สลักใจ ศรคีรี ศรีประจวบ ทำไมนักร้องรุ่นใหม่ๆถึงไม่จำ แล้วรายการประกวดร้องเพลงล่ะ ทำไมถึงยังเอาเพลงของรุ่นผมไปร้อง  บางคนเอาเพลงยอดรักไปร้องแข่งกับเพลงวัยรุ่น กรรมการตัดสินให้ชนะ ก็เพราะมันคือของแท้ เพชรแท้ก็คือเพชรแท้

มันแปลกอยู่เรื่องนึง คนที่ร้องดีไม่ค่อยโชว์ เพชรมีอยู่เยอะแยะแต่มันยังไม่ถูกเจียระไน  อีกอย่างเพชรมันจะฝังตัวอยู่ลึก และจะไม่ประกายแสงให้ใครเห็น นอกจากว่าคนจะเผอิญไปเจอมัน ก็เหมือนกับศิลปิน ผมเองไม่เคยชอบร้องเพลง บังคับให้ร้องผมก็ไม่ร้อง ประกวดก็ไม่ประกวด แต่ในเมื่อเรามาเป็นศิลปินเราต้องทำให้ดี มันเป็นอาชีพ เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพเราและทำให้คุ้มค่าต่อน้ำเงินของคนที่เขาซื้อเพลงเราไป เพราะเราเป็นคนขายเสียง ขายลม เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดี 

นักร้องลูกทุ่งหลายคนสู้ชีวิต ปากกัดตีนถีบ เป็นลูกวงแบกเครื่องดนตรีหลายปีกว่าจะได้ขึ้นเวทีร้องเพลง

นักร้องลูกทุ่งทุกยุคทุกสมัยไม่ได้เกิดมาจากคนรวย ไม่ได้เกิดมาจากที่ที่เจริญ แต่เกิดจากชาวไร่ชาวนา คนยากคนจน และโดยมากมันเป็นพรสวรรค์ เหมือนกับเทวดาเขาให้เพชรไปตกตรงโน้นตกตรงนี้ แต่ตกในน้ำครำนะ ไม่ได้ตกบนตึก ไม่ได้ตกในพระราชวัง นักร้องลูกทุ่งดังๆคนไหนบ้างที่เป็นลูกคนรวยตั้งแต่กำเนิด ไม่มีหรอก ปากกัดตีนถีบ ยากจนข้นแค้นกันทั้งนั้น

ช่วงผมดังใหม่ๆเป็นยุคที่เพลงลูกทุ่งเฟื่องมาก ผลประโยชน์เยอะ มีมือปืนมาเกี่ยวข้อง บางทีก็ทำให้เราต้องออกนอกเส้นทาง ต้องหลบๆซ่อนๆ จะถูกกระทืบตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะโดนเอารัดเอาเปรียบอยู่ทุกวัน แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่ นักร้องรุ่นใหม่ๆมีการเซ็นสัญญาระบุเลยว่าเท่านี้ผมเท่านั้นคุณ มันทำให้นักร้องสมัยนี้ไม่รู้จักครูบาอาจารย์ ไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้อง เพราะคิดว่าฉันดังได้โดยไม่ต้องอาศัยพวกแก สมัยก่อนเวลาจะไปช่วยงานกุศลอะไรต่างๆ นักร้องดังทั้งหมดก็จะไปเจอกัน รุ่นพี่รุ่นน้องก็สวัสดี แต่ทุกวันนี้ไอ้ค่ายนี้มา กูไม่ไป ไม่รู้จัก กูดัง มึงไม่ดัง กูไม่มองมึง มันเลยทำให้วัฒนธรรมเก่าๆหายไป

เรื่องกตัญญูอ่อนน้อมถ่อมตนในวงการลูกทุ่งเขาถือกัน

ถูกต้องครับ (ตอบเสียงเข้ม) นักร้องลูกทุ่งยุคเก่าเขามีวัฒนธรรม มีจิตสำนึก มีครูบาอาจารย์ มีรุ่นพี่รุ่นน้อง เจอหน้ายกมือไหว้กัน แต่เดี๋ยวนี้พอเห็นเราเดินมา มันหันหน้าไปทางอื่นเลย กูไม่มองมึง รุ่นไหนเป็นรุ่นไหน กูไม่สน กูอยู่ค่ายดัง แต่มันกำลังจะเปลี่ยน ไอ้พวกอยู่ค่ายอยู่คอก เวลานี้คอกมันกำลังจะตาย ค่ายมันกำลังจะแยก เดี๋ยวพอมาอยู่เป็นเอกเทศแล้วจะลำบาก ตอนอยู่ค่าย มีคนมาขอถ่ายรูป ทำแอ็ค ไม่เอา ไม่ว่าง เดี๋ยวพอค่ายคอกล้มไป นักร้องก็ต้องกระจัดกระจาย ต้องมาเดินสายหางานเอง คุณก็จะมาอยู่รวมกันเหมือนพวกผมนี่แหละ ทีนี้ก็จะมา 'สวัสดีครับพี่ พี่ช่วยผมหน่อยครับ' แหม สมัยก่อนมึงไม่รู้จักกู ตอนนี้มารู้จักกูเชียว ตอนนั้นกูขอถ่ายรูป โอ๊ย ไม่เอา ไม่ถ่าย ไม่ว่าง

"ผมฟังเพลงลูกทุ่งยุคนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว"เสียงจากรุ่นใหญ่ "เสรี รุ่งสว่าง"

เจอแบบนี้บ่อยไหม

ปัดโธ่ ผมอยู่ในวงการมา 40 ปี (หัวเราะ)

แล้วโกรธไหม

ไม่ (ตอบเสียงดัง) ผมก็เฉยๆ ไม่ด่า ไม่โกรธ แต่คิดในใจ เป็นไงล่ะลูกเอ๊ย อีตอนที่มึงดัง มึงไม่เห็นใครเขาเลย แล้วตอนนี้มึงมายกมือไหว้เขาทำไม

เวลามีสื่อมาสัมภาษณ์ผม คุณเป็นสื่อก็ต้องอยากได้ของไปขายใช่ไหม ผมก็ได้ประโยชน์จากคุณ ฉะนั้นเราเอื้อกันดีไหม คุณขอสัมภาษณ์ผม เอ้า ได้ๆ มาเลยน้อง เฮ้ย เสรีแม่งช่วยกูว่ะ ตอนนั้นกูไม่ดัง ไม่มีอำนาจ เป็นคนเขียนหนังสือตัวน้อยๆ แต่เสรีให้สัมภาษณ์ ให้ความร่วมมือเต็มที่ ให้ความรู้มากมาย แล้วถามว่ายามที่ผมตก หรือเจ็บไข้ได้ป่วย คุณเป็นใหญ่ มีลูกน้องมากมาย เฮ้ย เสรีป่วยโว้ย ช่วยเขาหน่อย นี่ไง มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก เราอยู่วงการเพลงลูกทุ่ง เราอยู่กับสื่อ เราจะอยู่อะไรก็สุดแท้แต่ ก็ควรเห็นทุกสิ่งอย่างมีความหมาย ไม่ใช่มองไม่เห็นหัวใคร

นักร้องสมัยนี้อยากจะมีบอดี้การ์ดกันซะเหลือเกิน มึงไปไหนก็ไปสิ เราหากินกับประชาชน เราจะไปกลัวประชาชนทำไม เขาให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเรา นักร้องสมัยนี้คิดผิด ตอนยังไม่ดังนี่นะ พอเห็นกล้องตรงไหน อุ๊ย โอ้โห จัดเสื้อจัดทรงผม เดินเข้าหากล้องเลย กูต้องเข้ากล้อง โพสต์ทุกท่า สั่งอะไรทำหมด แต่พอเวลาดัง ทำไมคุณต้องทำตัวแบบว่า อุ๊ย ไม่ได้ อย่าถ่ายผมนะ อย่านะ ปาปารัซซี่ กลัวนะ แตะก็ไม่ได้ ถูกตัวก็ไม่ได้

อย่างเวลาผมไปแสดง ไปโชว์หน้าเวที  2-3 ชั่วโมง ผมให้คุณเลย คุณจะทำอะไรก็ได้ จะกอด จะหอม จะถ่าย จะลูบอีนู่นอีนั่นก็เอาเหอะ เดี๋ยวผมก็กลับบ้าน เพราะอะไรรู้ไหม นั่นแหละคืองานของเรา และนั่นแหละคือคนที่ให้เรา ไม่มีคนพวกนั้น คุณร้องเพลงให้ตายก็ไม่มีคนฟังคุณ ไม่มีคนดูคุณ คุณจะดังได้ไง ความดังของคุณอยู่ที่ประชาชน ถ้าคุณไม่เอาประชาชน ไม่ถ่ายรูปกับเขา จับมือก็ไม่ได้ เอ้า มึงเป็นเทวดาแล้ว แต่ตอนเวลาตกต่ำ สวัสดีคร้าบ สวัสดีจ้า มาจับมือกัน ถ่ายรูปกันหน่อย ผมไม่เข้าใจชีวิตพวกคุณเลย

ในฐานะนักร้องรุ่นใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ มีวิธีวางตัวยังไงให้ดังได้นาน

การครองตัวให้ดีมันต้องทำทุกอย่างพร้อมกันไป นิสัยคุณต้องเข้าได้กับทุกคน ไม่ว่าใครมาขอความช่วยเหลือ ช่วยได้ก็ช่วยไป อะไรที่เราทำได้ก็ควรจะทำ แล้วมันจะสะสมจากตรงนั้นทำให้คนรู้ต่อๆกันไปว่าความดีของคนไม่ได้เกิดวันเดียว คุณทำมาสิบปีความดีมันถึงเกิด คุณทำวันนี้อีกสิบปีข้างหน้ามันถึงจะเกิด ไม่ใช่ทำวันนี้พรุ่งนี้กูต้องได้เลย การที่เราจะทำดี ต้องโอบอ้อมอารีกับเพื่อนฝูง เวลาเราดี เราช่วยเขา เวลาเราเซ เพื่อนจะช่วยค้ำ มันต้องค้่ำคูนกัน ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี

คุณจำผมไว้ ความดังของคนมันดังไม่ได้นาน แต่ความดีของคนตายไปสิบปีร้อยปีมันก็ยังดีอยู่นั่น

อาชีพนักร้อง การร้องเพลงอย่างเดียวอย่าไปไว้ใจมัน วันไหนเกิดความนิยมหมด เราจะเอาอะไรกิน ตอนกำลังดังกำลังพีค ทำไมไม่หาอย่างอื่นทำ ไม่หาอย่างอื่นมาเป็นอาหารเสริม คุณต้องหากิจการมาเสริมด้วย เผื่อเราพลาด ไม่มีงาน คนไม่จ้าง เงินไม่มี คุณรู้ไหมขนาดตอนผมดังถล่มทลายยังไปขับสิบล้อเลย ตอนดังๆผมร้องเพลงเก็บเงินได้เป็นแสนๆ ยังไปขับรถสิบล้อได้เที่ยวละห้าร้อย คนเราอย่าไปเกี่ยงเงินน้อย อย่าไปคอยเงินมาก มีอะไรก็ทำไป ได้เงินมาก็ต้องใช้ให้เป็นระเบียบ รู้จักใช้ รู้จักกิน ใช้เงินให้เป็น ไม่งั้นวันที่เราหมดความดัง หมดงาน ชีวิตจะแย่   

ในวัย 62 ความสุขของผู้ชายชื่อเสรี รุ่งสว่างอยู่ตรงไหน

จากลูกชาวนาซูเปอร์จน จนกระทั่งไม่มีข้าวกิน ต้องไปรูดใบมะขามกิน ชีวิตวัยเด็กหาคุณค่าไม่ได้เลย ถึงวันนี้ทุกทวีปไปมาหมดแล้ว เห็นมาหมดแล้ว เจอมาหมดแล้ว ทำให้ผมคิดได้ว่า คนเราอยู่ไม่ถึงร้อยปีหรอก ทำความดีไว้เพื่อให้คนเขาจารึกว่าเสรี รุ่งสว่างเขาทำนี่ทำนู่นทำนั่น เคยช่วยเหลือคนนู้นคนนี้

คนเราถ้าเกิดไม่คิดเรื่องความตายบ้างมันก็จะโลภมากไปเรื่อย บางคนรวยแล้วก็อยากจะมีอำนาจ พอมีอำนาจก็อยากจะมีให้ล้นฟ้า ถามว่าตายไปคุณเอาอะไรไปได้สักอย่างไหม ไอ้ที่พูดไม่ใช่ว่าผมปลงได้นะ แต่ผมรู้จักพอ ตัวผมทุกวันนี้ คุณลองค้นกระเป๋าดู ถ้ามีเงินสักร้อยผมให้กระทืบเลย ผมไปรถอะไรก็ได้ ไม่ยึดติด สักวันเราก็ตาย อยู่ไปโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นดีกว่าแล้วไอ้ความที่เราเคยจนเหลือเกิน ก็นั่งคิดว่าชาติก่อนเราไปทำอะไรใครไว้ ไปโกงใครไว้รึเปล่าวะ ชาตินี้เราต้องชดใช้ให้หมด ชาติหน้าจะได้เกิดอีกรึเปล่าไม่รู้แหละ แต่ชาตินี้เราจะใช้ให้หมด เรามีชีวิต มีเลือดเนื้อ มีจิตวิญญาณ เราก็ทำความดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทำผิดให้น้อยที่สุด

ความสุขง่ายๆของผมในทุกวันนี้คือ การได้ไปร้องเพลงบนเวที การให้ความสุขกับประชาชนเป็นความสุขของผม.

"ผมฟังเพลงลูกทุ่งยุคนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว"เสียงจากรุ่นใหญ่ "เสรี รุ่งสว่าง"