posttoday

สรุปเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติ 7 ส.ค. 2559

18 กรกฎาคม 2559

ชวนอ่านสรุปเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ฉบับสั้นและเข้าใจง่าย

โดย...คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

ภาพรวม

รัฐธรรมนูญไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและทิศทางการพัฒนาประเทศเพื่อให้ลูกไทยหลานไทยอยู่ในโลกยุคต่อไปได้ทัดเทียมชาติอื่นได้อย่างยั่งยืน

**********

ปัญหาของประเทศไทย

1. ประเทศไม่เจริญ / ย่ำอยู่กับที่ / ดูทันสมัยแต่ไม่พัฒนา
2. เหลื่อมล้ำ / ไม่เป็นธรรมในทุกมิติ
3. สังคมแตกแยก / ใช้สิทธิเสรีภาพกันอย่างไม่รับผิดชอบ

**********

สาเหตุของปัญหา

1. คอร์รัปชัน/ความไม่โปร่งใสและไม่รอบคอบของการวางนโยบายสาธารณะ/การใช้จ่ายเงินแผ่นดินโดยไม่คุ้มค่า/การบริหารราชการแผ่นดินไม่โปร่งใส/ไม่รับฟังความเห็นประชาชน (ปชช) กฎหมาย (กม) ไม่ทันสมัย

2. คุณภาพการศึกษาต่ำมาก/เน้นปริมาณ/ละเลยการพัฒนาเด็กเล็กซึ่งเป็นพัฒนาการที่สำคัญที่สุดของมนุษย์/ไม่เปิดให้เด็กพัฒนาศักยภาพได้ตามถนัด

3. กฎหมายให้ดุลพินิจแก่เจ้าหน้าที่มากเกินไป/ใช้ระบบควบคุมมากเกินไป/จึงเกิดการใช้ดุลพินิจหลายมาตรฐานและการทุจริต/คนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม/ขณะที่คนไทยเองก็ขาดระเบียบวินัยที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย

4. นักการเมืองจำนวนหนึ่งขาดคุณธรรมจริยธรรมอย่างรุนแรง เล่นพรรคเล่นพวก เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทุจริต

5. ระบบราชการหย่อนประสิทธิภาพ

6 .ไม่มียุทธศาสตร์พัฒนาประเทศที่ประชาชนและรัฐเห็นดีเห็นงามร่วมกันที่มีความต่อเนื่องในระยะยาว จึงเดินเป๋ไปเป๋มาตามลมการเมือง

7. ค่านิยมประหลาด บริโภคนิยม/วัตถุนิยม/ไม่คิดวางแผนระยะยาวให้ลูกหลาน คิดถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า/ขาดวินัย/ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม อยากทำอะไรก็ทำ

**********

หลักการของร่างรัฐธรรมนูญใหม่

- รับรองความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ในบททั่วไปเพื่อคลุมทุกเรื่องว่าทุกคนต้องเสมอกัน และวางหลักว่ารัฐมีหน้าที่ทำสิ่งดี ๆ ให้แก่บ้านเมือง สิ่งที่บัญญัติไว้เป็นแต่เพียงมาตรฐานขั้นต่ำที่ต้องทำเท่านั้น จะทำดีมากกว่านั้น เป็นประโยชน์แก่ ปชช มากกว่านั้น ทำได้หมด แต่ทำเรื่องเลว ๆ หรือเรื่องที่ รธน หรือ กม ห้ามไว้ไม่ได้

- ประชาชน/ชุมชนมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น **อะไรที่ รัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมาย ไม่ได้ห้ามไว้ สามารถทำได้หมด** ไม่ต้องเขียนจาระไนแบบเก่า ๆ ที่หลุดง่าย

- การออก กฎหมาย ที่จำกัดสิทธิ ต้องผ่านการรับฟังความเห็นประชาชน/ ผ่านรัฐสภา/ ต้องไม่ขัดหลักนิติธรรม / ไม่เกินจำเป็น ประชาชนและชุมชนขอให้ศาลตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายได้เสมอ

-การใช้สิทธิเสรีภาพของคนทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่น สังคม และประเทศชาติ ไม่ใช่ใช้อย่างไรก็ได้

- ไม่ได้ยกเลิกบัตรทอง แต่กำหนดชัดว่าให้ปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น รวมทั้งสิทธิประกันสังคมด้วย

-ไม่ได้ยกเลิกเบี้ยผู้สูงอายุ แถมยังกำหนดให้มีเบี้ยยังชีพสำหรับบุคคลผู้ยากไร้ด้วยไม่ว่าจะมีอายุเท่าไร

-เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพตามศักยภาพของแต่ละคนที่แตกต่างกัน และมีคุณธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับคุณลักษณะของประชากรในอนาคตที่ต้องมี "creativity-collaboration-talent"

-รัฐต้องจัดการพัฒนาเด็กเล็กอย่างน้อยตั้งแต่ 2 ขวบ เรื่อยไปจนชั้นอนุบาล ประถม จนจบภาคบังคับ (ม.3) โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รวมอย่างน้อย 14 ปี จบ ม.3 แล้วให้เลือกตามถนัดจะเรียนต่อหรือจะไปทำงานก็ได้ แต่ถ้าจะเรียนต่อต้องได้เรียน โดยมีกองทุนสนับสนุน เป็นกองทุนใหม่ ไม่ใช่ กยศ / ขณะนี้ คสช เห็นด้วยกับแนวทางนี้และมีคำสั่งให้เรียนฟรีได้ถึง ม.6/ปวช.3 ด้วยแล้ว

- ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ โดยกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่เรื่องลับเพื่อความโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบอย่างจริงจัง

-เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตสำหรับผู้ทุจริตในการเลือกตั้ง/ต่อหน้าที่ ทรัพย์ที่ได้มาจากการทุจริตและที่ได้มาแทน ไม่ว่าจะโอนให้ใครไป ต้องถูกริบคืนให้ตกเป็นของแผ่นดิน

- ยังเป็นระบบ 2 สภาเหมือนเดิม คือ สส. และ สว. โดยสส. 500 (แบ่งเขต 350 & บช. รายชื่อ 150) เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียวเหมือนเดิมและกาบัตรใบเดียว แต่เพิ่มเติมเรื่องการนำคะแนนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเขตได้ลงคะแนนไว้ทุกคะแนน (ทั้งคนที่ได้ /ไม่ได้รับเลือกเป็น สส เขต) ไปรวมนับคะแนนจากเขตอื่นทั่วประเทศเพื่อกำหนดจำนวน สส. ทั้งหมดที่พรรคนั้น ๆ จะได้แล้วนำจำนวน สส. เขตที่พรรคนั้นได้ไปหักออก ก็จะได้ สส. บช. รายชื่อ

- สว. จำนวน 200 คน

- การเลือก สว. จะตั้งกลุ่มตามความรู้ / เชี่ยวชาญ / อาชีพการงาน ฯลฯ ปชช. สามารถสมัครเองได้ จากระดับอำเภอ --> จังหวัด --> ประเทศ

**5 ปีแรก ให้มี สว. 250 คน ทั้งจากการเลือกและสรรหาโดย คสช. เพื่อกำกับและติดตามการปฏิรูปประเทศ**

- คสช. สนช. กรธ. จะพ้นตำแหน่งก่อนรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่

**********

ปากท้องของพี่น้องประชาชน

- ไม่กำหนดวิธีการว่าให้ใช้ระบบ เศรษฐกิจ แบบใด (เดิมระบุว่าต้องใช้ระบบเสรีโดยอาศัยกลไกตลาด) แต่เน้นว่า เป็นระบบที่ ประชาชน ต้องได้ประโยชน์ไปด้วยกันอย่างทั่วถึงและยั่งยืน (inclusive and sustainable growth) ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง / ไม่ใช่มือใครยาวสาวได้สาวเอาตามแบบกลไกตลาดอย่างเดียว

- รัฐไม่ประกอบกิจการแข่งเอกชน แต่ต้องส่งเสริมให้เอกชนมีความสามารถในการแข่งขัน

- ส่งเสริมธุรกิจ ขนาดกลาง-ย่อม

- พัฒนาวัตถุและจิตใจและตวามอยู่เย็นเป็นสุขของ ประชาชน อย่างสมดุล

- กฎหมาย ยุทธศาสตร์ชาติ  ต้องเสร็จใน 120 วัน หลังร่างรัฐธรรมนูญผ่าน --> ยุทธศาสตร์ชาติ (20 ปี) เสร็จในอีก 12 เดือน

- ดังนั้น เท่ากับว่าหลัง รัฐธรรมนูญ ผ่าน ยุทธศาสตร์ชาติต้องเสร็จใน 16 เดือน --> เมื่อมี ครม. เข้ามา การทำงานต้องสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงการทำงบประมาณด้วย

- กระบวนการ/ ระยะเวลาอนุมัติ งบประมาณ แผ่นดิน สั้นลง --> แผนต่างๆ เดินหน้าเร็วขึ้น --> กำหนดระยะเวลาจัดทำ กฎหมาย หลายฉบับสั้นลงและบทลงโทษในกรณีทำไม่เสร็จ -->ขอเห็นชอบหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ ต้อง พิจารณา ให้เสร็จใน 60 วัน (เหมือนรัฐธรรมนูญ 50) ถ้าไม่เสร็จถือว่าเห็นชอบ

**********

สรุป

ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่ใช่เรื่องการปะผุการเมืองอย่างเดียว แต่เป็นการวางอนาคต ประเทศร่วมกัน 7 สิงหานี้ เป็นการลงประชามติว่าประชาชนจะเห็นด้วยกับอนาคตของชาติที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำมาเสนอหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องการเอาชนะคะคานทางการเมืองอย่างที่ใครต่อใครคิด