posttoday

เอ็นจีโอกะซวก คสช. เอื้อนายทุน-รัฐประหารเสียของ

19 มีนาคม 2559

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ คปพ. และเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์ประชาชนว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตอนผังเมือง

โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) และเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ วิสัยทัศน์ประชาชนว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตอนผังเมือง เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีวิทยากรอภิปรายทั้งสิ้น 19 คน ซึ่งส่วนใหญ่เคยร่วมกับกลุ่ม กปปส.ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้วิพากษ์ถึงการใช้อำนาจมาตรา 44 ในการออกคำสั่ง การปลดล็อกผังเมืองและอีไอเอ ว่า ไม่ชอบและยังเป็นการทำร้ายประชาชน

“พี่น้องเอ้ย ถ้าพี่น้องไม่ออกมาเดิน ไม่ออกมาต่อสู้ด้วยเท้า ถามว่าเขาจะมีปัญญามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่” บุญยืน ศิริธรรม อดีต สว.สมุทรสงคราม อภิปราย พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่มีวันนี้ ถ้าภาคประชาชนไม่ออกมาเคลื่อนไหว

บุญยืน กล่าวอีกว่า ในยุคหนึ่งประเทศไทยเคยมีผู้บริหารที่ถูกประชาชนด่าว่าเป็นอีโง่ แต่ปัจจุบันกลับรู้สึกว่ามีคนที่โง่กว่า เพราะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากกว่า โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยกเลิกกฎหมายหลายฉบับเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน แต่กลับบอกให้ประชาชนเคารพกฎหมาย ถามว่าใครกันแน่ที่ไม่เคารพกฎหมาย

“การใช้อำนาจมาตรา 44 เหมือนเอารองเท้าบู๊ตมาเหยียบปาก ทุกวันนี้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคมิคสัญญี ไร้ขื่อแป อยากจะยกเลิกกฎหมายอะไรก็ทำ อยากจะยกที่ดินให้ต่างชาติก็ทำ ถามว่าแบบนี้มันปฏิรูปอะไรกัน” บุญยืน ตั้งคำถาม

ขณะที่ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับโอกาสจากประชาชนให้มาหยุดสถานการณ์ความขัดแย้ง แต่ที่เราคาดหวังมากไปกว่านั้นคือรัฐบาลจะเข้ามาปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น แน่นอนว่ารัฐบาลที่มาจากรัฐประหารหากสามารถครองหัวใจคนได้ เราก็จะให้โอกาสต่อไปนานเท่านาน แต่ถ้ารัฐบาลทำไปในทิศทางตรงกันข้าม รัฐบาลก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ในประเทศนี้อีกต่อไป

สอดคล้องกับแนวร่วมอีกรายอย่าง วีระสมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ที่ระบุว่า การทำรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิ่งที่เสียของ และทำลายผลประโยชน์ของชาติ

“ผมบอกตรงๆ ว่ารู้สึกอดสูใจเหลือเกิน ตอนนี้จะครบ 2 ปีแล้ว ไม่เห็นท่านจะสนใจแก้ปัญหาอะไร สนใจแต่ว่ากูจะหาทางอยู่ยาวอย่างไร ผมขอเตือนว่าอย่าทำให้ประชาชนรู้สึกว่าทนไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน” วีระ กล่าว

นักเคลื่อนไหวรายนี้บอกอีกว่า ระยะเวลาร่วม 2 ปีของการบริหารประเทศ พบว่ารัฐบาลทำแต่เรื่องที่ไม่ควรทำ คำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์ มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรถึงต้องใช้อำนาจมาตรา 44 ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายหลายฉบับ และกลุ่มทุนก็ได้รับประโยชน์มากกว่าประชาชน ขอถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ รัฐประหารมาเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายหรือมาเพิ่มความเสียหายให้กับประเทศกันแน่

เป็นท่วงทำนองเดียวกันกับ รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กทม. ที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาในฐานะเป็นกรรมการห้ามมวย แต่วันนี้กลับพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลงมาเป็นคู่ชกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอเสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 3, 4 และ 9 ที่จะกลายเป็นระเบิดลูกใหม่ ปกติไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงชะตา แต่ก็ไม่รู้ว่าคำสั่งทั้ง 3 ฉบับนี้ คือดาวมฤตยูที่มาทับดวงเมืองหรือไม่

“ลิงตัวหนึ่งอยากเอาใจเจ้านายที่นอนหลับอยู่ เห็นยุงบินมาตอมที่หน้าผากก็เลยเอากระบองฟาด ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลต้องการคืนความสุขด้วยกระบองที่ฟาดเข้ามาที่กบาลของประชาชนหรือไม่ ทั้งคำสั่งที่ 3, 4 และ 9 เป็นความหวังดีแบบลิงหรือไม่” รสนา ตั้งคำถาม

ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต สว.นครราชสีมา และ สส.ประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ปัจจุบันมีการฉีกรัฐธรรมนูญและหันไปใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพราะรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้รัฐบาลลงทุนโครงการใหญ่ๆ ได้ จึงต้องใช้อำนาจเผด็จการที่ไร้ศีลธรรม และไร้ธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง

“เขาไม่ปฏิรูปเรื่องการให้อำนาจกับประชาชน แต่กลับทำตัวเองให้เป็นทุนขุนนางที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” ไกรศักดิ์ กล่าว

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ประเทศไทยปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ปกครองด้วยนายกรัฐมนตรี ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นเพียงตัวแทนเท่านั้น โดยกฎหมายต้องมีความเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน