นาทีต่อนาทีสถานีบ้านโป่ง...เคลียร์ข้อครหาทหารโผล่ม็อบต้านนศ.

โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด

ควันหลงเหตุการณ์เผชิญหน้าอันตึงเครียดระหว่างกลุ่มประชาธิปไตยศึกษากับชาวบ้าน ณ สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ระหว่างการเดินทางไปทำกิจกรรม “นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในโลกออนไลน์

เมื่อปรากฎภาพของ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 ในชุดพลเรือน ปะปนกับกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาปิดล้อมและด่าทอนักศึกษาด้วยถ้อยคำรุนแรง

ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นตามมาจากผู้คนจำนวนหนึ่งในสังคมออนไลน์คือ มีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังการนำม็อบชาวบ้านมาปะทะกับนักศึกษาหรือไม่?

ลองไล่เรียงลำดับเหตุการณ์กันดูจะพบว่า ....

9.30 น. ขบวนรถไฟสายธนบุรี-หลังสวนเลขที่ 255 ที่มีนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ประชาชน และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาถึงชานชาลาสถานีบ้านโป่ง

ภาพที่เห็นคือ มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจนับร้อยนายตรึงกำลังเต็มพื้นที่บริเวณชานชาลา ทันทีที่รถไฟจอดสนิท เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งก้าวขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ก่อนจะเปิดฉากเจรจาต่อรองให้ นายสิรวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาลงไปด้านล่างเพื่อพูดคุย แต่ไม่สำเร็จ ระหว่างนั้นมีการควบคุมตัวนายอานนท์ นำภา และ นส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ ไปยังห้องประชุมภายในสถานีรถไฟบ้านโป่ง

การเจรจาผ่านไปประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารหลายรายในขบวนรถไฟเริ่มออกอาการไม่พอใจ เนื่องจากเสียเวลาในการเดินทาง ผู้โดยสารคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ พร้อมตะโกนเรียกร้องให้จ่านิวหยุดกิจกรรม โดยให้เหตุผลว่าลูกสาวป่วย ต้องรีบไปโรงพยาบาล

ท้ายที่สุดเมื่อการเจรจายังไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จ เจ้าหน้ารถไฟจึงตัดสินใจตัดข้อต่อตู้โดยสารรถไฟของกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาออกจากขบวนหลัก เพื่อให้การเดินทางไปต่อได้

10.00 น. เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อชาวบ้านในพื้นที่เริ่มทยอยออกมามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชาย 2 คนเดินเข้ามาประชิดขบวนรถไฟ พลางต่อว่าด้วยอารมณ์เดือดดาลใส่นายสิรวิชญ์ พร้อมยั่วยุให้ลงมาจากขบวนรถ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันตัวออกไป โดยนายสิรวิชญ์พยายามชี้แจงต่อชาวบ้านว่า ไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อน เพียงอยากเดินทางไปให้ถึงอุทยานราชภักดิ์เท่านั้น

10.30 กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาถูกคุมตัวลงจากตู้โดยสาร ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนต่อแถวจับมือเป็นแนวป้องกัน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับทางกลุ่มประชาธิปไตยตลอดระยะทางจากขบวนรถไปจนถึงห้องประชุมประจำสถานี ท่ามกลางเสียงด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงจากชาวบ้านจำนวนหนึ่ง

11.00 น. การเจรจาภายระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้จัดกิจกรรมในห้องประชุมผ่านไปราว 30 นาที กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาชุดแรกประมาณ 20 คน ถูกนำตัวออกจากห้องประชุมไปขึ้นรถบัสทหาร ท่ามกลางการอารักขาเจ้าหน้าที่

ชาวบ้านรายหนึ่งตะโกนแหวกเข้ามาว่า“ขอรอดูหน้าจ่านิวหน่อย”

ตอนนั้นเองมีหญิงสูงวัยรายหนึ่งเด็ดต้นหญ้าจากพื้น ขึ้นชูเหนือหัว พร้อมกับตะโกนเย้นหยันกลุ่มนักศึกษาว่า“เอาหญ้าไปกินเถอะ

12.00 น. ชาวบ้านยังคงเดินทางเข้ามายืนรอบบริเวณทางออกห้องประชุมสถานีรถไฟ อันเป็นจุดที่กลุ่มประชาธิปไตยต้องเดินผ่านเพื่อขึ้นรถบัส ไม่นานกลุ่มผู้จัดกิจกรรมที่เหลืออีกประมาณ 20 คน นำโดยจ่านิว ก็เดินออกมาจากห้อง ตามมาด้วยเสียงโห่ฮาของชาวบ้าน นักศึกษาขึ้นไปบนรถบัสแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ปิดกระจกรถทุกบาน ปรากฏว่ากลุ่มชาวบ้านยังตามไปตะโกนด่าอย่างต่อเนื่อง บางส่วนขว้างปาก้อนดิน รองเท้า และขวดน้ำเข้าใส่รถ โดยฝ่ายนักศึกษาโต้ตอบกลับไปด้วยการยิ้มพร้อมกับชูสามนิ้ว

ระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีชมพู ได้เข้าประชิดตัวรถ ตะโกนด่าทอพร้อมกับชูนิ้วกลางใส่กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ทำให้ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งใส่เสื้อสีชมพู และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เข้าห้ามปราม พร้อมขอให้ประชาชนหยุดการตะโกนและขว้างปาสิ่งของใส่รถบั

ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงจากสายตาของผู้สื่อข่าว ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาราว 3 ชั่วโมง บริเวณสถานีรถไฟบ้านโป่ง

หลังภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ก่อให้เกิดกระแสตามมาว่าทหารเกี่ยวข้องกับการนำม็อบชาวบ้านมาปิดล้อมโบกี้รถไฟนักศึกษาครั้งนี้

พล.ต.ธรรมนูญ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่ปรากฎในภาพ เป็นจังหวะที่ประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยกับนักศึกษาเข้ามาปิดล้อมรถที่จะนำนักศึกษาออกจากพื้นที่ จึงได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง เนื่องจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุความวุ่นวาย พร้อมสั่งการให้กันประชาชนออกจากรอบรถระยะ 5 เมตร

"ขณะนั้นมีบุคคลที่เข้ามาประชิดที่รถ ผมจึงเข้าไปห้ามปราม และผลักดันออกไป"พล.ต.ธรรมนูญกล่าว

พล.ต.ธรรมนูญกล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำนักศึกษาออกมาเพื่อพาไปไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนจะมีการเข้าพูดคุย ทำความเข้าใจและปล่อยตัวในช่วงค่ำวันเดียวกัน

"ขอยืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง เรื่องใส่เสื้อสีชมพูนั้นเป็นความบังเอิญเท่านั้นที่ไปเหมือนชายคนดังกล่าว ทั้งนี้ในตอนเช้าวันนั้น ผมเพิ่งไปร่วมกิจกรรมทำความสะอาด ที่บางกอกน้อยร่วมกับทหารเรือ และเขตบางกอกน้อย เพื่อเตรียมพร้อม งานปั่นเพื่อพ่อ แต่ใส่ชุดวอร์ม ซึ่งมีชื่อปักหน้าอกอยู่ ผมจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อยืด"

นี่คือคำชี้แจงจากปากของ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 ชายในเสื้อสีชมพูที่ปรากฎในภาพ