รู้จัก "มาริน่า เบย์ แซนด์" กาสิโนสิงคโปร์ที่อาจมาเยือนไทย

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

แม้การผลักดันให้เปิดกาสิโนในเมืองไทยจะยุติลง แต่ก็เป็นแค่ชั่วคราว เพราะการที่ พล.อ .ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศจะไม่สร้างแน่ในรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็ทิ้งปริศนาอาจส่งไม้ต่อให้รัฐบาลหน้าดำเนินการ โดยมีแนวโน้มให้ทำประชามติถามประชาชนคราวเดียวกับถามเรื่องรัฐธรรมนูญว่า "จะเอากาสิโนหรือไม่"  ยกรูปแบบ "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์" ในสิงคโปร์มาเป็นต้นแบบ กาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย 

เหตุที่กระแสกาสิโนวูบวาบเมื่อเดือนที่ผ่านมา เหตุที่ดูมีน้ำหนักว่ารัฐบาลตั้งท่าจะเอาจริง ไม่ใช่เพราะการรับลูกเห็นด้วยให้เปิดบ่อนถูกกฎหมายของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. หากแต่มีการขุดคุ้ยพบว่า กลุ่มบริษัท มาริน่า เบย์ แซนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนเจ้าของเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ได้เข้าพบกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ผ่านมา  แต่ถูกปฏิเสธกลับว่า ประเทศไทยยังไม่เหมาะสำหรับกาสิโน

กลุ่มทุนดังกล่าว รู้จักในนาม “แซนด์” ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ที่ครบวงจรจาก รัฐเนวดา ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เชี่ยวชาญธุรกิจกาสิโน

ทั้งนี้ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่ม แซนด์ ได้ทำหนังสือเชิญสื่อมวลชนให้ไปดูการจัดการกาสิโนของกลุ่ม "มาริน่า เบย์ แซนด์” รีสอร์ทครบวงจรขนาดใหญ่ใจกลางประเทศสิงคโปร์ พื้นที่กว่า 1.2 แสนตารางเมตร อัดแน่นด้วยห้างสรรพสินค้าแบรนด์หรูระดับโลก โรงแรมระดับห้าดาว ห้องประชุมทันสมัยครบวงจร และใจกลางของมารินาเบย์แซนด์ในพื้นที่ 3% จากทั้งหมด คือ กาสิโน ที่คราคร่ำไปด้วยนักเล่นทั้งจากมาตุภูมิของเขาเอง และต่างชาติที่เข้าไปวัดดวง

ข้อมูลจากนี้ เป็นการถ่ายทอดที่ได้จากการดูงาน ซึ่งเราไม่ได้ชี้ชวนให้ประเทศไทยต้องสร้าง หากแต่เป็นข้อมูลประกอบให้พิจารณาอีกด้าน ท่ามกลางความเห็นที่ยังก่ำกึ่งว่าควรมีหรือไม่  ขณะที่ข้อห่วงใยก็มีไม่น้อยเพราะเกรงจะทำลายสังคมไทย และสร้างปัญหาอาชญากรรมในเมือง

เหยียบเข้ากาสิโนกลุ่มแซนด์

“เราไม่ได้คำนึงถึงกาสิโน แต่เรานึกถึงรีสอร์ทแบบครบวงจร ซึ่งเป็นอะไรที่แตกต่าง และเราควรให้คำจำกัดความมันว่า สถานที่พักผ่อนและศูนย์รวมความบันเทิงและธุรกิจ” คำกล่าวจากปากของลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2548 คือต้นกำเนิดให้ประเทศสิงคโปร์มีกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย และอนุญาตไลเซน์ให้กับกลุ่มแซนด์ และกลุ่มทุนอีกหนึ่งราย แบบเอ็กคลูซีฟเป็นเวลา 10 ปี สำหรับธุรกิจการเล่นพนัน ชนิดที่ไม่ต้องมีคู่แข่งมากวนใจ

กาสิโน ของรีสอร์ทครบวงจร “มาริน่า เบย์ แซนด์” เปิดตลอด 24 ชั่วโมงนับแต่เริ่มแรกคือปี 2553 และปิดชั่วครู่เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเมื่อครั้งที่สิงคโปร์ต้องสูญเสียผู้นำ ลี กวน ยู กาสิโนอยู่ใต้สถาปัตย์ก่อสร้างที่เป็นแลนด์มาร์คของประเทศ คืออาคารสูงตระหง่าน 57 ชั้น แยก 3 อาคาร ชั้นบนสุดเป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่คล้ายเรือยักษ์สวยงาม และชั้นล่างสุดคือกาสิโน ที่แยกอาคารเป็น 4 ชั้น

ชั้นที่ 1 และ 2 มีประตูทางเข้าทั้งหมดรวม 4 ด้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ของกาสิโนในชุดสูทหรูหราคอยต้อนรับ ตรวจสอบการเข้าใช้บริการด้วยพาสต์ปอร์ตสำหรับชาวต่างชาติ และบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับขาวสิงคโปร์ ซึ่งภายในจะมีทั้งโต๊ะที่ไว้ใช้เล่นบาคาร่า แบล็กแจ็ก ตู้สล็อต และอื่นๆ ที่พร้อมจะต้อนรับนักเล่นรวมหลายร้อยโต๊ะพนัน พร้อมด้วยเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่จะบริการผู้เข้าไปเล่นฟรีอย่างไม่อั้น รวมถึงบริเวณชั้น 1 นั้น นักเล่นสามารถสูบบุหรี่ได้อย่างสบายใจ ขณะที่หากหิวอยากรับประทานอาหารขึ้นมา ก็มีร้านหรูที่คัดเลือกเข้ามาให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ชั้นที่ 3  และ 4 จะเป็นส่วนของแขกนักเล่นระดับวีไอพี หรือกลุ่มบุคคลสำคัญที่ทางกาสิโนมาริน่า เบย์ แซนด์ จะส่งเทียบเชิญให้มาเล่น ไม่มีสิทธิ์เดินตรงเข้ามาสมัครขอวีไอพีเอง โดยชนชั้นจะแบ่งเป็น 2 ระดับคือ แพลตตินั่ม และเพียซ่า ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีบัญชีการเล่นอยู่กับกาสิโนไม่ต่ำกว่า 1 แสนเหรียญดอลล่าร์

สำหรับผู้เล่นนั้น หากเป็นชาวสิงคโปร์ หรือชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศสิงคโปร์ จะต้องเสียอัตรา “ค่าเข้า” ที่ 100 เหรียญดอลล่าห์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2500 บาท กับระยะเวลา 24 ชั่วโมง หรือหากจะจ่ายเป็นรายปีก็อยู่ที่ราคา  2000 เหรียญดอลล่าห์ฯ หรือตกราว 50000 บาทต่อ 1 ปี ซึ่งเป็นค่าเข้าเท่านั้น จะไม่รวมถึงค่า “ชิพ” ที่ต้องใช้เงินสดแลกเพื่อเข้าไปเล่น

ส่วนชาวต่างชาติถือพาสปอร์ตและสามารถเดินเข้าไปเล่นได้ “ฟรี” ไม่เสียเงิน สนนอัตราค่าแทงขั้นต่ำที่โต๊ะเล่นอยู่ที่ 5 เหรียญดอลล่าร์ หรือราว 250 บาท ทั้งนี้ กาสิโนแห่งนี้มีการกำหนดอายุผู้เล่นคือต้องไม่ต่ำกว่า 21 ปีบริบูรณ์

อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือ ประชากรของสิงคโปร์ถูกสั่งห้ามให้เล่นการพนันรวมแล้วมีจำนวนราว 2.5 แสนคน ซึ่งมาจากหลากหลายเหตุผล คือ เป็นบุคคลที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาล บุคคลล้มละลาย และบุคคลที่ครอบครัวไม่ประสงค์จะให้เข้าไปภายในกาสิโน รวมถึงบุคคลที่ขอให้รัฐบาลกันตัวเองจากกาสิโน เป็นต้น

รายได้และกฎที่เข้มงวด

จากจำนวนข้างต้นสำหรับตัวเลขผู้งดเข้าภายในกาสิโนนั้น แบ่งเป็นสมัครโดยครอบครัวที่ต้องการกันสมาชิกไม่ให้เข้าไปย่ามกรายภายในกาสิโน มีจำนวน 1,932 คน ขณะที่สมัครใจเอง มีจำนวน 200,785 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2558) และมีจำนวนที่งดเข้าใช้บริการกาสิโนโดยอัตโนมัติ (บุคคลล้มละลาย) 47,780 คน

ขณะเดียวกัน จากสถิติของมาริเน่าเบย์ แซนด์ พบว่านับตั้งแต่เปิดในส่วนกาสิโนขึ้นมาตั้งแต่ปี 2553 และ 3 ปีให้หลังมีคนสิงคโปร์ที่เป็นผู้ใหญ่เพียง 7.7% เท่านั้นที่ไปกาสิโนมากกว่า 1 ครั้ง

ในส่วนของความปลอดภัยในสังคม หรือปัญหาอาชญากรรมนับแต่สิงคโปร์มีบ่อนกาสิโน ตำรวจสิงคโปร์มีรายงานว่า อัตราก่อเหตุอาชญากรรมภายในประเทศมีอัตราส่วนน้อยที่สุดในรอบ 30 ปี คือมีเพียง 549 กรณีเท่านั้นต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะรายได้จากกาสิโนที่มหาศาล รัฐบาลต้องชอบใจอย่างแน่นอน จากตัวเลขของรายได้ สิงคโปร์ นับตั้งแต่เปิดกาสิโนขึ้นมารัฐบาลสิงคโปร์ฟันรายได้จากสัดส่วนกาสิโนของมาริน่า เบย์ แซนด์ไปแล้วเป็นตัวเลขราว 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จำนวนนี้แบ่งมาจากการเก็บภาษีของนักเล่นระดับวีไอพีที่อัตรา 5% และอีก 15% จากผู้เล่นทั่วไป แตกต่างจากฝั่งของประเทศมาเก๊า ที่รัฐบาลจัดเก็บในอัตราที่สูงกว่าคือ 35%

องค์กรภาครัฐเข้ามาดูแลนักเล่น

สำหรับองค์กรภาครัฐของสิงคโปร์ก็เข้ามาดูแล “กลุ่มนักเล่น” เช่นกัน เพื่อให้ระบบมีความสัมพันธ์กับรายได้มากที่สุด โดยประกอบด้วย 3 องค์กรหลัก คือ

1.Casino regulatory authority (องค์กรควบคุมกาสิโน) มีหน้าที่ตรวจตราให้กาสิโนดำเนินงานโดยปราศจากอาชญากรรมและการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อให้การเล่นพนันเป็นไปอย่างซื่อตรง และควบคุมไม่ให้กาสิโนเป็นอันตรายต่อผู้เยาว์ ผู้ที่มีโอกาสเป็นเหยื่อหรือสังคมโดยรวม

2.National council for problem gambling หรือ NCPG (สมาคมด้านปัญหาจากการพนันแห่งชาติ) โดยจะมีสมาชิกรวม 15 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้อง คือ ด้านจิตเวชศาสตร์ จิตวิทยา สังคมสงเคราะห์ การให้คำปรึกษา การฟื้นฟู และศาสนา หน้าที่ของสมาคม คือ ดำเนินการงดเว้น จำกัดบุคลเข้าเล่นกาสิโน การให้ความรู้ต่อประชาชนเกี่ยวกับการเล่นกาสิโน การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการพนัน เป็นต้น

3.National addictions management service หรือ Name (บริการจัดการยาเสพติดการพนันแห่งชาติ) หน้าที่คือช่วยเหลือประชาชนที่ติดการเล่นการพนันอย่างหาทางออกไม่ได้ รวมถึงช่วยเหลือด้านอื่นๆ อาทิ ยาเสพติด แอลกอฮอล์ สำหรับการพนัน จะประเมินและรักษาการติดการพนันโดยใช้ศาสตร์หลายแขนง

การตุกติกต้องไม่มี

คริส บู ประธานเจ้าหน้าบริหารฝ่ายข้อมูลข่าวสาร ของมาริน่า เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ ขยายความว่า มาริน่า เบย์ แซนด์ ส่วนของกาสิโนเจ้าหน้าที่จะดูแลนักเล่นอย่างเข้มงวด รวมถึงการอนุญาตให้กลุ่มบุคคลเข้าถึงภายในส่วนของกาสิโน จะไม่มีการตุกติก หรือแอบปล่อยให้ผู้เล่นที่ถูกงดเว้นเข้าไปอย่างเด็ดขาด แม้แต่ในกรณีที่อาจจะมีการติดสินบนมากมายเท่าใดก็ตาม เพราะทางเราก็ต้องถือกฎที่เข้มงวด ไม่เช่นนั้นแล้ว จะมีปัญหาเรื่องใบอนุญาตจากทางการสิงคโปร์เองได้

“แน่นอนว่าเรามีแผนขยายธุรกิจไปยังหลากหลายตลาด หากมีปัญหาขึ้นมาจะเสียชื่อเรื่องของความเป็นมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเรื่องนี้เรายอมไม่ได้ เพราะมันจะกระทบธุรกิจของเราอีกหลายอย่าง ทั้งที่สิงคโปร์ และที่ลาสเวกัส อีกทั้งระบบที่เราวางไว้ก็ดีครบถ้วน” คริส บู ยืนยัน

รวมถึงปัญหาของการฟอกเงิน ที่บ่อนหลายที่อาจจะเป็นช่องทางที่ดีในการฟอกเงินของเครือข่ายอาชญากรรม แต่สำหรับที่แห่งนี้ คริส บู ยืนยันว่า ไม่มีอย่างแน่นอน ด้วยว่าเจ้าหน้าที่ถูกฝึกถูกสอนมาให้สังเกตสิ่งผิดปกติทุกอย่าง และหากพบว่ามีสิ่งใดไม่ชอบมาพากลแล้ว จะต้องแจ้งมายังส่วนกลางเพื่อเข้าไปแก้ไขทันทีไม่ให้ปัญหาต้องลุกลามออกไป

คริส บู บอกว่า ด้วยว่าบริษัทของเราเป็นบริษัทอเมริกัน กาสิโนของเราในสิงคโปร์ และที่มาเก๊า ซึ่งรัฐบาลออกใบอนุญาตให้ เราก็ต้องปฏิบัติตามกฎในประเทศนั้นๆ กำหนดขึ้นมา หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างเด็ดขาด

“ภายในองค์กรของเราเองก็มีกฎ มีนโยบายศีลธรรมที่สอดรับกับการทำงาน อนุญาตให้พนักงานแจ้งเหตุที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งพนักงานของเราทั่วโลกต้องผ่านการฝึกฝนเรื่องกฎระเบียบ เรื่องจรรยาบรรณ และที่สำคัญคือเรื่องการฟอกเงิน” คริส บู กล่าว และว่า เรามีบันทึกความเคลื่อนไหวด้านการเงินทุกอย่าง ซึ่งการทำงานขององค์กรจะเป็นขั้นเป็นตอน และหากใครไม่เป็นไปตามระเบียบคัดกรองแล้ว เราก็จะไม่อนุญาตให้เข้ากาสิโนอย่างเด็ดขาด

คริส บู

ความเป็นไปได้สำหรับประเทศไทย

เมื่อถามถึงการมาเยือนของเมืองไทยแล้ว ฝ่ายบริหารของมาริน่า เบย์ แซนด์ ยอมรับว่าจริงที่มีการพบปะกับผู้ใหญ่จากรัฐบาลไทย แต่รายละเอียดของธุรกิจที่มีการพูดคุยกันนั้น คงอาจไม่เหมาะสมหากจะลงลึกในรายละเอียด กระนั้น ยอมรับว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่ครบถ้วน สวยงาม และเพรียบพร้อมสำหรับการก่อสร้างหรือดำเนินธุรกิจประเภทรีสอร์ทที่ครบวงจร ครบวงจรจริงๆ เฉกเช่นรูปแบบเดียวกับมาริน่า เบย์ แซนด์ ณ ประเทศสิงคโปร์

“เรามองตลาดที่หลากหลาย ทั้งในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับไทยเองก็มีความเหมาะสม สำหรับการทำธุรกิจรีสอร์ทกาสิโน ที่ครบวงจรเช่นสิงคโปร์แล้ว แน่นอนว่ารายได้เข้าประเทศไทยก็จะมีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขั้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะมีกฎหมายรองรับ และประชาชนคนไทยจะมอบโอกาสให้เราเข้าไปทำธุรกิจด้วยหรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่เพียงรายได้ที่เข้าประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังต่อยอดขยายงานได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกมากมาย ธุรกิจท้องถิ่นก็จะได้รับประโยชน์” คริส บู ทิ้งท้ายเหมือนเชื้อชวน

วัดกันต่อไปว่าโครงการกาสิโน ที่ปูดขึ้นมาในหลายยุคหลายสมัยในยุคการเมืองของไทยระยะหลังนี้ จะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือ สุดท้ายจะถูกต้านและพับไปอย่างไม่เป็นท่าเพราะได้ไม่คุ้มเสีย