posttoday

ปมลึกคลื่นใต้น้ำ เขย่าเก้าอี้ผบ.ตร.

08 เมษายน 2558

เกิดเป็นแรงกระเพื่อมอย่างหนักภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีกระแสออกมาจนหนาหูจากฟากฝั่งการเมืองว่าจะมีการเลื่อยขาเก้าอี้ของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เกิดเป็นแรงกระเพื่อมอย่างหนักภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีกระแสออกมาจนหนาหูจากฟากฝั่งการเมืองว่าจะมีการเลื่อยขาเก้าอี้ของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ออกจากตำแหน่ง อาจกลายเป็นปฏิบัติการฟ้าผ่ารั้วปทุมวันขนานใหญ่อีกคำรบ

หากวิเคราะห์ถึงสาเหตุรอบด้าน เหตุใดจึงต้องจัดการนายใหญ่ของสีกากีเมืองไทยออกจากตำแหน่ง พบว่ามีเพียงกรณีเดียวคือเกิดจากความขัดใจกันระหว่าง พล.ต.อ.สมยศ กับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แม้ว่าบิ๊กตำรวจชื่อหลังจะยศและตำแหน่งต่ำกว่า แต่ด้วยความใกล้ชิดกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงเป็นแรงผลักให้เกิดการเดินหน้าชนกับผู้บังคับบัญชาอย่าง ผบ.ตร.

มูลเหตุเกิดจากการทลายบ่อนการพนันในกรุงเทพมหานครครั้งนั้น เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 35 ของพล.ต.ท.ศรีวราห์ คือ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ถูกคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ปล่อยให้มีการเล่นพนัน พร้อมกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4

แต่เมื่อผลสอบสวนทางวินัยออกมาเสร็จสิ้นพบว่า 2 ผู้บังคับการตำรวจนครบาลข้างต้นไม่มีความผิด พล.ต.ท.ศรีวราห์ จึงได้ชงเรื่องไปยัง พล.ต.อ.สมยศ เพื่อขอตัวนายตำรวจทั้งสองนายกลับยังพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ

แต่แล้วเมื่อคำสั่งออกมาพบว่ามีเพียง พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ เท่านั้นที่ได้กลับมา ขณะที่เพื่อนรักของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ คือ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ กลับถูกคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวกลับ

เพียงเท่านั้นรอยร้าวฉานก็เพิ่มมากขึ้น ผสมโรงกับความบาดหมางก่อนหน้านี้ ที่ฝั่งการเมืองแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ นายตำรวจคนสนิท พล.อ.ประวิตร อีกคน มารักษาการผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แทนที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ที่กระทำผิด แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้เต็มๆ ก้นเสียที เพราะ พล.ต.อ.สมยศ ยังคงวางใจให้เพื่อน นรต.รุ่น 31 ของตัวเองอย่าง “บิ๊กตุ้ย” พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับหน้าที่ดูแลกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางด้วย

เมื่อน้องรักของ พล.อ.ประวิตร อย่าง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ที่ต้องการช่วยพรรคพวกถูกคัดค้าน บวกกับแรงหนุนของตัวเองที่ต้องการดันนายตำรวจคนสนิทให้เป็นใหญ่ แต่ถูก พล.ต.อ.สมยศ ติดเบรก เพียงเท่านี้ก็พอเป็นเหตุให้ต้องการปลด ผบ.ตร.คนนี้ออกจากตำแหน่ง

กอปรกับจะมีการแต่งตั้งนายพลตำรวจนอกฤดูกาลในอีก 1 เดือนข้างหน้า การจัดแถวนายตำรวจตามที่ฝั่งการเมืองต้องการ หากยังมี พล.ต.อ.สมยศ ขวางเอาไว้อยู่แล้ว พล.อ.ประวิตร ยากที่จะดันเด็กสีกากีในสังกัดตัวเองเข้าวงการ ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสียหน้าที่ฝากเด็กไม่ได้ การตัด พล.ต.อ.สมยศ ออกจากสารบบคัดเลือกแต่งตั้ง ดูท่าจะเหมาะที่สุด

เมื่อกระแสออกมาเพราะการงัดข้อกับพี่ใหญ่ ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ ย่อมรู้ชะตากรรมในหน้าที่การงานของตัวเอง ถึงกับเปรยบอกเพื่อนๆ ว่าไม่แน่ เม.ย.นี้ ตัวเองอาจจะต้องลงจากเก้าอี้ ผบ.ตร.

แต่หากจะเอาแค่เหตุผลความขัดแย้งเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายมาบอกกับประชาชนคงจะไม่เหมาะนัก กระนั้นเหตุผลอีกข้อที่น่าจะเชือด พล.ต.อ.สมยศ ได้คือการทำงานที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมมากนัก จะมีเพียงคดีใหญ่ที่จับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เพียงคดีเดียว ขณะที่เรื่องของการปฏิรูปตำรวจที่ “บิ๊กอ๊อด” ชูธงว่าจะต้องเห็นในยุคของตัวเอง ถึงชั่วโมงนี้ยังจับต้องไม่ได้

เหตุผลนี้จึงน่าจะคลายความสงสัยของประชาชนหากจะปลด ผบ.ตร.คนที่ 10 ออกไป

กระนั้นเมื่อเอาเข้าจริง สอดสายตาไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แคนดิเดตที่เหมาะสมเวลานี้ก็ยังไม่มีคนมากบารมีพอเทียบเท่า พล.ต.อ.สมยศ ที่จะก้าวมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เพราะเมื่อมองดูรอง ผบ.ตร.แต่ละท่านแล้วกลับยังไม่เห็นวี่แววผู้นำที่จะออกมาคุมสีกากีเมืองไทยได้เลย

เพราะเอาเข้าจริง อย่าง “บิ๊กเอก” พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ชื่อนี้ถูกเงียบหายไปหลังจากมีการปฏิวัติ แม้ก่อนหน้าจะได้คุมคดีใหญ่ๆ แต่ผลงานยังไม่ปรากฏ หรือแม้แต่ชื่อของ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. อีกคนที่ได้กำกับคดีความมั่นคง แต่ด้วยบารมียังไม่มากเพียงพอ เพราะเพิ่งติดยศพลตำรวจเอกไม่นานนัก การทำงานจึงอาจเกิดอุปสรรคได้

องค์ประกอบที่ว่าอาจจะทำให้การเลื่อยขาเก้าอี้ของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ฝั่งการเมืองและคู่ขัดแย้งต้องการอาจจะมีปัญหาได้ เพราะไม่มีใครจะเหมาะสมจริงๆ บวกกับการปลด ผบ.ตร.ที่ถือว่าเป็นของใหญ่นั้น อาจจะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีปัญหาเอาได้ ด้วยว่างานมั่นคงต่างๆ ทุกอย่างก็อยู่ในมือของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ได้รับมอบหมายให้มาทำงาน

อีกอย่างอย่าลืมว่า แม้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ จะเข้าถึง พล.อ.ประวิตร ได้อย่างสนิทใจ แต่ พล.ต.อ.สมยศ ได้ชื่อว่าน้อง พล.อ.ประวิตร เช่นกัน หนำซ้ำยังสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างดี การสอยลงอาจเป็นเรื่องยาก เพราะกำแพงที่ให้ “บิ๊กอ๊อด” พิงหลังอยู่นั้น ก็แน่นหนาพอดู

ยิ่งคำตอกย้ำชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2558 “ยังไม่มีความคิดปลด ผบ.ตร.เพราะมีผลงาน ทำงานได้” ดูจะทำให้แรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนเก้าอี้ ผบ.ตร.สงบลงชั่วขณะ

กระนั้น หากยื้อเวลารออีก 6 เดือน เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ ลงจากตำแหน่งด้วยการเกษียณ การจัดทัพสีกากีด้วยรูปแบบที่ไร้รอยต่อในชั่วยามนั้น อาจจะง่ายกว่าปลด ผบ.ตร.ในเร็ววันนี้