เปิดเส้นทางรุ่ง "หนุ่ย" ผู้เป็นมากกว่าบอดี้การ์ด

โดย....ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ภาพของ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย นายตำรวจหนุ่มมาดดีที่คอยติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกฉายชัดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ขบวนรถของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกทหาร-ตำรวจ ที่ตั้งด่านตรวจที่ จังหวัดเชียงใหม่ และก่อให้เกิดคำถามหลายประการจากสังคมที่ถามว่า การทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.วทัญญู ที่แท้จริงคืออะไร ทำไมจึงไปปรากฏตัวทำหน้าที่คอยติดตามอารักขาอดีตนายกรัฐมนตรี และ วันนี้ พ.ต.อ.วทัญญู รับเงินเดือนจากทางใดบ้าง

นอกจากนี้ยังลงลึกไปถึงการย้อนเกล็ด ขุดดูประวัติเส้นทางการเติบโตในสายงาน “ตำรวจ” อีกด้วย เพราะมีอายุยังน้อย แต่ทำไมจึงประสบความสำเร็จเกินเพื่อนรุ่นเดียวกัน

จากนั้นการตั้งคำถามของสังคมจึงค่อยๆถูกขยายความขึ้นและคำตอบเริ่มชัดเจนขึ้น โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.)   ได้ออกมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการอนุมัติให้นายตำรวจ ไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน แต่ยืนยันว่า ในสมัยที่ พล.ต.อ.สมยศ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ยังไม่เคยมีคำสั่งอนุมัติให้ นายตำรวจคนใด ไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรี จึงเป็นคำสั่งอนุมัติก่อน  พล.ต.อ.สมยศ เป็น ผบ.ตร.

ดังนั้น จึงได้มีการตรวจสอบเรื่องของระเบียบ และ ความเหมาะสม โดยหลังจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เตรียมพิจารณากำหนดบรรทัดฐานความเหมาะสม ให้เป็นในลักษณะเดียวกัน ในการอนุมัติคำสั่งให้ ข้าราชการตำรวจ ติดตามนักการเมือง

ทั้งนี้ เหตุที่ไปช่วยราชการ มีเหตุผลเพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้บังคับบัญชา อย่างกรณี ของ พ.ต.อ.วทัญญู นั้น มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายเวรของ รอง ผบ.ตร. การพิจารณาให้ไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูว่า ตำแหน่งนายเวรนั้น มีหน้าที่อย่างไร

และล่าสุดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล กำลังตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับในการขอตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทุกคน หากพบว่าไปโดยไม่มีคำสั่งหรือเกินกำหนดเวลา รวมทั้งทำผิดระเบียบที่ตกลงไว้ เช่น ไปเดินตามอดีตนายกฯ หรือนักการเมืองเพื่อช่วยหาเสียงถือว่าไม่ถูกต้อง ก็จะเรียกตัวกลับมายังต้นสังกัดทันที

ผนวกกับคณะทำงานของสตช.ได้แต่งตั้งขึ้นทั้ง 6 ชุด เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นจากตำรวจและภาคส่วนต่างๆ เพื่อสรุปเป็นข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งแน่นอนว่า ประเด็นการปฎิรูปครั้งนี้จะต้องมีกรณีของ พ.ต.อ.วทัญญู เป็นตัวตั้งด้วย เพาะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ โครงสร้างตำรวจ และอำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐบาล เกี่ยวพันกับการเมืองมากเกินไป

โฟกัสไปที่วิถีทางบนถนนวงการสีกากี ของ พ.ต.อ.วทัญญู เริ่มจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 49 บรรจุครั้งแรกในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ต่อมาได้มาอยู่ในสำนักงาน พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาร่วมทีมอารักขาบุคคลสำคัญ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีพล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รองผบก.ส.3 เป็นหัวหน้าทีม ซึ่ง พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ มีความสัมพันธ์อันดีกับ พ.ต.อ.วทัญญู ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน

ทั้งนี้เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกทำรัฐประหารยึดอำนาจ พ.ต.อ.วทัญญู ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ในขณะนั้น เซ็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 91/2551 ลงวันที่ 6 ก.พ.2551 ให้ไปเป็น สว.สป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา แต่ในเวลาไม่นานนักก็มีคำสั่งจากพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ขณะนั้น ให้มาช่วยราชการสำนักงาน รองผบ.ตร.

เมื่อพรรคพลังประชาชนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู จึงได้กลับเข้ามานั่งในตำแหน่ง สว.ฝขว.10 บก.ส.1 (บก.น.7) พร้อมทั้งทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัย "บ้านจันทร์ส่องหล้า" และดูแลรักษาความปลอดภัยของคนในตระกูลชินวัตร ถัดมาจึงได้โยกย้ายอีกครั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง สว.(ร้อยเอ็ด) กก.2 บก.ส.1

พ.ศ.2555 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จึงได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งนอกวาระการแต่งตั้งประจำปีให้ พ.ต.อ.วทัญญู อีกครั้งให้ขึ้นเป็น รองผกก.ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.  แต่ในขณะนั้นการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.วทัญญ ยังคงทำหน้าที่เป็นทีมอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้น

เรียกได้ว่าเป็นเงาตามตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปทุกที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งขณะที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนั้น  ยังทำหน้าที่เป็นช่างภาพส่วนตัวระดับเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่ออัพเดทสถานการณ์การทำงานของอดีตนายกฯขึ้นส่งโลกโซเซียลมีเดียในทุกแขนง

อีกทั้งยังทำการร่วมบริหารจัดการ ประสานสื่อมวลชน ทั้งเรื่องสถานที่การให้สัมภาษณ์ ที่ยืน มุมกล้อง รวมถึงการควบคุมการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ เมื่อเห็นว่าการตอบคำถามของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เริ่มยาว และจะส่งผลเสีย ก็จะรีบตัดบท เคลียร์ทางให้อดีตนายกฯ เดินออกจากวงสัมภาษณ์สื่อมวลชนทันที

จะเห็นว่าการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.วทัญญู จึงไม่ต่างจากเลขาฯใกล้ตัว ที่รองรับทุกหน้าที่ เนื่องจากมีประสบการณ์และเป็นที่ไว้วางใจ รู้หน้างาน มาตั้งแต่สมัยทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว

ทั้งนี้เวลาการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมีเนื้องานทางด้านสื่อมาก จึงทำให้การประสานงานระหว่าง พ.ต.อ.วทัญญู จึงมีความใกล้ชิดกับสื่อมวลชนพอสมควร จึงได้รับเรียกชื่อเล่นที่คุ้นปาก ว่า “สารวัตรหนุ่ย” “พี่หนุ่ย” หรือ "สองสี่" ซึ่งเป็นรหัสของหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยนั่นเอง

หากดูหน้าที่การทำงานของ พ.ต.อ.วทัญญ แล้วมีอยู่มาก จึงไม่แปลกที่ หนึ่งในรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร ผกก.รุ่น 92 ที่วิทยาลัยการตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต และเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในขณะนั้น ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู ให้ขึ้นเป็นระดับผู้กำกับการ ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) ผบ.ตร. ซึ่งการเข้าอบรมและการขยับตำแหน่ง ครั้งนี้ได้ถูกตั้งคำถามจากสื่อมวลชน ทั้งในแวดวงสีกากี และ แวดวงการเมือง อย่างมาก และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอีกด้วย เพราะห้วงเวลาและขั้นตอนที่ถูกรวบรัดจนเกิดความไม่เหมาะสม

อนึ่งปัจจุบัน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ขออนุมัติ ข้าราชการตำรวจ ไปช่วยราชการ ประกอบด้วย 1. นายชวน หลีกภัย ขอตัว ด.ต.ไพบูลย์ ดาเลิศ ผบ.หมู่กก.2 บก.ส.3 ไปช่วยราชการตั้งแต่เดือน มิถุนายน ปี 2556  2. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขอตัว จ.ส.ต.ณรงค์ศักดิ์ สุดเพชร ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปทส.บช.ก. และ ส.ต.ต.อภิวิชญ์ จันฑะเฆ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ตั้งแต่เดือน กันยายน 2557  3. นายบรรหาร ศิลปอาชา ขอตัว ด.ต.นิมิต เอี่ยมลออ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ส.1 ส.ต.ต.วัชรินทร์ วงศ์เล็ก ผบ.หมู่ กก.ปพ. บก.ป.บช.ก. ช่วยราชการตั้งแต่เดือน มีนาคมปี 2557 และ ส.ต.อ.อนันต์ ศรีวิเชียร ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป.บช.ก. ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556  4. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอตัว พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร (สบ 4) รอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.) โดยขอตั้งแต่ วันที่ 25 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา