posttoday

เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ "ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ"

18 ธันวาคม 2557

งานบริการ มันต้องใจรัก ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ จะคิดว่าออกมาแค่หาเงิน ฟึดๆ ฟัดๆ ไม่ได้

โดย… นรินทร์ ใจหวัง 

“แท็กซี่ไทย” ดูจะเป็นหนึ่งในรถขนส่งสาธาณะที่ผู้โดยสารหลายคนขยาด ด้วยพฤติกรรมหลายๆประการของคนขับทั้งปฏิเสธผู้โดยสาร รับแต่ชาวต่างชาติ โกงมิเตอร์ พูดจาไม่สุภาพ ขับรถน่าหวาดเสียว ฯลฯ ทว่าคนขับแท็กซี่อีกจำนวนไม่น้อยก็ยังคงให้บริการด้วยใจ และไม่ย่อท้อแม้จะมีข้อครหาจากสังคมอยู่บ่อยครั้ง

เช่นเดียวกับ กิตติชัย อินแสงแวง หรือ เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ โชเฟอร์แท็กซี่ร่างเล็กวัย 46 ปี ชาวจังหวัดนครพนม กับรถแท็กซี่คู่ใจสีเหลืองสด แม้จะขับแท็กซี่จริงจังมาได้แค่3ปี แต่ชื่อเสียงในการให้บริการกลับโด่งดังทั้งในโลกออนไลน์และในสื่อต่างๆ  เพราะนอกจากจะมีโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือการให้บริการด้วยความซื่อสัตย์กับลูกค้า บวกกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงใจ

เล็ก แท็กซี่ เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอะไรจึงตัดสินใจมาขับแท็กซี่

เริ่มแรกผมก็ทำงานอื่นมาก่อน ออกจากบ้านตั้งแต่ พ.ศ.2525 เร่ร่อน พเนจรไปทั่ว  เหนือ ใต้ ออก ตก ผมพูดกับตัวเองเอาไว้ถ้าไม่ได้ดีจะไม่กลับบ้าน จนเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ปี2533 ขับรถบรรทุกส่งของมาเรื่อย จุดหักเหที่ผมมาขับแท็กซี่จริงๆ ก็ตอนที่ขับรถบรรทุกอยู่ดีๆ นี่แหละครับ แต่ ผ้าเบรกรถที่ผมขับมันหมด ฝ่ายบุคคลก็บอกว่าให้ขับต่อได้มั้ย ซึ่งผมมองว่าเบรกนี่มันเป็นเรื่องสำคัญของการขับรถเลยนะครับ ผมเลยบอกว่า งั้นถ้าไม่ซ่อมผมจะขอลาพักร้อนนะ เขาเลยเอาไปซ่อม สรุปค่าซ่อมทั้งหมด  5,000 บาท แต่บอกให้ผมออกคนละครึ่งกับบริษัท  ผมก็คิดในใจเลยว่า โอเค ถ้าคุณคิดแบบนี้กับผม ผมก็ไม่อยู่กับคุณเหมือนกัน ผมก็เดินไปลาออกเลยครับ

อีก 3 วันต่อมา บริษัทก็โทรมาตาม ผมถามทำไมหรอ เขาก็บอกว่า พี่เล็กซื่อสัตย์ เพราะเขาไปเช็คประวัติดูแล้ว พบว่าเล็กประหยัดเงินบริษัทไปตั้ง 2แสนกว่าบาท  ผมก็ถามกลับไปว่าเพิ่งรู้หรอครับว่าผมซื่อสัตย์กับคุณ คือเข้าใจนะคนก่อนๆ เขากินทั้งค่าน้ำมัน ทั้งค่าทางด่วน  แต่มันมาวัดกันไม่ได้  สุดท้ายเขามาง้อผมถึงสามรอบ รอบสุดท้ายผมบอกไปเลยว่า ถึงให้ 2ห มื่นผมก็ไม่ไป คนจนก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะครับ

และด้วยวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของผม ผมไปขับแท็กซี่เป็นงานเสริมอยู่แล้ว  ผมรู้สึกประทับใจที่ได้ แชร์ปัญหาของผู้โดยสารแต่ละคน ที่ไปเจอแท็กซี่ที่บริการไม่ดีๆ มา ผมถึงรู้ตัวเองว่าผมรักงานบริการ  เลยตัดสินใจขับแท็กซี่จริงจังตั้งแต่ปี 2555 เรื่อยมาถึงตอนนี้ 3ปีแล้วครับ

คิดว่าอะไรที่เป็นจุดขายของเรา

เพราะว่าผมชอบงานบริการครับ แต่ละครั้งที่ลูกค้าขึ้นรถมา ผมบริการเต็มที่ เขาคงเห็นว่ารถที่เคยนั่ง มันผิดกันคนละคน

อันดับแรก ผมจะเรียกขึ้นรถเลย ไม่ต้องกลัวไม่ไป ตามด้วยกล่าวสวัสดี แนะนำชื่อตัวเอง แล้วก็ถามคุณลูกค้าว่าไปไหนครับ  ผมพาไปหมด สอบถามเส้นทางจากเขาก่อนไปในเส้นทางที่เขาอยากไป  เราก็เริ่มแนะนำเขา โดยการถามว่าคุณขึ้นแท็กซี่บ่อยมั้ยครับ ทุกครั้งขึ้นแท็กซี่ ให้คุณมองว่าคนขับชื่ออะไร ป้ายทะเบียนอะไร มองซ้าย ขวา เผื่อลืมสิ่งของ หรือเจอเหตุการณ์ปล้นจี้ ข่มขืน  เพราะแท็กซี่ มันมีข่าวเสียหายเยอะ บางครั้งลืมเงินเป็นแสนๆ ไว้ แต่กลับจำแท็กซี่ไม่ได้ เสร็จแล้วก็บอกโปรโมชั่นของแท็กซี่คันนี้ครับ

ทำไมต้องทำโปรโมชั่น 

คือผมก็ขับๆรถไป  เราก็คิดว่า เราทำอาชีพนี้นะ น่าจะมีของแถมให้กับลูกค้าบ้างนะ เริ่มด้วยนามบัตรก่อนเลย ที่ให้นามบัตรเพราะตั้งใจว่า ถ้าลูกค้าลืมของไว้ในรถ เขาจะได้โทรหาเราได้ ซึ่งผู้โดยสารเขาก็เป็นคนแนะนำผมเอง เพราะเขาบอกว่าเขาประทับใจผม  ครั้งนั้นผมรับผู้โดยสารผู้หญิงไทย กับผู้ชายชาวสิงคโปร์ เขาขึ้นจากเซ็นทรัลเวิลด์  มาประตูน้ำ ถ้าเป็นคนไทยก็คง เดินมาก็ได้ เพราะมันใกล้มาก และถนนเส้นนั้นมันรถมันก็ติดมากด้วย แต่เมื่อเขาขึ้นปุ๊บผมกดมิเตอร์ ลงปุ๊บ ค่ามิเตอร์แค่ 35 บาท เขาก็ยื่นให้ผมมาร้อยหนึ่ง บอกประทับใจพี่ไม่ต้องทอนค่ะพี่  แล้วเขาก็แนะนำว่า เราน่าจะทำนามบัตรนะ ขนาดเขาเป็นคนไทยยังประทับใจเลย  เพราะเรียกแท็กซี่ตั้งกี่คันแล้ว ไม่มีใครไปเลย โดยเฉพาะคนต่างชาติจะรักพี่มากนะ  แล้วก็เจอลูกค้าอีกคนที่2 เขาก็แนะนำแบบนี้อีก 

เผอิญเราไปนั่งกินข้าว แล้วเจอร้านทำนามบัตร พี่ผมทำนามบัตร ลงชื่อ เล็กแท็กซี่ ลงเบอร์โทร  ลองทำไป 100 ใบ ผู้โดยสารเห็น เขาก็ถาม  ผมบอกว่านามบัตรครับ เผื่อผู้โดยสารลืมของ แล้วโทรมาหาผม  บางคนก็เลยถามต่อว่าเรียกมารับได้มั้ย สรุปว่าแค่ 3 วัน หมด ก็ทำอีกเป็นร้อยๆ เรื่อยมา

และเริ่มทำโปรโมชั่น ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2555 ด้วยการให้ผู้โดยสารโชว์นามบัตรของผม จะได้ส่วนลดทันที20 บาท โปรโมชั่นครั้งที่ 2  คือนักศึกษาในเครื่องแบบลดทันที20 บาท

ต่อมาก็มีบริการค่าบริการครบ 100บาท แถมเครื่องดื่ม1ขวด  ผมคิดว่าเงินที่ซื้อของ ก็เป็นเงินของพวกคุณทั้งนั้น เงินค่าโดยสารที่คุณให้ผมมา รายได้ผมมาจากงานบริการคุณไงครับ

ส่วนคนที่เอานามบัตรไปก็โทรกลับมา ช่วงแรกผมวิ่งเป็นกะ ผมนอนอยู่ห้อง เขาก็บอกมารับหนูหน่อย อยู่เมืองทองธานี เราก็บอกผมวิ่งเป็นกะ เอาไว้โอกาสหน้า เผื่อผมได้วิ่ง 24 ชั่วโมงจะไปรับ  แล้วก็มีโทรมาเรื่อยๆ มารับหน่อย มันได้จังหวะที่คู่กะของผมไม่ขับต่อ  ผมก็เลยคุยกับเจ้าของรถว่า ผมขอควงกะ ให้รถอยู่กับผมตลอดได้มั้ย ผมจะเอาไปบริการลูกค้า เพราะตอนนี้ลูกค้าเยอะ แล้วแต่เจ้าของรถจะคิดเงิน แต่ก่อนคิดกะละ 620 เขาก็คิดทั้งวันแค่ 1,100 ตอนนี้ลดเหลือ800 ตามสภาพของรถ

ตอนนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง

ตอนนี้โปรโมชั่น ทุก99 บาท แถมคูปอง 1ใบ สะสมครบ 15 ใบได้ร่ม  ,20 ใบได้ เสื้อยืดเล็กแท็กซี่ มิเตอร์ ,60 ใบได้พัดลมตั้งโต๊ะ 16 นิ้ว ,80 ใบ ได้กระเป๋าเดินทาง  เพิ่งเริ่ม 5 สิงหาคมนี่เองครับ แต่เสื้อกับร่มมีคนได้ไปบ่อยแล้ว ก็ลูกค้าขาจรนี่แหละ อีก 2-3 วัน ก็เจอเขาอีก ไม่ก็โทรมาแล้ว ให้เราไปโน่นนี่  เพราะเขาไว้ใจเรา ผมก็ง่ายๆ ครับ ตามสบายทุกอย่าง แค่ยกเว้น สูบบุหรี่ หมาแมว ที่กลิ่นสาบ แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงไม่มีกลิ่นก็รับหมด  จะกินทุเรียน ปลาหมึก หมูปิ้ง ก็ตามสบาย นอนก็มีหมอนให้ (ยิ้มภูมิใจ)

เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ "ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ"

เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ ทำไมต้องแต่งตัวเท่ขนาดนี้ ได้แนวคิดมาจากไหน

ผมว่าเราเป็นรถรับจ้างก็ต้องมีชุดประจำตัว นักเรียนก็ยังต้องแต่งชุดนักเรียน ทำงานยังต้องแต่งชุดที่บริษัทกำหนด ลากรองเท้าแตะไปโรงงาน ยังโดนไล่กลับบ้าน แต่แท็กซี่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แขกไปใครมาเห็นเป็น อันดับแรก เรื่องการแต่งกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

ทุกวันนี้ผมว่าเรื่องเครื่องแต่งกายโชเฟอร์แท็กซี่ยังไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร  เพราะเขาก็จับแค่ตอนแรกๆ ที่ประกาศ หรือผู้โดยสารร้องเรียนเท่านั้น  สักพักก็เงียบ  ส่วนยูนิฟอร์มของผม  แต่ก่อนก็เป็นเนคไทธรรมดา แต่พอมีม็อบ เห็นลายธงชาติสวยดี  เลยซื้อมาส่งให้เมียเพื่อนเย็บ ไม่ใช่เพราะผมฝักใฝ่การเมืองฝั่งไหน แต่เพราะลายธงชาติมันเป็นของทุกคน คนก็มองนะครับ หาว่าผมเป็นตัวประหลาด ร้องเท้าสีชมพูดู ติ๊งต๊องบ้าง แต่ผมไม่สนใจ  บางคนก็มาชมว่าพี่เท่จัง บางคนตบมือให้เลยก็มี

เจ้าของรถเขาว่าอย่างไร พี่เล็กทำให้รถเขามีชื่อเสียงแบบนี้

เคยมีรายการทีวี ไปสัมภาษณ์ผม ถ่ายทำกันที่อู่ เจ้าของอู่เขาก็ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกคนน่าจะเป็นเหมือนเล็กนะ เพราะสบายใจ ไว้ใจได้ เล็กซื่อสัตย์ เพราะเราจ่ายค่าเช่าตรงเวลา ไม่ต้องให้เขาทวงเราเลย ถึงเวลาจ่ายเลย ไม่ต้องโทรตาม นอกจากจะตามให้เอารถมาเช็คเครื่องหน่อยแค่นั้น

หลังจากขับควงกะ เคยปฏิเสธผู้โดยสารบ้างรึเปล่า

มีครั้งหนึ่ง ผมง่วงมาก จังหวะที่ผมจะไปรับผู้โดยสารที่จองไว้ ผมก็จอดรับผู้โดยสารออกจากซอยนะครับ แต่เอาส่งให้แท็กซี่คันอื่น คือไม่ต้องจ่ายเงิน ผมก็ยื่นนามบัตรให้ แล้วก็บอกว่าค่อยใช้บริการผมนะครับ

ส่วนใหญ่วิ่งแถวไหนเป็นหลัก

ผมวิ่งทุกที่ แล้วแต่ผู้โดยสาร ผมไปได้หมด

แต่ถ้าเป็นเส้นที่รถติดมากๆ แท็กซี่ส่วนใหญ่เขาไม่ไป แล้วเล็กทำอย่างไร

ติดก็ติด  เราต้องเข้าใจสภาพจราจรด้วย ถ้ามีผู้โดยสาร ผมจะหันไปถามว่า คุณไหวมั้ยครับ คุณรีบมั้ย ถ้าไม่ไหวลงก่อนก็ได้นะครับ ผมไม่ว่า ตามสบายของคุณ  เพราะปกติ แท็กซี่ถ้าไปเจอเส้นรถติดแล้วผู้โดยสารลงก่อน เขาจะหงุดหงิด แต่แค่เราถามเท่านี้ผู้โดยสารก็ประทับใจมากแล้ว

แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีโชเฟอร์ที่อารมณ์เสียกับเรื่องนี้มากๆ เพราะมันจะไม่คุ้มกับค่าก๊าซ บางคนถึงกับไล่ลง บางคนด่า อย่างวันก่อนผู้โดยสารที่เคยใช้บริการกับผม โทรมาเล่าให้ฟังว่าเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ จะร้องเรียนแท็กซี่ได้ที่เบอร์อะไรบ้าง  ผมเลยบอก 1584 ร้องเรียนไปเลยครับ (หัวเราะ) 

เคยเจอผู้โดยสารเรียกขณะกำลังจะออกกะไหม แล้วทำอย่างไร

เราต้องดูเวลาของเรา ตอนที่ผมขับเป็นกะ อู่รถของผมส่งรถบ่าย 3 โมง พอบ่าย 2 โมงปุ๊บ เราต้องปิดมิเตอร์แล้ว ยอมเสียไปเลย เพราะต้องไปล้างรถ เติมแก๊ส  คู่กะของคุณก็จะมารอแล้วเหมือนกัน เราก็ต้องแชร์กัน คุยกัน กับคู่กะ ตีไปเลย ชั่วโมงหนึ่งที่เราต้องยอมเสีย

แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนตี2ครึ่ง ผมปิดมิเตอร์ เพื่อไปเติมแก๊ส เตรียมเข้าอู่ แต่ไฟข้างบนกลับลืมปิด ก็มีผู้โดยสารผู้ชายท่านหนึ่ง โบกรถ ผมก็จอดรับ ผู้โดยสารบอกจะไปลำลูกกา แต่อู่ผมอยู่แถวกัลปพฤกษ์  ผมเลยบอกเขาว่า น้องครับผมจะออกกะนะ ผมมาเติมก๊าซ  แต่ก็สงสัยเลยถามเขาว่า ผมปิดมิเตอร์นะ ทำไมยังเรียกผมล่ะ เขาก็บอกว่า  ไม่รู้พี่ผมเรียก10 กว่าคันแล้ว เขาไม่ไปกัน  แล้วผมเห็นไฟข้างบน เรายังไม่ปิดเลยลองโบกดู

เราก็ดีใจนะ ขนาดผมปิดมิเตอร์เขายังเรียกผม เราก็เลยแสดงความรับผิดชอบ โดยการขอเติมแก๊สก่อน แล้วก็ไป ส่งเขา เสร็จเราก็ตีรถกลับ แต่มันเกินเวลาแน่นอน  ผมก็เอาเงินมาให้คู่กะเราชั่วโมงละ 100 วันนั้น ให้ 150 บาท เพราะกลับมาถึงตี4  คู่กะมารอเราแล้ว เราต้องใจเขาใจเราด้วย 

เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ "ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ"

ผลตอบรับเป็นอย่างไร ขับแท็กซี่เงินพอใช้หรือเปล่า

ตั้งแต่ทำโปรโมชั่นออกมา เงินผมไม่เคยนับเลย  ผมนับแค่ตอนลูกค้าให้เงิน เพราะจะได้ทอนเขาถูก ล้วงกระเป๋ามามีเท่าไหร่ก็จบ ขอให้ได้ค่ารถก็พอสำหรับผมนะ  แต่ผมมาสนใจ งานบริการก่อนอันดับแรก เงินที่เหลือวันจันทร์ถึงศุกร์ ก่อนเข้าบ้านผมจะใส่ตู้เอทีเอ็มไว้  ใส่แบบไม่สน  อีกอย่างเราก็ไม่ต้องการใส่กระเป๋าไว้เยอะๆ เพราะมีข่าวผู้โดยสารจี้ปล้นแท็กซี่ ผมก็เคยโดนมา 2-3 รอบแล้ว แต่มันไม่ได้เงิน เพราะคนอื่นมาเห็นก่อน

ใช้หลักอะไรยึดเหนี่ยวกับการทำงานบริการแบบนี้

ง่ายๆ เลยครับ งานบริการ มันต้องใจรัก ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ ขับรถบนถนน เราต้องใจเย็นอยู่แล้ว  เราต้องดูงานเราว่าใจรักหรือป่าว ถ้ารักมันจะทุ่มเทด้วยตัวมันเอง  สบายๆ  จะคิดว่าออกมาแค่หาเงิน ฟึดๆ ฟัดๆ ไม่ได้

รักน้อยๆ รักนานๆ มันทำให้เรามีลูกค้าประจำ บางรายเหมาไปรับจากอุทัยธานีมาส่งสนามบิน บางรายเหมาคนเดียวทั้งวัน  ผมคิดกิโลเมตรละ10 บาท แต่ลูกค้าต่อรองก็ลดให้เขาอีก ไป-กลับชะอำแค่ 2,400 บาท ถ้าเป็นคนในอู่ ไม่ได้หรอกครับ อย่างน้อยต้อง 3,000 บาทนะ ไปชะอำ แต่เราได้ เพราะเทคแคร์ลูกค้า จะได้ไม่ร่วมงานกันแค่ครั้งเดียวแล้วลืมเรา หรืออย่างน้อยไม่ปฏิเสธผู้โดยสารก็ดีใจแล้ว

คิดอย่างไรกับปัญหาแท็กซี่ไทย 

ผมคิดไม่เหมือนคนอื่นนะ ผมว่ายากกับการแก้ปัญหา เรื่องแรกๆเลย อยู่ที่กรมขนส่งทางบก กับเจ้าของอู่  คุณออกกฎหมายมาสิครับ เหมือนเราสมัครงาน เรายังต้องกรอกรายละเอียด คัดบุคลากรกันสักหน่อย  ต้องคัดคนที่ใจ อยากบริการจริงๆ  บ้านเมืองจะเจริญก็เพราะรถสาธารณะ ดังนั้นไม่ว่ารถเมล์ รถตู้ วินมอเตอร์ไซต์ มันขึ้นอยู่กับคนขับรถ

แต่ทุกวันนี้ เขาแค่มาบอกพี่ครับผมมาขับแท็กซี่  มีเงินค้ำประกัน 3,000 บาท ก็ได้รถไปขับเลย ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็นโจร เป็นขี้คุกมารึเปล่า  กูไม่สนใจกูได้ตังค์อย่างเดียว  เพราะมันเป็นรถให้เช่า ปัญหามันเลยเกลื่อน ทั้งแท็กซี่ปล้นจี้ ฆ่าข่มขืน

คิดอย่างไรกับปัญหาแท็กซี่จอดที่ป้ายรถเมล์

บางทีมันก็เพราะผู้โดยสารนะครับ เพราะแท็กซี่รู้ว่าผู้โดยสารต้องมาขึ้นที่ป้ายรถเมล์ นี่มันสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ จราจรติดขัด เพราะรถเมล์เข้าป้ายไม่ได้  จึงน่าจะมีป้ายขึ้นแท็กซี่ต่างหาก ไกลออกจากป้ายรถเมล์สัก50 เมตรก็ได้

สถานีบีทีเอสก็เหมือนกัน คนลงปุ๊บ ก็ต้องเรียกแท็กซี่ เพราะไม่มีป้ายรถเมล์ แต่ตำรวจไปเขียนว่า ห้ามเป็นจุดรับส่งผู้โดยสาร ผมถามว่า แล้วผู้โดยสารจะขึ้นรถไปอย่างไร เราโดนจับไปตามๆ กัน รถเมล์ยังมีป้าย  ถ้าจะจับก็เฉพาะคนจอดแช่ จับไปเหอะ เพราะการรับส่งคน ใช้เวลาอย่างน้อยไม่เกิน 30 วินาทีครับ

แล้วปัญหาไม่กดมิเตอร์ รับแต่ผู้โดยสารต่างชาติ

อันนี้เป็นเรื่องของคนขับล้วนๆ เพราะเขาคิดแค่ว่าออกมาหาเงินอย่างเดียวครับ ผมกดมิเตอร์ตลอดไกลใกล้ สุดท้ายได้เงินมาเยอะกว่าโนมิเตอร์ เพราะเขาให้ทิป เขาประทับใจ เพราะอะไร เพราะเราเป็นแท็กซี่มิเตอร์ไงครับ ถ้าคุณจะไม่กด ก็เอาป้ายลงเสีย คนอยากนั่งแบบเหมาเขาจะเรียกคุณเอง จะได้เป็นเหมือนตุ๊กตุ๊ก ใช้ต่อรองราคาเอา  แต่ถ้าเราคิดจะทำงานบริการแล้ว ต้องไม่มีลิมิต ไปไหนก็ไป ดีกว่าวิ่งดูเวลา หรือบ่นว่าส่งรถไม่ทัน แต่คุณไปรอจนเย็น มันเป็นไปไม่ได้ 

หากมีแท็กซี่ที่มีความคิดดีๆ เหมือน เล็กแท็กซี่ มิเตอร์ คันนี้ ปัญหาต่างๆ ที่ถูกติติงก็คงหมดไปได้เยอะทีเดียว

เล็ก แท็กซี่มิเตอร์ "ผมรักงานบริการ ผมจึงขับรถด้วยใจ"