posttoday

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"

02 กันยายน 2557

พ.ท.ชัยภัทร หริกุล ผู้บัญชาการกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หนึ่งในแม่งานสำคัญของ"มหกรรมคืนความสุข"

โดย...พรเทพ เฮง

นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเพื่อทำหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็กำลังทำหน้าที่ในช่วงเริ่มต้น รวมถึงการรอสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งกำลังเข้าสู่กระบวนการสรรหาอย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารประเทศโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลไกหนึ่งของทหารที่ทำงานอย่างเข้าถึงประชาชนแบบเคาะประตูบ้าน นำความบันเทิงและเครื่องอุปโภคบริโภคราคาประหยัดไปจัดงาน “มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน” อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ทั่วไทย

โดยเฉพาะครั้งใหญ่สุดที่ท้องสนามหลวง “มหกรรมคืนความสุขให้คนในชาติ” ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีผู้แทนราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมใจทำกิจกรรมภายในงาน “ปรองดองสมานฉันท์” เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์ และความสัมพันธ์อันดีของพี่น้องประชาชน และคืนความสุขให้คนในชาติ ก็สำเร็จได้ด้วยดี

5 เดือนของ “มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน” ก็ยังเดินหน้าต่อไป พ.ท.ชัยภัทร หริกุล ผู้บัญชาการกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา (พัน.ปจว.) ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ผู้มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและกิจกรรมและสร้างความบันเทิงและสาระให้กับประชาชน มาเปิดเผยถึงเบื้องหลังของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แผนนี้ของกองทัพบกแบบเปิดอกคุย

ยอมรับว่า “เชย” แต่ได้ใจประชาชน

มีผู้เชี่ยวชาญทั้งวงการบันเทิงและศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ปฏิบัติการคืนความสุขให้ประชาชนของกองทัพบกค่อนข้างเชย เป็นเหมือนกับการทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อในยุคสงครามเย็นที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์ 

“ผมยอมรับ...ในส่วนของหน่วยงานทหาร เราไม่มีความถนัดหรือความเชี่ยวชาญโดยตรงในการจัดหรือออร์แกไนซ์แบบบริษัทรุ่นใหม่ ทั้งในเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ และการแสดง ยอมรับตรงจุดนี้ เพราะเราเป็นทหารพยายามใช้ความง่าย และรูปแบบที่ประชาชนสัมผัสได้เข้าถึงง่าย” พ.ท.ชัยภัทรยอมรับถึงความจริงข้อนี้ พร้อมเล่าต่อว่า

"เหมือนอย่างที่เราไปแสดงและปฏิบัติการที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เราได้เสียงตอบรับที่ดีและประชาชนได้ใกล้ชิดเต็มที่ เข้ามาถ่ายรูปเข้ามาพูดคุย คือเหมือนกับคนที่รู้จักกันมานาน เขาบอกว่าเป็นการแสดงที่ดี ซึ่งสามารถเข้าถึงและสัมผัสได้ง่ายกว่าการแสดงคอนเสิร์ตลักษณะใหญ่ๆ ที่มีดารานักร้องมากมาย หรือว่าการแสดงบันเทิงรูปแบบทั่วๆ ไป นี่คือจุดที่ผมคิดว่าเป็นจุดแข็งของปฏิบัติการเของเรา ซึ่งพยายามใช้ความจริงใจและใช้ความเป็นทหารที่คลุกคลีอยู่กับประชาชน ใช้ตรงนั้นเข้ามาช่วยทำ"

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"

เริ่มต้นความสำเร็จจากวิกฤต“ต่อต้าน คสช.”ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

หลังจากที่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศในช่วง 4-5 วันแรก การประท้วงเพื่อต่อต้านได้ถูกจุดขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.ท.ชัยภัทร พร้อมทหารในสังกัดได้ถูกเรียกมาปฏิบัติการในทันที ประสบการณ์ในครั้งนั้นเป็นครั้งหนึ่งที่ถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างมากในการควบคุมฝูงชนได้อย่างเด็ดขาด

“บรรยากาศในช่วงเวลานั้นจะเป็นอยู่ 4-5 วันที่ค่อนข้างตึงเครียด ซึ่งมีการตรึงกำลังอยู่ทั้งทหารและตำรวจรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ประชาชนส่วนหนึ่งอยู่บนสกายวอล์กรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ผมและทีมทหารเข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจ เพราะนั่นคือเป้าหมายของเรา ซึ่งทางเรารู้ว่ามีกลุ่มต่อต้านอยู่ส่วนหนึ่งที่เข้ามาดำเนินการอยู่ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ แต่เป้าหมายในการประชาสัมพันธ์หรือพูดคุยสร้างความเข้าใจของเรา ไม่ได้มุ่งไปตรงนั้น เราพยายามพุ่งไปที่คนส่วนใหญ่ซึ่งมาเฝ้าดูมากกว่า เพราะว่ากลุ่มที่ตั้งใจมาประท้วงต่อต้านเขามีเจตนาที่ค่อนข้างชัดเจนหนักแน่น ซึ่งจะเปลี่ยนความคิดของเขาตรงนั้นเลยนั้น เป็นไปได้ยาก เราพยายามชี้แจงประชาชนที่อยู่รอบนอกมากกว่าไม่ให้เข้ามา ให้เขาเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้เขาเห็นด้วยกับปฏิบัติการของเรา ตอบรับและให้ความร่วมมือ

“ส่วนกลุ่มผู้ที่มาประท้วงต่อต้าน เรายังใช้วิธีการและแนวทางที่เตรียมการมาไว้แล้ว และดำเนินการอย่างมีแนวทางที่ชัดเจน มีความละมุนละม่อมใจเย็นและรับฟังให้มากที่สุด วันนั้นก็เป็นการพูดโน้มน้าวให้เห็นถึงความตั้งใจของทหารที่เข้ามามาช่วยตรงนี้ เป็นภาระที่หนักอึ้งพอสมควร เสียสละที่เข้ามาทำตรงนี้ แล้วอยากให้ทุกคนนึกถึงศูนย์รวมของคนไทยทุกคนคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านไม่อยากให้คนไทยทะเลาเบาะแว้งรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งเป็นสภาพสังคมที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น”

พ.ท.ชัยภัทร บอกว่า ตอนที่มีม็อบประท้วงทั้งสองฝ่ายคือ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ออกมาเคลื่อนไหว  กองพัน.ปจว. ก็ลงพื้นที่ปฏิบัติการเงียบๆ อยู่แล้วเช่นกัน

"ที่ผ่านมาเป็นงานหนักแต่เราก็พยายามทำเต็มที่ในขอบเขตของความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ในเรื่องของการดำเนินการมาตั้งแต่กลางปี 2556 ที่ผ่านมา กับกลุ่มที่ปะทะกัน เราใช้การเจรจา หมายถึงเราใช้ความพยายามที่จะให้มีการประนีประนอม ก็ทำให้การปะทะกันหรือการที่จะเคลื่อนเข้าหากันยุติลงได้และพยายามหาทางออกที่ละมุนละม่อมซึ่งทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ ก็ทำได้หลายครั้งเหมือนกัน ทั้งที่คุรุสภา ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และที่แจ้งวัฒนะ ก็ใช้การเจรจากับแกนนำที่มีความสัมพันธ์ได้ของทั้งสองฝ่าย มาพูดคุยกันในมุมเล็กๆ ที่ทำเนียบรัฐบาลก็เช่นกัน"

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"

คืนความสุข เน้นความจริงใจ

ในส่วนของกองพันจิตวิทยาที่ได้ดำเนินการที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมคืนความสุขในห้วงเวลาที่ผ่านมา พ.ท.ชัยภัทร บอกว่า พื้นที่หลักก็คือพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง โดยนำกองพันรณรงค์ไปทำการแสดงและชุดปฏิบัติการจิตวิทยาออกไปพบปะกับประชาชน ทั้งที่หน่วยงานราชการและสถานที่ต่างๆ

“ในส่วนของการเข้ามาช่วยประเทศของ คสช. มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชนก็ได้รับแรงตอบรับค่อนข้างดี จริงๆ นโยบายหลักก็มาจาก ทบ.ส่วนกลาง และ คสช.โดยตรง สั่งมาผ่านหน่วยที่ขึ้นตรงกองทัพบกหรือกองทัพภาค หน่วยปฏิบัติการพิเศษก็เป็นหน่วยหนึ่งที่มีกองพันปฏิบัติการจิตวิทยาเป็นลูกมือรับผิดชอบในเรื่องของงานมวลชนตรงนี้ ผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อน”

พ.ท.ชัยภัทร เปิดเผยว่า เครื่องมือหลักในส่วนของการปฏิบัติการกมีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน

หนึ่ง-ส่วนของหมวดรณรงค์

“เป็นวงดนตรีพลร่มที่ออกไปทำการแสดง ก็เป็นการแสดงประกอบรีวิวสลับกับการประชาสัมพันธ์ แล้วการนำเสนอหลักๆ ก็เป็นเพลง "คืนความสุข" ส่วนที่มีรีวิวประกอบก็เป็นเพลงเกี่ยวกับสถาบันอย่าง "เทิดไท้องค์ราชันย์" การเทิดพระเกียรติในหลวงและก็มีการสอดแทรกความบันเทิงเข้าไปทั้งภาคตลกและความบันเทิงต่างๆ ก็ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนค่อนข้างจะดี”

สอง-ส่วนของปฏิบัติการจิตวิทยาที่เป็นชุดมวลชน

“ก็จะเข้าไปพบปะพูดคุยตามส่วนราชการต่างๆ เข้าไปฝึกระเบียบวินัยให้เด็กนักเรียนในโรงเรียน เข้าไปตาม อบต. และพื้นที่ฝึกอบรมต่างๆ ตามที่เขาขอรับการฝึกเข้าไป เราก็จัดวิทยากรเข้าไปเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจในเรื่องโรด แม็ป ของ คสช. เรื่องการปรองดอง เรื่องสถาบัน เรื่องพวกนี้ก็สัมผัสใกล้ชิดกับประชาชานได้ค่อนข้างที่จะดีมาก”

สาม-ส่วนหนึ่งเป็นการจัดรายการทางวิทยุเพื่อความมั่นคง

“เป็นการจัดรายการสอดแทรกเกี่ยวกับความปรองดอง ก็เป็นการจัดรายการวิทยุเหมือนรายการทั่วๆ ไป แต่ประเด็นที่นำมาพูดส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นบันเทิงที่สอดแทรกเพื่อความมั่นคง โดยนักจัดรายการจากพัน.ปจว.จะจัดรายการแบบเต็มเวลาเลยทีเดียว”

ส่วนการปฏิบัติการในกรุงเทพฯ กองพัน.ปจว. ก็เป็นกำลังส่วนหนึ่งที่ไปร่วมกับกับกองกำลังในพื้นที่ โดยจัดกำลังพลไป 40 นาย เข้าไปประจำการ

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"

แม้มีรัฐบาลใหม่ ปฏิบัติการคืนความสุขยังเดินหน้าต่อไป

มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน แม้ไม่ประสบความสำเร็จมากมายนัก แต่ยุทธศาสตร์ของการคืนความสุขให้กับประชาชน หลังจากนี้ พ.ท.ชัยภัทร ชี้ว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นกว่าเดิม

“ตามนโยบายที่ผมได้รับจากกองทัพบกคงเป็นเรื่องของการขยายผลในเรื่องของการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ที่ท่านผู้บัญชาการทหารบกมอบให้เป็นแนวทางให้กับกำลังพลและครอบครัวในกองทัพบก ได้เป็นแบบอย่างในการยึดถือเพื่อจะให้กระจายไปสู่ประชาชนคนไทย เป็นค่านิยมที่เรากำลังช่วยกันทำและช่วยกันยึดถือ ซึ่งจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าและความเจริญของประเทศเรา

“ในเรื่องหลักของเราก็เป็นเรื่องการชี้แจงความเข้าใจในส่วนการทำงานของ คสช. และรัฐบาล เราต้องพยายามที่จะนำเสนอในเรื่องของบทบาทหน้าที่ โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทุกโอกาสที่หน่วยงานของผมได้ไปปฏิบัติการในพื้นที่”

พ.ท.ชัยภัทร มองว่า ความสุขของประชาชนที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องการดำรงชีวิต

“ผมคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อปัญหาต่างๆ ของเขาได้คลี่คลาย หลักๆ ก็เป็นเรื่องของปากท้อง ซึ่งตรงนั้นก็อยู่ในแผนหรือการดำเนินงานของหน่วยงานราชการของ คสช. อยู่แล้ว แต่คงเป็นระยะยาว แต่ในห้วงขั้นต้นของเราก็คือการสร้างรอยยิ้มสร้างความสุข สร้างบรรยากาศของความปรองดองลดความขัดแย้งเพื่อให้ถึงระดับที่ประเทศเราสามารถเดินต่อไปได้ ยังมีบางส่วนที่ติดค้างยังไม่เข้าใจอาจจะมีอยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรถึงจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ แล้วในช่วงต่อไปปัญหาเหล่านั้น อยู่ในแผนอยู่ในแนวทางการบริหารราชการของรัฐบาลอยู่แล้ว”

สำหรับการปรับปรุงปฏิบัติการในมหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน พ.ท.ชัยภัทร ยืนยันว่า ในอนาคตก็จะต้องมีการพัฒนาขึ้นไปอีก

“ส่วนที่เรามองก็คือโซเชียล มีเดีย และออนไลน์ต่างๆ ก็ต้องปรับขึ้นมาอีก วงดนตรีก็เป็นวงดนตรีทหารที่มีการแสดงรีวิวที่เป็นอุดมการณ์ที่เกี่ยวกับความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งบางทีตรงนี้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในชนบท ซึ่งทหารเข้าไป อาจจะไม่ได้ดีเหมาะกับชุมชนกลุ่มในเมือง เพราะว่าเราเป็นวงดนตรีที่ถูกออกแบบมาเพื่อคนในพื้นที่ชายแดนทุรกันดารห่างไกลมากกว่า ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่เมือง ก็จะมีการทยอยเพื่อปรับรูปแบบการนำเสนอต่างๆ ขึ้นไป แล้วจะเพิ่มในเรื่องของสื่ออื่นที่อาจจะเข้าถึงประชาชนในปัจจุบันนี้ ตอนนี้ผมก็เริ่มดำเนินการแล้วแต่ยังไม่ชัดมาก

“ระยะหลังเราได้มีส่วนร่วมกับดารานักร้อง ก็มีหลายงานที่เราไปเป็นวงดนตรีแบ๊กอัพให้ หรือจัดเป็นวิทยากรเข้าไปร่วมบ้าง เป็นพิธีกรร่วมและทำกิจกรรมสลับช่วง ที่สนามหลวงจะชัดเจน ส่วนในเรื่องของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประสบการณ์ เนื่องจากช่วงเวลาและรูปแบบยังไม่เอื้อ แต่ก็พยายามติดตามและดำเนินการเท่าที่เราสามารถจะทำได้

แนวโน้มในการที่จะเอาดารานักร้องมาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วมมือในการประชาสัมพันธ์คืนความสุขให้ประชาชน เพราะดารามีอิทธิพลต่อวัยรุ่นและคนส่วนใหญ่ ตรงนี้ผมก็ว่าน่าสนใจ ในโอกาสต่อไปถ้ามีการพูดคุยมีการดำเนินการผ่านทางกองทัพบกให้ช่วยประสานตรงนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้”

สุดท้าย พ.ท.ชัยภัทร บอกว่า การที่กองพันปฏิบัติการจิตวิทยารู้ได้เข้าไปสัมผัสพี่น้องในพื้นที่ต่าง สิ่งที่อยากเห็นจากพี่น้องประชาชนก็คือ รอยยิ้มที่เกิดจากความสุขในใจจริงๆ ความสบายอกสบายใจที่ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติได้รับการคลี่คลายทั้งเรื่องของความขัดแย้งและการเมืองที่หาทางออกไม่ได้

“ทั้งเรื่องของปัญหาปากท้อง รวมทั้งเรื่องปัญหาที่มันฝังลึกมานานซึ่งได้รับการแก้ไข ผมว่าตรงนี้พี่น้องในหลายพื้นที่ซึ่งเราลงไปพบปะมีความสดใสที่ชัดเจนมากขึ้น และเป็นความสุขที่เราบำบัดได้โดยตรง เราอยากทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อความสุขของพี่น้องเพื่อรอยยิ้มตรงนี้ต่อไปในนามของกองทัพบก”

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"

 

"พ.ท.ชัยภัทร หริกุล"เปิดหลังม่าน"มหกรรมคืนความสุขให้ประชาชน"