ส่องชีวิตแกนนำกปปส.หลังสลายม็อบ
เปิดวิถีชีวิตแกนนำกปปส.หลังคสช.เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศ ที่ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตตามวิถีทาง
โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์
เวทีชุมนุมทางการเมืองแต่ละฝ่ายต้องสลายไปเป็นการชั่วคราว หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาควบคุมอำนาจบริหารประเทศ บรรดาแกนนำไม่ว่าจะเป็น กปปส. หรือเสื้อแดง เข้ารายงานตัวต่อ คสช. ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวแยกย้ายกันไป ภายใต้เงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก
หลังได้รับอิสรภาพฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดงหลายรายจับมือกับทหารร่วมงานตามกิจกรรมปรองดอง บางรายประกาศเลิกเล่นการเมืองขอกลับไปอยู่กับครอบครัวดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
ขณะที่ กปปส. พลาดไม่ได้ที่จะกล่าวถึง สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ “ลุงกำนัน” มีเวลาอยู่กับครอบครัวพร้อมจัดตารางภารกิจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมตามโรงพยาบาลต่างๆ อีกทั้งขึ้นโรงขึ้นศาลให้การในคดีที่ตัวเองเป็นโจทก์และเป็นจำเลย
ล่าสุดยังได้มีเวลาฟื้นฟูสุขภาพร่างกายด้วยการผ่าตัดเอ็นไหล่ขวาอันสืบเนื่องจากระหว่างการชุมนุมที่มีการเดินขบวนประชาชนได้ดึงแขนทำให้มีอาการบาดเจ็บเรื้อรังมาตลอด เจ้าตัวยังวางปฏิทินจัดงานดินเนอร์ กปปส. ที่แปซิฟิค ซิตี้คลับ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
หันมาดูโฆษก กปปส. เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เตรียม ขอลามวลมหาประชาชนไปอุปสมบทที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์และจำวัด 1 คืน ก่อนไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอัมพวัน 2 สัปดาห์
ด้าน อัญชะลี ไพรีรัก เล่าว่า หลังยุติการชุมนุม อย่างแรกคือได้กลับบ้านไปพบคุณพ่อที่อายุ 80 กว่าปี พี่สาว พี่ชาย และหลานทุกคนคิดถึง ดีใจจนน้ำตาร่วงเหมือนกับว่าไปเรียนเมืองนอกกลับมา
“เมื่อจบชุมนุมทำให้มีโอกาสทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ คือ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ขี่จักรยานรอบซอยบ้าน เล่นโยคะ กลับมารับประทานมังสวิรัติ ประการสำคัญ คือ ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ซึ่งช่วงชุมนุมเครียดมากกลายเป็นคนนอนกัดฟันโดยไม่รู้ตัวจนฟันร้าวไปสองซี่ นอกจากนี้ก็มีเวลาไปตัดเล็บ ทำสีเล็บ ทำผม กลับมารักสวยเหมือนเดิม”
ส่วนเรื่องการทำงานก็กลับมาใช้ชีวิตคนข่าวปกติ ไม่ได้หวือหวาอะไรพิเศษ กลับมานุ่งกระโปรง เช้า 09.00 น. เข้าออฟฟิศปิดข่าว เสร็จ 20.00 น. กลับบ้านมาเขียนงานส่งออฟฟิศต้นสังกัด
ขณะที่ สกลธี ภัททิยกุล แกนนำ กปปส. ระบุว่า ภายหลังจบการชุมนุมใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะลูกและภรรยารวมถึงคุณพ่อคุณแม่
ส่วนเรื่องงานการเมืองไม่ได้ทิ้งเพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยังคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกสัปดาห์จะนัดพบแกนนำโดยเฉพาะ 4 กุมาร (หัวเราะ) เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน อัพเดทสถานการณ์ หรือแลกเปลี่ยนเรื่องชีวิตครอบครัวบ้าง
ทั้งนี้ ยอมรับว่าตั้งแต่จบการชุมนุมไม่ได้เดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือ คุยอะไรกับคนในพรรคเลย
ด้าน จักษ์ พันธ์ชูเพชร อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และขวัญใจแม่ยก กปปส. เล่าว่า หลังจบชุมนุมกลับมาสู่ชีวิตที่เคยเป็นมา คือ งานบริหาร ผู้ช่วยอธิการบดี งานสอน งานวิจัย และงานวิทยากร
นอกจากงานด้านวิชาการ ชีวิตส่วนตัวก็ชอบเป็นคนอยู่บ้าน ทำสวนครัว ดูแลแม่เพราะมีอาการป่วย และเพื่อน สี่ขา 5 ตัว อีกทั้งยังทำให้ส่วนตัวมีเวลามากขึ้นกับการอ่านหนังสือจัดรายการวิทยุ แต่ยอมรับว่ารู้สึกคิดถึงเวทีเพราะอยู่มา 7 เดือน
“ผมได้ทำตามความคิดอุดมการณ์และคนเห็นด้วยจำนวนมาก รวมถึงทำให้คนไทยตื่นตัวในเรื่องนโยบายสาธารณะและทางการเมืองมากขึ้น แต่ยังโชคดีได้ไปงานบรรยายตามจังหวัดในและนอกประเทศ ซึ่งจะมีแฟนคลับมาทักทายทุกที อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา”แม่เหล็กเวที กปปส. เล่าถึงการใช้ชีวิตในวันที่เวที กปปส.ไม่รู้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊กสุเทพ,อัญชะลี,สกลธี