posttoday

"ผมจะรบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว"พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา

21 เมษายน 2557

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง แต่ใครก็ตามที่จาบจ้วง หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมถือว่าเป็นขยะแผ่นดิน เขาเหล่านั้นเป็นศัตรูของผม

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล , สุภชาติ เล็บนาค / ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

บ่ายแก่ๆของวันศุกร์ที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ปรากฏตัวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กางเกงบลูยีนส์ ด้วยท่วงท่ากระฉับกระเฉงตื่นตัว แม้ใบหน้าจะมีแววเคร่งเครียดฉายชัด ทว่ายังคงยิ้มแย้มเป็นกันเองต่อสื่อมวลชนหลายสำนักที่มารอทำข่าว

ประเด็นร้อนแรงที่สุดที่หลายคนอยากฟังจากปากเจ้าตัว นั่นคือ การก่อตั้ง "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" เพื่อกวาดล้างกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้วันแรกที่ก่อตั้งเพจเฟซบุ๊กจะมียอดผู้กดไลค์ถึง 6 หมื่นคน แต่ขณะเดียวกันก็ถูกโจมตีอย่างดุเดือดจากผู้ไม่เห็นด้วยทำนองว่าตั้งตนเป็นศาลเตี้ย ปลุกปั่นยุยงให้เกิดความรุนแรง

วันนี้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง พร้อมแล้วที่จะตอบทุกคำถามที่สังคมสงสัย....

ถาม : อะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เกิดการก่อตั้ง 'องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน' ขึ้น

ตอบ : ต้องยอมรับก่อนว่าสถานการณ์การจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆในปัจจุบันมันเลวร้ายรุนแรงยิ่งกว่าสามัญชนกระทำต่อกันเสียอีก ประชาชนจำนวนมากรู้ดีว่ามันไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ขณะเดียวกันหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ตั้งแต่รัฐบาลยันส่วนราชการกลับดำเนินการแบบไฟไหม้ฟาง ทำตามกระแสสังคมที่เป็นข่าวเพียงไม่นานก็เลิก และเงียบหายไป
สิ่งเหล่านี้มันทำให้สถานการณ์มันเหิมเกริม คึกคะนอง ท้าทายกันมากขึ้น

ผมเป็นหมอ พูดตรงๆว่าผมเป็นคนใจดี ไปถามดูได้ตั้งแต่พนักงานโรงพยาบาลจนผู้บริหาร เรียกผมว่าพี่หมด ไม่เรียกหมอ อาจารย์ และผมก็เป็นอย่างนี้กับทุกคน อีกอย่างผมเป็นทหารเก่า ออกจากราชการมา 7 ปีแล้ว ในฐานะที่เป็นประชาชนไทยคนหนึ่ง ผมรู้สึกว่าเราก็ทอดทิ้งพระองค์ท่านเหมือนกัน แม้ไม่เคยถวายงานรับใช้อย่างใกล้ชิดต่อพระองค์ท่าน แต่ผมเป็นทหาร เป็นหมอ ผมมีหน้าที่รับใช้ชาติ รับใช้ประชาชน เราจะประพฤติตัวดี ทำความดี คิดแค่นั้น แต่วันนี้มันไม่พอเสียแล้ว หลายปีมานี้ เราทนรู้ ทนดูการกระทำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งที่รู้ว่าพระองค์ท่านคงไม่ใส่ใจเอามาเป็นสาระ คนทำผิดท่านก็พระราชทานอภัยโทษทุกราย พระองค์ท่านทรงมีเมตตาสูงมาก ผมเลยรู้สึกว่าเราทอดทิ้ง โดดเดี่ยวพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์

จนกระทั่งเกิดกรณีนายตั้ง อาชีวะ ผมเริ่มเหลืออด ก็คอยดูอยู่ว่าส่วนราชการจะดำเนินการอย่างไร แต่แล้วก็ปรากฏต่อสาธารณชนว่ามีความสัมพันธ์กับนักการเมือง พรรคการเมืองอย่างเปิดเผยอีก มาถึงล่าสุดเมื่อนายโกตี๋ประกาศว่าจะรบกับ King ถือเป็นอริราชศัตรู ในฐานะนายทหารนอกราชการ ผมก็จะรบด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจึงเหลืออด ประกาศเลยว่าต่อไปนี้ทั้งชีวิตที่เหลือ ผมจะต่อสู้กับขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและแนวร่วมที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ผมไม่ได้บอกว่าจะต่อสู้กับคนเสื้อแดง นปช. หรือกลุ่มคนสีอะไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง แต่ใครก็ตามที่จาบจ้วง หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมถือว่าเป็นขยะแผ่นดิน เขาเหล่านั้นเป็นศัตรูของผม

ถาม : ทำไมต้องเป็นชื่อ 'องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน' หลายคนมองว่าดูแข็งกร้าว  (Aggressive)

ตอบ : เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ไม่สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดินเกิด แถมยังกระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเลวร้าย ผมขอย้ำอีกครั้งว่าพระองค์ท่านโดนจาบจ้วงดูหมิ่นยิ่งกว่าสามัญชนกระทำต่อกันเสียอีก สิ่งที่ปรากฏออกมามันเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับได้ คนทั่วไปยังโดนกันไม่เท่านี้ เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ไม่ควรตีค่าความเป็นคนแล้ว นอกจากเป็นขยะของแผ่นดิน ดังนั้นจึงต้อง Aggressive ครับ 

คำว่าขยะแผ่นดิน ตอนแรกคิดว่าเป็นสิ่งที่เรารู้สึกอยู่คนเดียว ตอนนี้ปรากฏแล้วว่าไม่ใช่ มันเป็นความรู้สึกของประชาชนหลายๆสิบล้าน ผมกล้าพูดคำนี้ได้เพราะทุกวันนี้ต้องรับโทรศัพท์คนติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพียงแค่ไม่กี่วันในเฟซบุ๊กอย่างเดียวก็มีคนแชร์กันถล่มทลาย  ผมเป็นคนซื่อๆไม่เคยทำเรื่องเกี่ยวกับมวลชน ไม่เคยมีเครือข่าย แต่รู้ได้ทันทีว่านี่มันกลายเป็นการลุกฮือแล้ว

องค์กรเก็บขยะแผ่นดินเป็นองค์กรเปิดเผย ไม่ใช่องค์กรเถื่อน ไล่ล่า อุ้มฆ่า ปลิดชีวิตคน แต่เป็นองค์กรที่จะใช้พลังแผ่นดิน ใช้ประชาชนคนรักพระเจ้าอยู่หัว รักสถาบันพระมหากษัตริย์รวมพลังกันเพื่อติดตาม สืบค้นบุคคลที่กระทำความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและแนวร่วม เอาตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ดำเนินการต่อต้านทางสังคม เพื่อควบคุมคนไม่ดีเหล่านี้ไม่ให้ก่อความวุ่นวาย แล้วเราก็จะรณรงค์สร้างสรรค์ความเข้าใจในสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกต้องด้วย

ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพรรคการเมือง ไม่มีวาระซ่อนเร้น หรือผลประโยชน์ทางธุรกิจ เป้าหมายอย่างเดียวคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ขจัดกวาดล้างพวกที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเป็นรูปธรรม นี่คือภารกิจหลักขององค์กรเก็บขยะแผ่นดิน

ถาม : รูปแบบการดำเนินการขององค์กรเก็บขยะแผ่นดินเป็นอย่างไร

ตอบ : องค์กรนี้เป็นองค์กรมหาชน ไม่ใช่องค์กรที่ตั้งขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราว เสร็จภารกิจแล้วก็เลิก แม้สถานการณ์หมิ่นพระบรมเดชนุภาพจะถูกดำเนินการแก้ไขจนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ องค์กรนี้ก็ยังไม่เลิก แต่จะอยู่เพื่อค้ำจุนราชบัลลังค์ต่อไป

เราจะมีกองทุนที่เรียกว่ากองทุนเก็บขยะแผ่นดิน เป็นงบประมาณที่ใช้ในการขับเคลื่อน โดยจะใช้ในการสืบค้น เก็บหลักฐาน เป็นเบี้ยเลี้ยง เป็นเงินรางวัลในการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ องค์กรนี้ถือว่าเป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 8 ถือว่าองค์พระมหากษัตริย์จะถูกล่วงละเมิดมิได้

วันนี้เห็นได้ว่ามีชื่อของผมเพียงคนเดียว ทีมคณะทำงานที่อยู่เบื้องหลังไม่มีปรากฏตัวออกมาเลย นั่นก็เพราะหลายคนยังเป็นข้าราชการประจำ พลเรือน ตำรวจและทหารที่ยังประจำการอยู่ สถานการณ์วันนี้ข้าราชการประจำก็ไม่กล้าที่จะแสดงตัวออกมาอย่างผมได้ ผมเป็นทหารนอกราชการ ไม่มีพันธนาการในเรื่องวินัยทางราชการ ดังนั้นผมจึงแสดงตัวคนเดียว

วันแรกที่ประกาศตัวคณะทำงานยังมีไม่กี่สิบคน วันนี้มีทุกสายอาชีพ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร หมอ พ่อค้าแม่ค้า นักเรียนนักศึกษา ภาคประชาชน ภิกษุสามเณรที่จงรักภักดีเต็มไปหมดเลย เราต้องบริหารจัดการด้วยการแบ่งกลุ่มงาน หนึ่ง เราจะมีกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่มบริการงานกองทุน วางระบบบัญชีการเงิน การควบคุมตรวจสอบทางบัญชีการเงิน สมมติเรามีคนสิบล้านคน ช่วยเหลือกองทุนนี้คนละ 50 บาท ก็เป็นเงิน 500 ล้าน แต่ความจริงมันอาจมีเป็นพันล้าน เพราะฉะนั้นต้องมีการวางระบบให้ดีก่อนถึงจะเริ่มดำเนินการ ตอนนี้เรายังไม่รับบริจาคใดๆทั้งสิ้น

สอง หน่วยสำรวจขยะ ภารกิจคือสืบค้น หาตัวผู้กระทำความผิด ทั้งสื่ออินเตอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ วิทยุชุมชน หนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และอื่นๆ เราจะรวบรวมหลักฐานพฤติกรรม เมื่อรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว ก็เอาเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีทางกฎหมาย แล้วติดตามคดีในส่วนที่ราชการรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่ว่าจับส่งปั๊บ แล้วปล่อยไป เราจะมีการตามคดี ในกรณีแนวร่วมที่มีการกระทำที่คลุมเครือ ดำเนินการทางกฎหมายไม่ได้ เราจะใช้มาตรการต่อต้านทางสังคม ให้สังคมรับรู้ว่าคนเหล่านี้มีพฤติกรรมแบบนี้ ให้สังคมต่อต้าน เช่น ไม่ซื้อขาย ไม่คบค้า ไม่จ้างงาน

กลุ่มสุดท้ายคือหน่วยรณรงค์ส่งเสริมการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำหน้าที่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม เพื่อให้เกิดความจีรังยั่งยืน สถานการณ์ในขณะนี้มันถูกปล่อยปละละเลยมานาน เราก็ต้องทำการเก็บขยะก่อน เมื่อใดก็ตามที่สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี เราก็จะแปรรูปองค์กรนี้เป็นองค์กรรณรงค์สร้างสรรค์เชิงบวก เพื่อปกป้องสถาบันและพิทักษ์เกียรติของพระมหากษัตริย์

"ผมจะรบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว"พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา

ถาม : สมมติว่ามีการร้องเรียนขึ้นมา ขั้นตอนการดำเนินการ'เก็บขยะ'เป็นอย่างไร

ตอบ : เมื่อเราได้รับทราบถึงพฤติกรรม ก็สืบค้นไปจนรู้ตัวบุคคล จากนั้นก็จะมีหน่วยประมวลข่าวกรอง เพื่อดูว่าคนนี้มีพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือเปล่า สิ่งที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือการกลั่นแกล้งกัน ถ้าไม่จริงก็เลิก ถ้าจริงก็รวบรวมพฤติการณ์ เตรียมสำนวน ดำเนินการแจ้งความ ส่งฟ้อง แล้วก็จะมีการจัดทีมประกบเร่งรัดติดตามคดีอย่างใกล้ชิด การจะดำเนินคดี หลักฐานสำคัญมาก โดยเฉพาะหลักฐานในโซเชียลมีเดีย เวลาเอาเข้าจริงมันแกะรอยยากนะ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ใช้งบประมาณ เราก็เอาเงินจากกองทุนเก็บขยะแผ่นดินมาเป็นเบี้ยเลี้ยง เงินรางวัล แม้จริงๆคนที่ทำหน้าที่ตรงนี้เขามาด้วยจิตอาสาก็ตาม

ตั้งเพจเฟซบุ๊กวันเดียวคนกดไลค์ 6 หมื่นคน ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยเข้ามาแสดงความคิดเห็นโจมตีเป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งหมดนี้บอกอะไรได้บ้าง

ผมก็ไม่ใช่นักเล่นเฟซบุ๊กตัวยง ถึงจะมีแฟนคลับติดตามเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เหรียญทอง แน่นหนา’ 2 หมื่นกว่าคน อาจเกิดจาดความชื่นชมศรัทธา ทั้งที่ผมไม่คิดอยากจะเป็นคนเด่นคนดังอะไรเลย ชีวิตที่ผ่านมา Low Profile ตลอด อยู่สงบๆกับครอบครัว

การเปิดเพจองค์กรเก็บขยะแผ่นดินวันเดียวมีคนกดไลค์ถล่มทลายมากกว่า 6 หมื่นคนแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าคนจำนวนมากอึดอัดกับพฤติกรรมขยะของแผ่นดินอยู่มาก แสดงว่าองค์กรนี้เป็นองค์กรแห่งความหวังของประชาชนผู้จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์เป็นจำนวนมากที่ต้องการให้ใครก็แล้วแต่มาดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง

หน่วยงานที่มีอำนาจของภาครัฐ ไม่ว่ารัฐบาลจนถึงส่วนราชการต่างๆควรต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วว่าทำไมถึงปล่อยปละละเลยอย่างนี้ เหมือนปัญหานี้มันอัดอั้นจนเหลืออด พอเปิดตัวเพจปุ๊บ มันถูกกับความรู้สึกของคนเป็นจำนวนมาก เรียกว่าพุ่งไม่หยุด

มีคนส่งเรื่อง ส่งข้อมูล รวมถึงแสดงความชื่นชมมาทาง Inbox เยอะมาก ที่ยิ่งกว่านั้น กลุ่มคนที่จาบจ้วงมันก็เข้ามาเอง เข้ามาโจมตี ผรุสวาท พ่นคำหยาบ บางคนมาแสดงให้ดูเลยว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างท้าทาย ก็ต้องขอบคุณ (หัวเราะ) ที่ทำให้ผมทำงานง่าย เฉพาะพวกนี้แค่ไม่กี่วัน รู้ชื่อนามสกุลไปเกือบ 300 คนแล้ว ถึงจะปิดเพจหนี เราก็ไม่เลิก เอาเข้าจริงคนด่ามีน้อยมากนะ มีแค่ 2-3 % เท่านั้นเอง แต่คนจำนวนมากช่วยกัน Protect สุดฤทธิ์
  
ถาม : กลุ่มคนที่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ จ้องล้มเจ้า มองว่าอะไรคือแรงจูงใจของคนพวกนี้

ตอบ : ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่จงใจสร้างความคิดที่ผิด เพื่อจะล้มล้างสถาบัน กลุ่มที่เข้าใจผิดๆ กลุ่มที่รับจ้างเข้ามา หรือพวกที่สนับสนุนให้การช่วยเหลือ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ล้วนเป็นขยะแผ่นดินทั้งสิ้น

ผมเชื่อว่าขบวนการล้มเจ้ามีจริงอย่างแน่นอน พฤติกรรมที่เราเห็นอยู่ตอนนี้คือการบั่นทอนความมั่นคงสถาบันพระมหากษัตริย์อาจไม่รู้ตัว นั่นคือการโยกไปเรื่อยๆ มันไม่หัก ไม่ล้มทันทีหรอก แต่อีก 10 ปี 20 ปีมันจะเป็นยังไง

โทษของคดีหมิ่นพระบรมเดชานภาพรุนแรง ผมว่ารุนแรงนะ แต่สังเกตว่าคนที่โดนคดีนี้ได้รับการอภัยโทษทุกราย ทั้งที่มีกฎหมายอยู่ แต่สาเหตุที่ขบวนการล้มเจ้ายังเหิมเกริม ก็เพราะการปล่อยปะละเลยของผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใส่ใจอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีการปกป้องคุ้มครองผู้กระทำความผิดโดยผู้มีอำนาจทางการเมือง คนเหล่านี้จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย และทำให้ปัญหาลุกลามบานปลาย

ถาม : ประเด็นที่ว่าอาจจะมีการจับแพะ หรือถูกกลั่นแกล้ง มีความกังวลตรงนี้ไหม

ตอบ : การกลั่นแกล้งเป็นสิ่งที่เราห่วงมาก แต่เมื่อเกิดขึ้น เรามีทีมกลั่นกรอง ตรวจเช็ค มีการแจ้งให้เจ้าตัวทราบ สมมติเป็นบุคคลที่ทำ เราขอคุย ให้มีการพิสูจน์ เมื่อเรามีบุคคลต้องสงสัย เราพิสูจน์ เรามีองค์กรตรวจเช็คยืนยัน ไม่ได้สักแต่ว่าทำเป้า เร่งทำแต่ไม่ใช่ชุ่ย เราไม่มีภารกิจอื่น มีภารกิจเดียวคือสืบค้นผู้กระทำผิด เรามีเวลาพอในการทำให้เป็นรูปธรรม และเรามีประชาชนอีกหลายสิบล้านช่วยเรากัน คอยเช็คดูว่าอันนี้จริงมั้ย ถ้าจริงก็ติดต่อดำเนินคดี เราก็ต้องเช็คว่าพฤติกรรมชัดเจน เราดำเนินคดี แต่ถ้าไม่ใช่ เราก็ต้องยอมรับหากโดนฟ้องกลับ กฎหมายก็คุ้มครองเขาเหมือนกัน ไม่ใช่โดนอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเขาโดนกระทำ เขาก็มีสิทธิ์ฟ้องได้ เรายอมรับความเสี่ยงทั้งหมด

ถาม : กลัวไหมว่าจะนำไปสู่เหตุการณ์ไทยฆ่าไทย

ตอบ : เราไม่ทำสิครับ (ตอบเร็ว) ถ้าจะปล่อยให้ฆ่ากัน เราไม่ทำองค์กรนี้หรอก ถ้าไม่ทำต่างหากจะถือว่าปล่อยให้คนเขาลุกฮือฆ่ากันเอง  แต่ที่เราทำขึ้นมาเพื่อบอกประชาชนที่จงรักภักดีรู้ว่ามีคนที่จะมาดำเนินการตรงนี้ จะมาหยุดยั้งสถานการณ์เลวร้าย องค์กรเก็บขยะแผ่นดินไม่ได้ปลุกปั่นยุยงให้คนมาฆ่ากันเอง แต่เรากำลังบอกให้คนที่จงรักภักดีอดทน และปล่อยให้เข้าสู่ขั้นตอนดำเนินการตามกฎหมาย ประเด็นจริงๆ เราเป็นอย่างนี้

คนหมิ่นสถาบันไม่รู้เดือดร้อนอะไรที่มีองค์กรนี้ออกมา คงกลัวว่าจะลำบากในการทำงาน ความจริงถ้าไม่หมิ่นก็จบ ไม่เห็นชีวิตจะลำบากเลย ไม่หมิ่นแล้วจะตายตรงไหน คุณต้องการหมิ่น คุณรังเกียจพระองค์ท่านขนาดนั้นเชียวหรือ แน่นอนถ้ามีองค์กรนี้ออกมา คนหมิ่นลำบากแน่ เพราะผมเอาคุณแน่ คนอย่างผมไม่ได้พูดเล่นด้วย ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยพูดแล้วไม่ทำ

ถาม : เรียกว่าสงครามไซเบอร์ได้ไหม

ตอบ : ไม่ใช่ บางส่วนอาจเป็นสงครามไซเบอร์ หากมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค เรามีปฏิบัติการ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์  จริงๆ มันเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ

ถาม : จาก Low Proflie กลายเป็นสายล่อฟ้า รู้สึกอย่างไรบ้าง

ตอบ : (ยิ้ม) ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตจะต้องมาทำอะไรขนาดนี้ แต่ถือเป็นเกียรติที่สุด

ที่ผ่านมา การชุมนุมของกปปส. แจ้งวัฒนะ มันอยู่หน้าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ  เมื่อถูกถล่ม ถูกระเบิดอยู่ไม่เว้นแต่วัน เขาก็มารักษากับผม ผู้ชุมนุมกปปส.บาดเจ็บมาผมก็รักษา ผู้ที่ไปยิงเขา แล้วโดนเขาสวนกลับมา ผมก็รักษา พูดง่ายๆรักษาทั้งสองฝ่าย เราเป็นรพ.เดียวที่อยู่ในพื้นที่ เพราะฉะนั้นเราก็ดูแลหมด

ถามว่าผมสนับสนุน กปปส. มั้ย ผมสนับสนุน แต่ไม่ใช่แกนนำ ผมเป็นแค่ผู้ชุมนุมธรรมดา แต่มันเกิดสถานการณ์ขึ้นหน้าโรงพยาบาลผม ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการจะปล่อยให้ลุกลามไม่ได้ จึงออกมาแสดงตัว เลยกลายเป็นภาพข่าว ผมก็ไม่รู้ว่ามีนักข่าวด้วยซ้ำ กลายเป็นคนรู้จักผมเยอะ เข้ามาชื่นชม

หลังจากนั้นผมโดนถล่ม ยิงเข้ามาโรงพยาบาลอีก ไม่รู้จะยิงผมไปทำไม ผมช่วยคน จะยิงผม ข่มขู่ผมไปทำไม เมื่อยิงโรงพยาบาลผม ผมก็ไม่พอใจ ออกมาประณาม ภาพเหล่านี้มันจึงกลายเป็นสถานการณ์พาไป ซึ่งผมไม่ได้เจตนา คนเกลียดผมก็มี เผาโลงผมก็มี ไม่รู้จะเผาทำไม ผมปกป้องพระเจ้าอยู่หัว   ถ้าคิดว่าผมมาปกป้องพระเจ้าอยู่หัว แล้วคุณมาเผาผม แล้วใครจะปกป้องพระเจ้าอยู่หัว คุณน่าจะส่งเสริมผมเสียอีกด้วยซ้ำ

"ผมจะรบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว"พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา

ถาม : กระทบกับหน้าที่ผ.อ.โรงพยาบาลมั้ย

ตอบ : ช่วงนี้ยุ่งกับเรื่องนี้มาก (ลากเสียงยาว) สงสัยจะโดนไล่ออกแล้ว (หัวเราะ) ถามว่ากระทบกับตัวผมมั้ย ผมคิดว่าสถาบันกระทบรุนแรงกว่านะ กระทบกับผมเรื่องเล็ก เราหมดไปหลายล้านแล้วรักษาคนไข้ เอาชาติ เอาพระมหากษัตริย์ ให้อยู่รอด เกิดมาไม่ให้เสียชาติวันนี้ ผมถือว่าคนหมิ่นสถาบันคืออริราชศัตรู ทุกคนเป็นนักรบได้ รบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว เราเป็นทหารพระราชา ไม่ต้องเปล่งคำปฏิญาณตน สวนสนาม เดินหน้าแถว ก็เป็นนักรบได้ ผมอยากขอร้องว่าอย่าหมิ่นเลย ผมอยากอยู่กับทุกคนอย่างสันติ

ความจริงเราอยากให้เขาเลิกเกลียดชังต่อสถาบันกษัตริย์ ถ้าคิดอย่างนี้ก็เลิกเถอะ ผมเอาจริง ถ้ารู้ว่าใครทำ ผมก็ไม่คบ หรือถ้าคุณหมิ่น (ชี้มาทางผู้สัมภาษณ์) ผมก็ไม่คบด้วย จะยิงรพ.ผมไม่โกรธนะ แต่ถ้าหมิ่น ทำอะไรได้กูทำหมด

ถาม : ครอบครัว ภรรยา ลูกๆว่าอย่างไรบ้าง

ตอบ : ลูกเมียโอเค เขาบอกตายเป็นตาย ภรรยาผม ลูกผมสามคน พ่อแม่พี่น้องพี่คิดเหมือนกันว่าเรารู้คุณแผ่นดินไม่พอ เราต้องตอบแทนคุณแผ่นดินด้วย วันนี้ชีวิตผมสบายแล้ว มีฐานะ ชีวิตแสนสุข นี่ตั้งใจนะว่าถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว จะไปขับเครื่องบิน ผมขับเครื่องบินเล็กเป็นงานอดิเรก กลายเป็นว่าต้องเลิกไปก่อน ผมก็บอกลูกเมียว่าเราเห็นความจำเป็นตรงนี้ ความจำเป็นที่จะต้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วผมมั่นใจด้วยว่าจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะผมมั่นใจว่าคนไทยผู้จงรักภักดีที่มีอยู่จำนวนมหาศาลนั้นจะสนับสนุนผม

ถาม : แล้วเรื่องความปลอดภัยล่ะ

ตอบ : นี่ก็เพิ่งโดนจดหมายขู่ 18 ฉบับ โทรศัพท์ขู่น่าจะ 300-400 ครั้งได้ บอกตรงๆ ผมเฉยๆ ถ้าผมตายไป ไม่ได้หมายความว่าองค์กรจะตายไปกับผม มันยังมีใครอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ลุกขึ้นมาหมดแล้ว เพียงแต่วันนี้เขายังไม่ได้ปรากฏตัว 

ถามว่ากลัวมั้ย กลัว แต่สมัยเป็นทหารก็โดนมาเยอะ ลองไปถามทหารที่เป็นเพื่อนผม ลูกน้องผมดูว่าพี่เหรียญเป็นคนยังไง เขารู้หมดว่าผมก็นักรบ ออกมา 7 ปีแล้ว ก็กลายเป็นว่าต้องกลับมารบอีก  เพียงแต่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ไม่ได้ถือปืนเท่านั้น

ถาม : ทำไมคนที่จงรักภักดีถึงตกเป็นเป้า

ตอบ : ในเมื่อจงรักภักดี ทำดี จะกลัวทำไม ผมจงรักภักดี ทำดี ทำถูกต้อง ผมก็เปิดเผย แสดงตน ไม่กลัวเป็นสายล่อฟ้า วันนี้ออกมาแสดงตัวให้รู้ คนดีต้องแสดงตัว ต้องกล้าเปิดตัวให้สังคมรู้ ไม่ใช่กลัวหัวหด จริงมั้ย ทำไมคนจงรักภักดีต้องกลัว ก็แปลว่าคนไม่จงรักภักดีกำลังข่มคนจงรักภักดีใช่มั้ย วันนี้คนชั่วครองเมืองใช่หรือเปล่า อาจจะเป็นเพราะคนชั่วครองเมือง คนดีก็เลยกลัวคนชั่ว แต่ผมไม่กลัว ไม่เคยกลัว และจะไม่กลัวด้วย นอกจากไม่กลัวแล้วผมก็กล้าเดินไปเจอ

ถาม : สุดท้ายแล้วคิดว่ากปปส.จะได้รับชัยชนะไหม

ตอบ : (นิ่งคิด) บอกตรงๆ นะ ผมมีความเห็นแค่ว่าควรแนวคิดการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่จะชนะมั้ย ผมไม่รู้หรอก สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการดำเนินการกับการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปปฏิรูปเคลื่อนไหวกับเขา แต่คิดว่าทำในสิ่งที่ดีก็น่าจะชนะ ความดีน่าจะชนะ

ถาม : อยากให้คนไทยจดจำชื่อพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนาอย่างไร

ตอบ : ผมไม่ได้ต้องการให้ใครจดจำ ผมทำวันนี้ แม้ประสบความสำเร็จ ภาคภูมิใจก็ที่ผมคนเดียว ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อคนอย่างผม คนไทยจะรู้จักชื่อคนอย่างผมยังไง ผมไม่รู้ผมต้องการให้คนไทยในปัจจุบันและอนาคตจำไว้อย่างเดียวคือจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าได้เนรคุณต่อสถาบัน แล้วธำรงไว้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ไม่เคยทอดทิ้งคนไทย ผมต้องการให้จำอันนี้ ไม่ต้องการให้คนจำชื่อผม ผมไม่ต้องการให้จำชื่อเหรียญทอง แน่นหนา คนอย่างผมให้มันหายจากประวัติศาสตร์ไป แต่ให้ทุกคนนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อย่าไปทำชั่วร้ายกับพระองค์ท่าน

"ผมจะรบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว"พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา