posttoday

ย้อนรอยน้ำตา"ยิ่งลักษณ์"

14 มีนาคม 2557

ภาพนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้ำตาคลอระหว่างการให้สัมภาษณ์หรือระหว่างการปฏิบัติหน้าที่กลายเป็นภาพชินตา

ภาพนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้ำตาคลอระหว่างการให้สัมภาษณ์หรือระหว่างการปฏิบัติหน้าที่กลายเป็นภาพชินตา ยิ่งในภาวะที่ถูกบีบคั้นรอบด้าน โดยเฉพาะเวลานี้กับการเคลื่อนไหวของ กปปส.ไล่เรียงช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมาหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ ยิ่งลักษณ์ สะเทือนใจถึงขั้นต้องเสียน้ำตา อาทิ

1.ล่าสุด วันที่ 13 มี.ค. 2557 ระหว่างการลงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น กับคำถามผู้สื่อข่าว “กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลทำไมถึงมีความเกลียดชังคนในตระกูลชินวัตร” นายกฯ ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาคลอ ว่า “คนไทยทุกคนจะเป็นผู้พิจารณาว่าตระกูลชินวัตรเป็นอย่างนี้เชียวหรือ ...คุณจะบอกว่าจะต้องไม่มีตระกูลนี้จากประเทศไทย หรือคุณจะเป็นกันอย่างนี้แล้ว”

2.วันที่ 12 มี.ค. 2557 จ.ชัยภูมิ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ชี้ขาดว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ และประชาธิปัตย์กำลังจะยื่นถอดถอนนายกฯ และ ครม.ออกจากตำแหน่ง นายกฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องนี้ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า

“วันนี้ดิฉันก็เจอทุกรูปแบบแล้วล่ะ ...อยากให้มองที่เจตนาก็อย่ามองใช้ข้อกฎหมายเป็นข้อที่จะลิดรอนหรือเป็นข้อที่จะตัดสิทธิทุกคน”

3.วันที่ 26 ก.พ. 2557 ท่ามกลางกระแสกดดันรุนแรงจาก กปปส.ที่เคลื่อนไหวขับไล่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจลดแรงเสียดทานด้วยการพาคณะไปปฏิบัติภารกิจภาคเหนือ ทันทีที่ถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ยิ่งลักษณ์ ถึงกับหลั่งน้ำตากับกำลังใจที่ประชาชนมอบให้

4.วันที่ 24 ก.พ. 2557 ในช่วงที่ กปปส.ปรับแผนเคลื่อนไหวมาโจมตีธุรกิจในเครือชินวัตร นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ปฏิบัติภารกิจ จ.สระบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวกดดันธุรกิจในเครือชินด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า ว่า

“ดิฉันเองก็อยู่วันนี้เพื่อรักษาประชาธิปไตย หลายคนก็ออกมาบอกให้ดิฉันลาออก แต่ว่าการลาออกนี้เป็นคำตอบหรือเปล่า แต่ถ้าการลาออกนี้เป็นการเปิดทางให้เป็นสุญญากาศ และเพื่อเปิดทางให้ฉีกรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ดิฉันจะทำได้อย่างไร”

5.วันที่ 10 ธ.ค. 2556 หลังตัดสินใจประกาศยุบสภาลดแรงเสียดทานจากการชุมนุมของ กปปส. แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังเคลื่อนไหวขับไล่นายกฯ ออกจากตำแหน่งนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่สโมสรกองทัพบก

“ถึงขนาดจะไม่ให้เหยียบแผ่นดินไทยเลยหรือ เราจะเป็นกันอย่างนี้หรือ ดิฉันก็ถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว” ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะหันหน้ากลับออกไปจากโพเดียมในทันที

ทว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตารอบนี้ ยิ่งลักษณ์ กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์เมื่อมีภาพอีกมุมแสดงให้เห็นว่า นายกฯ หันมายิ้มให้กับทีมงานด้านหลังหลังจากตอบคำถาม

6.วันที่ 30 พ.ย. 2556 ช่วงที่มีกระแสข่าวว่า บุตรชายนายกฯ ถูกลูกหลงการเมือง มีผู้ปกครองบุกไปเป่านกหวีดใส่บุตรชายที่โรงเรียน แม้ต่อมาทางโรงเรียนจะชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง แต่ครั้งนั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ถ้าใครมีลูกก็คงเข้าใจ ถ้าไม่พอใจก็มาลงที่แม่เถอะค่ะ อย่าไปลงกับเด็กเลย”

7.วันที่ 4 พ.ย. 2556 ช่วงที่เสียงคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เริ่มรุนแรงขึ้น กลุ่มญาติวีรชนจากเหตุการณ์ปี 2553 จำนวน 24 ครอบครัว เข้าให้กำลังใจนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมสนับสนุนการเดินหน้ากฎหมายล้างผิดเหมาเข่งฉบับนี้ นายกฯ ได้เข้าไปทักทายพร้อมน้ำตาพูดคุยพร้อมจับมือโอบกอดกับครอบครัวญาติวีรชนที่เสียชีวิต

8.วันที่ 27 ต.ค. 2554 ช่วงที่ “มหาอุทกภัย” บานปลายหนักกว่าที่รัฐบาลจะรับมือไหว นายกฯ ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือถึงเหตุการณ์นี้ด้วยเสียงสั่นว่า “ไม่ท้อ” พร้อมพยายามฝืนหัวเราะ

9.วันที่ 5 พ.ย. 2554 นายกฯ ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย “ขอยืนยันว่าดิฉันไม่เคยท้อถอย เพราะรู้ว่าทุกครั้งที่ท้อถอยก็มีกำลังใจจากประชาชน” ยิ่งลักษณ์ กล่าวกับชาวบ้านพร้อมน้ำตา

10.วันที่ 21 พ.ค. 2554 ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่เปิดตัวในฐานะเบอร์ 1 สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ณ เวทีปราศรัยใหญ่ สนามกีฬา 700 ปี เชียงใหม่ “ไม่เคยกลับบ้านครั้งไหนซึ้งใจเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย น้องสาวกลับยังขนาดนี้ ถ้าพี่ชายกลับจะขนาดไหน” ยิ่งลักษณ์ พูดด้วยน้ำตาคลอ

ร้องไห้กลไกปกป้องตัวเอง

ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาภิเษกกล่าวว่า กรณีนายกฯ ร้องไห้น้ำตาคลอระหว่างให้สัมภาษณ์เป็นกลไกพื้นฐานในการปกป้องตนเองจากการถูกกดดันของมนุษย์ แต่ที่ผ่านมามีความชัดเจนแล้วว่า นายกฯ ไม่ทำการบ้านก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าตัวเองมีประสบการณ์ทางการเมืองน้อย

"ไม่ใช่ว่าผู้นำทางการเมืองร้องไห้ไม่ได้นะร้องได้ หากถูกกดดันเต็มที่ อย่างที่เห็นได้จากนายทหารของมาเลเซียที่ถูกสื่อตั้งคำถามกรณีที่ไม่สามารถหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สพบก็มีอาการน้ำตาคลอ แต่เราก็ไม่รู้สึกถึงความไม่เป็นผู้นำของเขา แต่นายกฯ ของเรามีต้นทุนในการเป็นผู้นำไม่เพียงพอ ไม่วุฒิภาวะของความเป็นผู้ใหญ่ ไม่สามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์แก่ปะชาชนได้" ทิชา กล่าว

ภูมิธรรม เวชชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การที่นายกฯ น้ำตาคลอหลายครั้งในระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่เป็นความอึดอัดคับข้องใจที่ทำอะไรไม่ได้ และที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยบ่นท้อ แถมยังให้กำลังใจสมาชิก ให้ทุกคนเคารพหลักการ ยึดหลักประชาธิปไตย ลดการเผชิญหน้า และไม่ใช้ความรุนแรง