"อกหัก...เราขอ"ของขวัญคน(เคย)รักเพื่อการกุศล

โดย...โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะรุ่มร้อนแค่ไหน เศรษฐกิจชะลอตัวเพียงใด คนไทยก็ยังคงให้ความสำคัญกับวันที่ 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์อยู่เสมอ เพราะถือว่าเป็นโอกาสพิเศษแห่งปีที่จะสร้างความประทับใจสุดซึ้งให้แก่คนที่เรารัก

ปีนี้ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่าของขวัญที่คนหนุ่มสาวนิยมมอบให้แก่กันหนีไม่พ้นการพาไปดินเนอร์นอกบ้าน ช็อคโกแลต เสื้อผ้า เครื่องประดับ ดอกไม้ ตามมาด้วยตุ๊กตา

รู้หรือไม่ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป วัตถุทางใจเหล่านั้นอาจถูกวางหลงลืมไว้จนฝุ่นจับ บ้างความรักหมดอายุของขวัญที่เคยล้ำค่ากลายเป็นหนามทิ่มแทงยามหันไปเจอ จนหลายคู่ทนไม่ไหวต้องส่งคืนกันให้วุ่นวาย สุดท้ายถูกเขวี้ยงทิ้งลงถังขยะด้วยความชอกช้ำ

ล่าสุด "มูลนิธิกระจกเงา" ได้ผุดไอเดียเก๋ๆต้อนรับกระแสเทศกาลแห่งความรัก ด้วยการออกแคมเปญชื่อ "อกหัก...เราขอ" เจาะกลุ่มเป้าหมายคู่รักหวานชื่นที่นิยมมอบให้ของขวัญแก่กันทุกปีแต่วางทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และหนุ่มโสดสาวโสดไร้คู่ทั้งหลายที่ต้องการจะลืมความหลังครั้งเก่า เปลี่ยนความเศร้าเป็นความสุขที่ได้ทำบุญ ด้วยการบริจาคของขวัญเหล่านั้นเพื่อไปนำไปขายเอาเงินเข้าการกุศล

สุธิตา หมายเจริญ เจ้าหน้าที่สื่อสารการตลาดเพื่อสังคม มูลนิธิกระจกเงา เล่าว่าไอเดียนี้คิดขึ้นเพื่อรองรับกระแสวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะ ได้รับความนิยมเกินคาด เห็นได้จากการยอดแชร์ถล่มทลายกว่า 6,000 ครั้งในโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์

"เรามองเห็นว่าวันวาเลนไทน์ของทุกปีจะมีคู่รักเป็นจำนวนมากนิยมซื้อของขวัญมอบให้กัน ไม่ว่าตุ๊กตา เครื่องประดับ หนังสือ เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา น้ำหอม และอะไรต่อมิอะไรต่างๆอีกมากมาย เวลาผ่านไปบางคนอาจเก็บไว้เป็นจำนวนมากโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ เราก็อยากขอรับบริจาคของขวัญเหล่านั้นเพื่อนำขายเอาเงินไปช่วยเหลือในการกุศลต่างๆของมูลนิธิ

ตอนนี้มีคนแสดงความประสงค์ที่จะบริจาคมาไม่ต่ำกว่า 100 รายแล้ว ไม่เฉพาะคนอกหักเท่านั้น อกไม่หักก็บริจาคได้ ส่วนใหญ่เป็นของขวัญของคู่รักที่ยังรักกันดีอยู่ด้วยซ้ำ แม้จะมีคุณค่าทางจิตใจแต่เขาก็ได้ประเมินแล้วว่าไม่ได้ใช้งานแต่ยังอยู่ในสภาพดี เลยเอามาทำบุญดีกว่า เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ตุ๊กตา สมุด หนังสือ เครื่องประดับพวกสร้อยคอ แหวนที่ราคาไม่แพงนัก"

แคมเปญนี้เปิดรับตลอดปี 2557 ของทั้งหมดที่ได้รับบริจาคจะเข้าสู่ร้านแบ่งปัน จำหน่ายระดมทุนเพื่อนำรายได้เข้าสู่กองทุนแบ่งปัน สนับสนุนการทำงานของ โครงการอาสามาเยี่ยม และโครงการโรงพยาบาลมีสุข มูลนิธิกระจกเงา

ชาตรี เขตเขาเม็ง หนุ่มวัย 26 ปี เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแคมเปญดีๆแบบนี้ เขาบอกว่าของขวัญประเภทจากคนรักเก่าน่าจะมีเยอะ ในสังคมที่ผู้คนนิยมมอบความรักกันแบบฉาบฉวย

"ผมเห็นมาหลายคู่แล้วที่พอจีบกันใหม่ๆก็ซื้อโน่นซื้อนี่ให้เต็มไปหมด พอเลิกกันก็ตามมาทวงคืนหากของขวัญนั้นเป็นของที่มีราคา เช่น แหวน สร้อยคอ รองเท้า บางคู่โกรธกันก็เอาของไปทำลาย ไปเผาทิ้ง เสียดายครับ

สำหรับผมของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ดีที่สุดคือการนัดไปกินข้าว เจอกัน มองตากัน สัมผัสกัน มันมีความสุขทางใจมากกว่าวัตถุภายนอกที่เราไม่อยากได้ พอได้มาก็กลายเป็นภาระอีก"

ศรีเสาวลักษณ์ กิจพ่อค้า พนักงานบริษัทเอกชนสาว วัย 25 บอกว่าของขวัญทุกชิ้นมีค่าต่อจิตใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสุดท้ายก็ต้องทิ้งอยู่ดี

"ไม่ทิ้งปีนี้ ปีหน้าก็ต้องทิ้ง ปีหน้าไม่ทิ้ง.. ปีถัด ๆ ไปก็ต้องมีซักวันที่บ้านเราไม่มีที่พอจะเก็บของ สุดท้าย ของเก่า ก็ต้องถูกทิ้งออกไป เหลือเพียงแค่ความทรงจำ"

ขณะเดียวกัน ความคิดเห็นน่าสนใจของชาวเน็ตที่มีต่อของขวัญวันวาเลนไทน์ก็ล้วนน่าสนใจ มีทั้งคมคายและแสบๆคันๆ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักได้ดี

เฟซบุ๊กที่ชื่อ Surat Zunk บอกว่า "ดีจังครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับความรัก แต่สิ่งของแทนใจมันไม่มีความผิด อย่าเผา อย่าทำลายรึทิ้งขว้างเลยครับ สู้เอามาบริจาคแบบนี้ดีกว่า ได้บุญกุศลที่จะส่งให้เจอคนดีๆเองครับ"

Topsky Swa บอกว่า "อย่าทิ้ง อย่าเผา อย่าเก็บไว้ ของจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเราให้คนอื่นๆที่เขาอยากได้ เพื่อให้น้องๆมีความสุข....และผลบุญจะส่งให้ท่านทั้งหลายมีความสุข และสมหวังในฐานะเป็นผู้อันของที่เรามีความทรงจำ"

Rommy Partygirl "มีแต่หนี้ที่มันเหลือไว้ให้"

แม่เปิ้ลจอมดุ กับ เจ้าเจจอมดื้อ "อยากบริจาคแต่ไม่เคยได้ของเลยอ่ะตอนคบกัน 5555"

Mercury Rose "ไม่ได้อกหัก บริจาคได้มั้ยค่ะ"

Ooye Cld "ขอแชร์นะคะ ไม่มีแฟนให้อกหักค่ะขอบริจาคเสื้อผ้าค่ะ"

Zom Oh "เผาส่งให้มันไปละ"

ฯลฯ

แคมปญเจ๋งๆแบบนี้ อกหัก หรือรักหวานชื่นก็สามารถบริจาคกันได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา (อกหักเราขอ) เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี 62 (แยก4-7) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลอดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.10210 สอบถามโทร 02-973-2236 ถึง 7