posttoday

เบื้องลึกทำไม"มิ่งขวัญ"ลาออกเพื่อไทย?

19 ธันวาคม 2556

คนในพรรคทราบดีว่าเคสมิ่งขวัญคือบทเรียนสำคัญเตือนใจสมาชิกพรรคว่าหากกล้าแข็งข้อกับ “นายใหญ่” ก็หนีไม่พ้นโดน “ดองไก่ให้ลิงดู”

โดย...ทีมข่าวการเมือง

การประกาศลาออกจากพรรคเพื่อไทยของ  “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายนัก เพราะหลังจากถูกพักอนาคตแบบถาวร โดนแช่ดองบนที่นั่ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 6 มาช้านาน หลายคนคาดการณ์ไว้แล้วว่าเลือกตั้งสมัยหน้าอย่างไรเสีย “มิ่งขวัญ” ก็ต้องอำลาตำเเหน่งในพรรคเพื่อไทย เพียงแต่การชิงยุบสภาของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ทำให้การลาออกครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมเท่านั้น

แม้ให้เหตุผลว่าต้องการเว้นวรรค พักผ่อน แต่คนในพรรคทราบดีว่าเคสมิ่งขวัญ คือ บทเรียนสำคัญเตือนใจสมาชิกพรรคว่าอย่าริอ่านวัดบารมีกับขั้ว “ชินวัตร” เพราะแม้จะเก่งกาจสักเพียงใด แต่หากกล้าแข็งข้อกับ “นายใหญ่” ก็หนีไม่พ้นโดน “ดองไก่ให้ลิงดู” อย่างที่เห็น             

ทั้งนี้เดิมต้องยอมรับว่า อดีตเจ้าพ่อ อสมท.ผู้นี้ มีความสามารถเป็นนักการตลาด ประชาสัมพันธ์ชั้นเซียน จบการศึกษานิติศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มงานจากฝ่ายขายกับบริษัท โตโยต้า มอเตอรส์ ประเทศไทย จำกัด ทำผลงานเยี่ยมไต่เต้าเลื่อนลำดับ จนกระโดดไปนั่งเก้าอี้ ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และกรรมการบริหารของบริษัท เขายังใช้ความถนัดด้านการตลาดเริ่มหันเส้นทางเข้าสู่แวดวงการเมือง โดยเข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว ช่วยงาน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.คลัง ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าแคมเปญตลาดเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ เทศกาลตรุษจีนไชนาทาวน์เยาวราช เเละหลายโครงการ ล้วนมีชื่อ มิ่งขวัญ ในฐานะที่ปรึกษาเเละนั่งเป็นบอร์ดการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทยเป็นผู้ปลุกปั้นแทบทั้งสิ้น       

ต่อมาได้ดิบได้ดี นั่งเก้าอี้ ผอ.องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.) มิ่งขวัญ สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงแปลงแดนสนธยา ช่อง 9 อสมท.กลายเป็น “โมเดิร์นไนน์ทีวี” จนเป็นที่รู้จักจวบจนวันนี้ ที่สุดนำไปสู่การแปรรูป เป็นบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) และระหว่างนี้เอง มิ่งขวัญ ยังเคยปรับรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ของ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กระเด็นพ้นผังช่อง 9 หลังจากมีเนื้อหารายการโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในขณะนั้น  

ในค่ำคืนของการรัฐประหาร กันยาฯ ปี 49 โมเดิร์นไนน์ทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์เพียงช่องเดียวที่กล้าออกอากาศแบบฝ่าดงปืน เผยแพร่การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อดำเนินการกับคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ถูกชิงตัดภาพและเสียงจนในที่สุดการรัฐประหารประสบผลสำเร็จ จากนั้นมิ่งขวัญตัดสินใจลาออกจากกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ อสมท.ในวันที่ 27 ก.ย.2549

หลังลาออกจากโมเดิร์นไนน์ มิ่งขวัญ ลงสนามการเมืองเต็มตัว เป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ของพรรคพลังประชาชน ก่อนจะสอยเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ และ รมว.อุตสาหกรรมในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก่อนจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน หลังจากนั้นเหตุการณพลิกขั้วสลับค่าย เนวิน ชิดชอบ ขนลูกทีมร่วมจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยกลายเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

แม้เป็นฝ่ายค้านในสภา แต่ มิ่งขวัญ ยังมีบทบาทเด่น เป็นผู้นำการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีรายชื่อเขาเสนอแนบท้ายเป็นนายกรัฐมนตรี แทน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และค่ำคืนการสรุปการอภิปรายเขาประกาศก้องกลางสภา ขออาสาเป็นนายกฯ คนถัดไปของประเทศ เปล่งเเสงโดดเด่นจนทิ่มเเทงตาใครหลายคนในพรรค  

ถึงกระนั้นต่อมาปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทย และสายชินวัตร เคาะตัว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ถูกวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป ปรากฏว่า มิ่งขวัญ เริ่มใช้กำลังภายในชวนสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อการแยกตัวจากพรรค ทั้งเดินสายพบ เสนาะ เทียนทอง ประหนึ่งหวังสร้างกลุ่มต่อรองอำนาจกับขั้วชินวัตรในพรรคเพื่อไทย นอกจากนั้นยังมีข่าวลือหนาหูว่าเตรียม ขน สส.ไปร่วมกับ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  เเต่ไม่ว่าแผนการใดล้วนถูก “นายใหญ่” เตะสกัดทุกทาง 

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่าบทเรียนอันเป็นที่ฝังใจทิ่มแทง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สุด คือเกิดขบวนการ สส.งูเห่าค่ายเนวินหักหลังไปจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นหากเกิดสัญญาณมีผู้เริ่มตั้งกลุ่ม ฟอร์มทีม แข็งข้อกับขั้วชินวัตรเมื่อใด ผู้นั้นล้วนมีอันเป็นไปทางการเมืองทั้งสิ้น และยิ่งเดินแผนการที่ดันเบ่งบารมีเเข่งกับ ยิ่งลักษณ์ และท้าทายอำนาจสายชินวัตรแล้ว ยิ่งดับทางอนาคตตัวเองแบบไม่ได้ผุดได้เกิด

จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของไทย มิ่งขวัญ กลายเป็นแค่ สส.บัญชีรายชื่ออันดับ 6 ของพรรค ไม่เท่านั้นเขายังถูกเขี่ยพ้นงานระดับยุทธศาสตร์ของพรรค ไร้ชื่อเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ หรือหัวหน้าทีมคิดนโยบาย และกลายเป็นตัวเลือกนอกสายตาทุกครั้งที่มีการปรับที่นั่งเสนาบดีหลายต่อหลายครั้ง บทบาทของเซียนการตลาดผู้นี้จึงค่อยๆ หดหายจากพรรคเหลือแค่เงาในผังที่นั่ง สส.บัญชีรายชื่อ

นอกจากนั้นปรากฏว่าในการลงมติร่างกฎหมายสำคัญหลายครั้งของ สส.พรรคเพื่อไทยที่มีสมาชิกเข้าร่วมพร้อมเพรียง แต่กลับขาดเสียงจาก มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ในการออกเสียงโหวต โดยเฉพาะกรณีลงมติกฎหมายระดับยุทธศาสตร์พรรคอย่าง ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มา สว.ในวาระ 3 โดยเขาอ้างว่าเนื่องจากป่วย กะทันหัน จึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้    

สัญญาณแตกจากพรรคปรากฏเด่นชัดขึ้นหลายครั้ง ประกอบกับการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในช่วงจังหวะอันมีที่นั่งสุดแสนจำกัด คนเก่าคนแก่ของพรรคจากบ้าน 109 -111 เดินกันว่อนตึก ในที่สุด มิ่งขวัญ จึงชิงประกาศไม่ลงสมัคร สส.พรรคเพื่อไทย พร้อมตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ตัดทางตัวเองล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะมาถึง