posttoday

รู้จักตัวตน "ปลอดประสพ สุรัสวดี"

22 พฤศจิกายน 2556

“ผมเป็นครอบครัวอำมาตย์นั้นแน่นอน ตัวก็เป็นปลัดกระทรวง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็ได้ ถ้าเป็นสมัยโบราณก็ต้องเรียกผมว่าเป็นเจ้าคุณ เป็นพระยา”

โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ผู้สร้างสีสันการเมืองท้าตีท้าต่อยกับภาคประชาชนจนเป็นเป้าของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไปเจอดีที่พิษณุโลกจนแก้วหูแทบแตกกับเสียงนกหวีดของมวลชนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำวังชมพู จนต้องวิ่งหนีกลับกรุงเทพฯ ท่ามกลางการควบคุมดูแลของตำรวจปราบจลาจลแน่นสนามบินพิษณุโลก เมื่อวันก่อน

ทำให้นึกถึงหลายๆ คนที่เคยรู้จักตัวตนของปลอดประสพที่บอกว่า ถ้าจะฟังอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวจากปลอดประสพ ก็ขอให้ฟังหูไว้หู แต่ถ้าจะฟังปลอดประสพคุยโตโอ้อวด ก็ขอให้ฟังอย่างวิชาคณิตศาสตร์ คือ เอาพันหารเอาล้านลบ จึงน่าจะมาทำความรู้จักกับปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้มีสีสันคนนี้ดู

ปลอดประสพ สุรัสวดี เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปี 2488 ณ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เป็นบุตรของหลวงอนุการนพกิจ กับคุณหญิงกรองทอง สุรัสวดี (หัสดินทร) ปลอดประสพเคยสัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่งว่า ในวันที่ตัวเองเกิดนั้น ตึกสูตินรีที่โรงพยาบาลศิริราชโดนระเบิด จากมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 เด็กที่เกิดในวันเดียวกันกับตนนั้นตายเรียบ มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่รอดตายอยู่คนเดียว พ่อจึงตั้งชื่อให้ว่า “ปลอดประสพ”

แต่เมื่อได้ไปค้นประวัติความเป็นมาของโรงพยาบาลศิริราชแล้ว ปรากฏว่าตึกสูตินรี โรงพยาบาลศิริราช โดนระเบิดในช่วงเวลาที่ปลอดประสพกล่าวอ้างจริง แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้ใดเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ปลอดประสพจึงไม่ได้รอดแต่เพียงผู้เดียว

ปลอดประสพ สุรัสวดี จบการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จบปริญญาตรีด้านประมง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จบปริญญาโทด้านบริหารการประมง จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สหรัฐอเมริกา จบปริญญาเอกทางนิเวศวิทยา จากมหาวิทยาลัยมานีโตบา ประเทศแคนาดา

ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับนางธัญญา สุรัสวดี (สกุลเดิม ประชาศรัยสรเดช) มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ นายปิ่นสาย สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล กรมสรรพากร และ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน และมีศักดิ์เป็นอาของ จรัสพงษ์ สุรัสวดี หรือ ซูโม่ตู้ นักแสดงชื่อดัง

รู้จักตัวตน "ปลอดประสพ สุรัสวดี"

ปลอดประสพ สุรัสวดี รับราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทั่งได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมประมง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและฟื้นฟูทะเลไทย เป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) และเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ต่อมาได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในปี 2548 ปลอดประสพได้เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากที่คณะกรรมการของคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ พิจารณาว่าปลอดประสพไม่มีความผิดทางวินัยจากอนุมัติการส่งออกเสือโคร่ง 100 ตัวไปยังประเทศจีน แม้ว่าก่อนหน้านั้นคณะกรรมการของ พ.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย จะวินิจฉัยว่าปลอดประสพมีความผิดก็ตาม ในปีต่อมาปลอดประสพดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ตามลำดับ

สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งปลดปลอดประสพออกจากราชการในวันที่ 15 ธันวาคม ปี 2550 และให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ปี 2548 โดยการชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในกรณีที่ปลอดประสพได้ลงนามอนุมัติคำขอส่งออกเสือโคร่ง 100 ตัว ของบริษัทสวนเสือศรีราชา (ศรีราชา ไทเกอร์ ซู) ไปยังสวนสัตว์ซอนยาประเทศจีน ซึ่ง ป.ป.ช. ได้พิจารณาว่าเจตนาดังกล่าวไม่ได้เป็นไปเพื่อการวิจัยตามกล่าวอ้างและถือเป็นความผิดขั้นร้ายแรง

อย่างไรก็ดีในภายหลัง ปลอดประสพได้นำ พ.ร.บ. ล้างมลทิน ปี 2550 เพื่อขอใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชาชน และต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (นายสมัคร สุนทรเวช) ภายหลังได้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาว่า พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2550 มาตรา 6 ระบุมิให้ลงโทษกับผู้ซึ่งได้รับการลงโทษหรือได้รับพิจารณาว่าไม่มีความผิดไปแล้ว ซึ่งในกรณีนี้ ปลอดประสพเคยได้รับการพิจารณาว่าไม่มีความผิด และนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ให้ความเห็นชอบและยุติเรื่อง

ต่อมาปลอดประสพได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งปี 2554 ก่อนได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปี 2554 และได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 2555

ปลอดประสพ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้อำนวยการคนแรกของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดยรับผิดชอบในแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวทางทะเลของไทยภายหลังภัยพิบัติคลื่นสึนามิ เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) และเป็นผู้ก่อตั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า หน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ได้ว่าจ้าง บริษัทซึ่งมีภรรยา บุตร และอดีตเลขานุการของปลอดประสพ เป็นที่ปรึกษา ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงเดือนเมษายน ปี 2554 ไม่น้อยกว่า 40 โครงการกว่า 200 ล้านบาท โดยมีการโอนหุ้นจากภรรยาให้บุตรชายคนโต (รับราชการกรมสรรพากร) เพื่อให้เป็นไปตามคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีที่บัญญัติรัฐมนตรีและคู่สมรสถือครองหุ้นเกิน 5% ของทุนจดทะเบียน และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน

จากหลักฐานการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของ ปลอดประสพ สุรัสวดี ภรรยาของปลอดประสพได้ปล่อยเงินกู้ให้บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของตนเอง แต่ออกเช็ค 2 ฉบับอีก 2-3 ปีถัดมา โดยไม่ปรากฏหนังสือสัญญาการกู้เงิน และคิดดอกเบี้ยการกู้ยืม

นอกจากนี้ ปลอดประสพ สุรัสวดี ถือครองที่ดินมากที่สุดในคณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชุดปัจจุบัน รวมมูลค่า 807,542,000 บาท

รู้จักตัวตน "ปลอดประสพ สุรัสวดี"

เมื่อปลอดประสพ สุรัสวดี ได้รับมอบหมายจาก ยิ่งลัษณ์ ชินวัตร ให้เป็นผู้กำกับดูแลงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านบริหารจัดการน้ำทั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมืออาชีพว่า ฝีมือและประสบการณ์ของ ปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นแค่เพียงผู้บริหารน้ำในตู้ปลา

แม้ ปลอดประสพ สุรัสวดี จะไม่มีความผิดทางวินัย แต่ปลอดประสพ สุรัสวดี ก็ถูกพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก็ยื่นฟ้องให้เป็นจำเลยในคดีอาญา ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลอาญามาตรา 157 กรณีส่งเสือ 100 ตัวขายจีน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ปี 2555 จำเลยให้การปฏิเสธพร้อมใช้เงิน 200,000 บาท ประกันตัวไป

ปลอดประสพ สุรัสวดี จึงยังมีคดีติดตัวอยู่ที่ศาลและรอคำพิพากษาอยู่

ปลอดประสพ สุรัสวดี เคยพูดถึง สาแหรก ความเป็นมาของตนอย่างภาคภูมิใจว่า ปู่ของตนนั้นเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนที่ 24 และต้นตระกูลสุรัสวดี เป็นหลวงยกกษัตร รั้งเมืองดินแดงแถบนางรอง บุรีรัมย์ และหลวงอนุการนพกิจผู้เป็นพ่อ เคยเขียนหนังสือให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “จอมพลพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ต้นราชสกุล จิระประวัติ”

ปลอดประสพ บอกด้วยว่า “ผมเป็นครอบครัวอำมาตย์นั้นแน่นอน ตัวก็เป็นปลัดกระทรวง ตำแหน่งสูงสุดในข้าราชการพลเรือน....เครื่องราชอิศริยาภรณ์ก็ได้ ถ้าเป็นสมัยโบราณก็ต้องเรียกผมว่าเป็นเจ้าคุณ เป็นพระยา....” ทั้งยังบอกเล่าผ่านบทเพลงของท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์ ที่ว่า “เป็นผู้ดีก็เพราะกรรมที่ก่อมา ใช่กำเนิดหรูหราอย่าฉงน”

อ่านประวัติและพฤติกรรมของปลอดประสพ สุรัสวดี แล้วไม่รู้ว่าพอจะซึมซับความเป็นผู้ดีกันบ้างมากน้อยแค่ไหน ช่วยกันตอบที!