posttoday

นกหวีดสร้างชีวิตเป่าปรี๊ดอู้ฟู่

13 พฤศจิกายน 2556

ทุกครั้งที่มีการชุมนุมหรือปลุกระดมเรียกร้องทางสังคม การจัดหาอุปกรณ์ชุมนุมถือเป็นส่วนสำคัญที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของกลุ่มนั้นๆ

นกหวีดสร้างชีวิตเป่าปรี๊ดอู้ฟู่
โดย...ทีมข่าวการเมือง

ทุกครั้งที่มีการชุมนุมหรือปลุกระดมเรียกร้องทางสังคม การจัดหาอุปกรณ์ชุมนุมถือเป็นส่วนสำคัญที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของกลุ่มนั้นๆ

“นกหวีด” เป็นอุปกรณ์ของฝ่ายคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนถูกขนานนามว่า “ม็อบนกหวีด” ปรี๊ด ปรี๊ด ต่างจากม็อบก่อนหน้านี้กลุ่มเสื้อเหลืองใช้ “มือตบ” ขับไล่รัฐบาลนอมินีทักษิณ ส่วนคนเสื้อแดงใช้ “ตีนตบ” ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดนกหวีดในพื้นที่การชุมนุมตลอดถนนราชดำเนินกลาง พบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าออกมาขายนกหวีดหลายแบบ จนตอนนี้ขึ้นแท่นขายดิบขายดีทุกคนต้องมีติดตัว ส่วนเรื่องราคามีหลายระดับ แม่ค้ารายเดิมบอกว่า ราคาจำหน่ายปลีก “นกหวีด” จะอยู่ที่ 15 ชิ้น 139 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 8 บาทกว่า บางรายขายเป็นกิโลกรัมละ 180-200 บาท ส่วน “นกหวีดพลาสติก” ใช้สำหรับการเรียน คละสี 12 ชิ้น ราคา 48 บาท

นอกจากนี้ “นกหวีด” ในม็อบค้านนิรโทษกรรมนี้ ยังมีแบบแปลกๆ

ไล่เรียงไปตั้งแต่นกหวีดดั้งเดิม รูปแบบสายฟ้าที่ออกมาสร้างสีสันก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะเป่ากันแถวหน้าเวที เมื่อม็อบจุดติด การตลาดก็ปรับกลยุทธ์ผลิตนกหวีดสีสันเหมาะกับวัยรุ่น คนชั้นกลางหลากหลาย เช่น นกหวีดรูปตัวการ์ตูนโดราเอมอน นกหวีดรูปตัวการ์ตูนอีโม่คละสี นกหวีดลวดลายลูกฟุตบอล นกหวีดแบบมีเฟืองมีสีสัน นกหวีดแบบเสื้อยืดสีเหลือง นกหวีดแบบลิ้นมังกร นกหวีดแบบธรรมดามีลวดลายเล็กน้อย ส่วนเรื่องราคาตกอันละ 2030 บาท ตามรูปแบบ

ต๋อย พ่อค้าขายนกหวีดเล่าว่า เริ่มขายตั้งแต่วันที่สองของการชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน โดยรับของมาจากร้านค้าส่งย่านสำเพ็ง ปัจจุบันนำมาจำหน่ายแล้ว 200 โหล เป็นนกหวีดประเภทธรรมดา ขายปลีกราคา 20 บาทต่ออัน แต่ร้านค้าส่งที่ไปรับมาได้นำเข้าสินค้าลิขสิทธิ์การ์ตูนโดราเอมอน จึงนำมาจำหน่ายโดยมีลูกค้าซื้อสินค้าไปและถ่ายภาพโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ต่อมาจึงมีผู้มาซื้อนกหวีดโดราเอมอนมากขึ้น

“แม้ว่านกหวีดลายโดราเอมอนจะมีราคา 30 บาทต่ออัน แต่ผู้มาชุมนุม ก็สนใจซื้อมาก คาดว่าน่าจะขายได้กว่า 1,000 อัน เนื่องจากสินค้ามีจำนวนจำกัด ปัจจุบันร้านค้าส่งก็ไม่มีสินค้าแล้ว เพราะเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ คิดว่าตลาดนกหวีดที่มาขายในงานชุมนุมครั้งนี้ น่าจะมีมูลค่าระดับ 100 ล้านบาท เพราะมีร้านค้าจำนวนมากและทุกร้านก็ขายดี นอกจากนี้ร้านค้าส่งจากสำเพ็ง ก็ยังมาเปิดจุดขายส่ง ทำให้สะดวกกับการซื้อเพื่อขายต่อ” ต๋อย กล่าว

อีกราย ดวงนภา กล่าวว่า ได้สรรหานกหวีดลายแปลกๆ ซึ่งเป็นรูปเสื้อสีเหลืองมาจำหน่าย เพื่อสร้างความแตกต่างจากร้านค้าทั่วไปที่จำหน่ายนกหวีดรูปทรงปกติเป็นหลัก ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ชุมนุม แม้ว่าปัจจุบันต้นทุนราคาขายส่งนกหวีดจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังขายสินค้าประเภทอื่นด้วย อาทิ มือตบ สายรัดข้อมือ กระเป๋า เสื้อยืด เป็นต้น ในแต่ละวันมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท

ยุภา เซงเจริญ อายุ 45 ปี แม่ค้าขายนกหวีด กล่าวว่า ปกติจะขายพวกกระเป๋าแฟชั่น แต่ขายไม่ดี ช่วงนี้มีม็อบเลยเปลี่ยนมาขายนกหวีด ยอมรับว่าตกใจมากเมื่อเห็นรายได้จากการขาย เฉลี่ยต่อวัน 2,000-3,000 บาท อันละ 20 บาท แต่ช่วงนี้มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายเยอะขึ้น ทำให้รายได้ลดลงไปบ้าง ลูกค้าก็ยังซื้อนกหวีดเรื่อยๆ เพราะม็อบนี้เขาใช้นกหวีดเป็นอุปกรณ์

ขณะที่ เก๋ อิ่มใจ อายุ 40 ปี กล่าวว่า เพิ่งมาขายได้สามวัน ยอมลาออกจากงานบริษัทมาขายนกหวีดและอุปกรณ์ที่ใช้ชุมนุม ยอมรับว่าขายดีมากๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีการยกระดับชุมนุม รู้สึกเลยว่าคนมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น รายได้ต่อวันตก 3,000-4,000 บาท เพราะทุกคนที่มาชุมนุมจะต้องมีนกหวีดติดตัวด้วย แม้คนขายจะเยอะขึ้น รายได้ก็ยังคงอยู่หลักพันบาท

ชั่วโมงนี้หากไม่มีเจ้า“นกหวีด” มาคล้องคอหรือเป็นอาวุธประจำกายในการร่วมชุมนุมคงตกเทรนด์แน่นอน แต่สำหรับพ่อค้าแม่ขายนกหวีดในเวลานี้เป็นนาทีทองที่ต้องโกยให้ได้มากที่สุด