posttoday

ว.วชิรเมธี-ป.อ. ปยุตฺโตวิพากษ์"ธรรมกาย"

10 กันยายน 2556

เปิดวิทยานิพนธ์ "แนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของ ป.อ. ปยุตฺโต ผ่านผลงาน เรื่องกรณีธรรมกาย"ของว.วชิรเมธี

โดย...ทีมข่าวในประเทศ

เกิดคำถามมาตลอดถึงวัตรปฏิบัติของวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะกิจกรรมธุดงค์ธรรมชัย จากต่างจังหวัดมาสู่ในเมืองหลวงนับพันนับหมื่นรูป ซึ่งปัจจุบันยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมต่างๆ นานา

ล่าสุด ชาวเน็ตได้นำข้อมูลบางส่วนในงานวิทยานิพนธ์ของท่าน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ศึกกรณีธรรมกาย มานำเสนอในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก และเว็บพันทิป อย่างกว้างขวาง

ย้อนกลับไป 10 ปีก่อน (2546) วิทยานิพนธ์เรื่อง “แนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของ ป.อ. ปยุตฺโต ผ่านผลงาน เรื่องกรณีธรรมกาย” ซึ่ง ว.วชิรเมธี จัดทำขึ้นระหว่างศึกษาในหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ชำแหละการดำเนินงานของวัดพระธรรมกายไว้อย่างละเอียด

ตอนหนึ่งในบทที่ 4 ระบุว่า ข้อค้นพบของผู้วิจัย (ว.วชิรเมธี) ซึ่งเรียบเรียงในบทคัดย่อของวิทยานิพนธ์เล่มนี้ (ป.อ. ปยุตฺโต) ระบุไว้ว่า 1.กรณีธรรมกาย (หนังสือ) หมายถึงชื่อเรียกโดยรวมเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่างๆ ที่สำนักวัดพระธรรมกายเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้น กล่าวโดยสรุปมี 2 ลักษณะ ได้แก่ การทำพระธรรมวินัยให้วิปริต และการประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย

2.การทำพระธรรมวินัยให้วิปริตที่พบก็คือ การทำลายความน่าเชื่อถือของพระไตรปิฎก การพยายามปนคำสอนในลัทธิของตนลงไปในพระไตรปิฎก การพยายามยกย่องครูบาอาจารย์ของตนให้มีฐานะสำคัญถึงขนาดตัดสินหลักพุทธศาสนาอย่างเรื่องนิพพานได้ การพยายามชักจูงให้คนทั่วไปเข้าใจว่าบุญมีฐานะเป็นดุจสินค้าชนิดหนึ่ง เมื่อทำบุญแล้วอานิสงส์ของบุญจะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่างๆ ได้ราวปาฏิหาริย์

3.การประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัยเฉพาะประเด็นหลัก ได้แก่ การพยายามนำเอาลัทธิทุนนิยมเข้ามาผสมผสานกับการบริหารวัด การจัดตั้งองค์กร การระดมทุน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคล ทางธุรกิจ การเมือง และการศาสนา ซึ่งทำให้วัดพระธรรมกายกลายเป็นสำนักที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่วิธีการเหล่านี้เป็นพฤติการณ์ที่สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับพุทธศาสนาเถรวาทที่เน้นความเรียบง่าย

4.พฤติการณ์อันสืบเนื่องมาจากสำนักวัดพระธรรมกายทั้งหมดเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาและต่อสังคมไทยอย่างลึกซึ้งถึงรากฐาน ถ้าสำนักวัดพระธรรมกายทำสำเร็จจะส่งผลให้พระพุทธศาสนาในประเทศไทยซึ่งเป็นเถรวาทต้องสูญสิ้นไป สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมที่มีค่านิยมหวังผลดลบันดาล มัวเมาอยู่ในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และไม่อาจหลุดพ้นไปจากการครอบงำของลัทธินี้ได้

นอกจากนี้ วิทยานิพนธ์ยังได้ระบุถึงปัญหา “กรณีธรรมกาย” ส่วนที่กระทบต่อสถาบันสงฆ์และสังคมไทยในทัศนะของพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) โดยผู้วิจัย (ว.วชิรเมธี) เป็นผู้ตีความด้วยการยกอ้างทัศนะของพระธรรมปิฎกประกอบกับรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม รัฐสภา ซึ่งมีเนื้อหาสนับสนุนทัศนะดังกล่าว
รายงานของ กมธ.ดังกล่าวระบุว่า

“วัดพระธรรมกายใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการเข้าแทรกแซงและยึดครองคณะสงฆ์ไทย อาจเรียกว่า ‘กลยุทธ์ปูเสฉวน’ เพราะปูเสฉวนอาศัยอยู่ในเปลือกหอย แต่ตัวเป็นปูไม่ใช่หอย อาศัยเปลือกหอยกำบังธาตุแท้เพื่อลวงโลก ปูเสฉวนออกจากเปลือกหอยมากินเนื้อหอย หอยก็ยังไม่รู้สึกตัวจนตัวตายแล้ว”

“วัดพระธรรมกายเป็นลัทธิแปลกปลอม ไม่ใช่พระพุทธศาสนาเถรวาทแท้ของคณะสงฆ์ไทย แต่ผู้บริหารวัดร่วม 10 รูป ได้วางแผนยุทธศาสตร์และยุทธวิธีอย่างชาญฉลาด เป็นนักฉวยโอกาสชั้นสุดยอด รู้จักใช้บุคคล ช่วงจังหวะแฝงตัว กำบังตัว คืบคลานเข้ามาแทรกแซงคณะสงฆ์ไทย”

“ในเวลาเดียวกัน วัดพระธรรมกายก็พยายามชักจูงพระเณรที่มีความรู้เปรียญธรรมสูงๆ ให้มาอยู่ในวัดด้วยการใช้เงินจำนวนมาก กระทำทุกวิธีการและใช้การปลูกฝังลัทธิวิชชาธรรมกายในหมู่เยาวชนเพื่อนำไปสู่การบวชเป็นพระเณรของวัด จนทำให้ขณะนี้มีพระเณรมากที่สุดในประเทศไทย และสอบเปรียญธรรม 9 ประโยคได้ชนะทุกวัดของประเทศไทย”

“วัดพระธรรมกายจะอาศัยฐานเหล่านี้เพื่อ ‘คิดการใหญ่’ ตามแผนที่วัดประกาศเองอย่างชัดแจ้งในโครงการ ‘Dhammakaya World’ ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ชาวพุทธทุกคนทั่วโลกต้องมาจาริกบุญที่วัดพระธรรมกายอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต”

งานวิทยานิพนธ์ชิ้นนี้ ว.วชิรเมธี ยืนยันล่าสุดว่า ข้อมูลปฐมภูมิทุกอย่างมาจาก ป.อ. ปยุตฺโต สำหรับท่าน ว.วชิรเมธี เป็นผู้เรียบเรียงในชั้นทุติยภูมิ