posttoday

คำสารภาพนาทีฆ่า"เอกยุทธ"

13 มิถุนายน 2556

เปิดคำสารภาพผู้ต้องหาฆ่า "เอกยุทธ อัญชันบุตร" เผยพาตัวกักขังรีดทรัพย์ก่อนใช้เชือกรัดคอจนตาย

เปิดคำสารภาพผู้ต้องหาฆ่า "เอกยุทธ อัญชันบุตร"  เผยพาตัวกักขังรีดทรัพย์ก่อนใช้เชือกรัดคอจนตาย

แม้จะออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ จากปมสาเหตุชิงทรัพย์เงินสด 5 ล้านบาท แต่คดีนี้ก็ยังมีข้อคาใจในหลายประเด็น เพื่อให้ต่อภาพเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตำรวจในชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนายหนึ่ง ได้เปิดเผยคำสารภาพของ สันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถเอกยุทธ ให้เห็นถึงพฤติกรรมแห่งคดี

สันติภาพ เปิดปากสารภาพว่า หลังจากขับรถโฟล์คไปส่ง เอกยุทธ ที่ร้านอาหารกระแต แล้วก็ขับรถไปแวะกินข้าว จากนั้นก็รับ สุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือเบิ้ม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทชาว จ.พัทลุง ด้วยกัน ซึ่งพักอยู่ย่านสะพานควาย มาซ่อนอยู่บริเวณคอนโซลหน้ารถ กระทั่ง เอกยุทธ เสร็จธุระจากร้านอาหารกระแต สันติภาพ ก็ถอยรถมารับ

เมื่อ เอกยุทธ เข้ามาในรถแล้ว เบิ้ม ซึ่งซ่อนตัวอยู่ก็โผล่ออกมาทำร้าย และใช้กุญแจมือที่เตรียมมาล็อกข้อมือของ เอกยุทธ เอาไว้ จากนั้นชิงปืนพกที่ เอกยุทธ พกติดตัวไว้มาจี้บังคับ ส่วน สันติภาพ ก็ขับรถกลับไปบ้านเอกยุทธ ที่ย่านทาวน์อินทาวน์

เมื่อถึงบ้านเอกยุทธ ผู้ต้องหาทั้งสองได้รื้อค้นทรัพย์สินมีค่าในบ้าน จากนั้นก็รื้อฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดในบ้าน จากนั้น สันติภาพ ก็ขับรถพา เอกยุทธ ไปกักขังไว้ที่บ้านของพี่สาวย่านลาดกระบัง เพื่อเค้นเอาทรัพย์สิน

กระทั่งวันรุ่งขึ้น ผู้ต้องหาทั้งสองนำตัว เอกยุทธ ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ บังคับให้เซ็นเช็ค 3 ฉบับ เบิกเงินสด 5 ล้านบาท โดยเช็คทั้ง 3 ฉบับ ลงวันที่ 7 มิ.ย. 2556 จำนวน 1.5 ล้านบาท 1.7 ล้านบาท และ 1.8 ล้านบาท มีฉบับหนึ่งเป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาทองหล่อ (อาคารวสุ) จำนวน 1.7 ล้านบาท ซึ่งเขียน พ.ศ.ผิด เป็น พ.ศ. 2553

ประเด็นนี้ชุดสืบสวนเชื่อว่า เอกยุทธ น่าจะแกล้งทำเป็นเขียนผิด เพื่อหวังส่งสัญญาณให้ทางธนาคารสงสัยว่าตัวเองมีอันตราย ซึ่งได้ผลเมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาให้ เอกยุทธ ยืนยันเพื่ออนุมัติเงิน แต่เบิ้มใช้ปืนจี้ไว้จึงต้องยินยอม

“เขาบอกว่าเหตุที่เลือกสถานที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่นับเงิน เพราะอยู่ใกล้บ้านพี่สาวย่านลาดกระบัง อีกทั้งเป็นที่สาธารณะ ไม่ตกเป็นที่สงสัยที่จะไปรับเงิน นอกจากนี้ยังมีทางเข้าออกหลายทางการจราจรไม่ติดขัด เหมาะแก่การหลบหนี” แหล่งข่าวในชุดสืบสวนเปิดเผยคำสารภาพของสันติภาพ

หลังจากได้เงิน 5 ล้านบาทมาแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับเอกยุทธ ส่วนเบิ้มบอกว่าต้องฆ่าทิ้ง เมื่อขับรถออกจากสนามบินและจะย้อนกลับมาที่บ้านพี่สาวอีกครั้ง ระหว่างทาง เอกยุทธ ฉวยจังหวะวิ่งออกมาจากรถตู้ ผู้ต้องหาทั้งสองจอดรถและวิ่งไล่ตาม ก่อนจะลากตัวขึ้นรถอีกครั้ง รุมซ้อมและบีบคอ

จังหวะนั้น สุทธิพงศ์ ถอดเชือกรองเท้าออกมารัดคอ เอกยุทธ จนเสียชีวิต จากนั้นทั้งสองปรึกษากันว่าจะนำศพไปทิ้งที่ จ.พัทลุง ระหว่างนั้น สันติภาพ โทรหาเพื่อนอีกคนหนึ่งให้ขับรถเก๋งนำหน้า หากมีด่านตรวจก็ให้โทรศัพท์แจ้งเพื่อหลบเลี่ยง กระทั่งถึงจุดทิ้งศพที่เขาจิงโจ้ จ.พัทลุง สันติภาพโทรศัพท์ให้ เชาวลิต วุ่นชุม เพื่อนอีกคนหนึ่งมาช่วยนำ

“เพื่อนที่เป็นคนขับรถนำนั้น ตำรวจกำลังติดตามอยู่ แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ คาดว่าน่าจะชัดเจนเร็วๆ นี้ ว่าจริงตามที่ผู้ต้องหาสารภาพหรือไม่ ส่วนเหตุที่ต้องนำศพไปทิ้งไกลถึง จ.พัทลุง นั้น เขาบอกว่าไม่รู้จะทิ้งศพที่ไหน ขณะที่พัทลุงนั้นเป็นบ้านเกิด เขารู้จักพื้นที่ดี” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนปริศนาเงิน 5 ล้านบาทที่คนร้ายได้ไปนั้น เชาวลิต ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ จ.พัทลุง ให้การว่า สันติภาพ เป็นคนเอาเงินไปทั้งหมด ตำรวจจึงเค้นสอบอีกครั้ง สันติภาพ จึงเปิดปากบอกว่า เงิน 5 ล้านบาท นำไปฝากไว้กับ จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง อายุ 49 ปี ผู้เป็นพ่อ ทหารสังกัดค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง แต่ จ.ส.อ.อิทธิพล แจ้งกับตำรวจว่า ลูกชายเอาเงินมาฝากไว้ 2 ล้านบาท และเตรียมจะนำมาคืนให้ตำรวจ ส่วนที่เหลือยังไม่ชัดเจน บ้างว่าแบ่งกับเพื่อน หรือบางส่วนแบ่งไว้กับแม่ของสันติภาพ

ทั้งหมดคือคำให้การที่ สันติภาพ ให้กับตำรวจ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังสืบว่าเงินที่เหลืออยู่ไหน อีกประเด็นคือการติดตามจับกุม สุทธิพงศ์ ผู้ลงมือฆ่าที่ยังหลบหนี ซึ่งถือว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะต่อภาพปริศนาฆาตกรรมนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น

ปมปริศนาคาใจ

แม้ตำรวจจะอ้างคำสารภาพของ สันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถ ว่าร่วมกับเพื่อนฆ่าชิงทรัพย์ เอกยุทธ อัญชันบุตร แต่หลายฝ่ายก็ยังมีข้อคาใจเกี่ยวกับคดีนี้

สุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของ เอกยุทธ อัญชันบุตร

“จากการสืบสวนทราบว่า สันติภาพ ติดหนี้ตามโต๊ะพนันบอลหลายแห่ง รวมเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท จนทำให้ สันติภาพ ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มทหารนอกราชการที่เป็นผู้ดูแลโต๊ะพนันให้ก่อเหตุชิงตัว เอกยุทธ เพื่อหักล้างหนี้ที่ติดค้าง

“จากแหล่งข่าวระดับชั้นผู้ใหญ่ที่ได้ตรวจสอบมา ยังพบว่า สันติภาพ เคยทำงานในสังกัดของกลุ่มเสธ.ชื่อดัง กลุ่มหนึ่งที่มีเรื่องแถวคลองเตย ก่อนที่จะลาออกมาสมัครงานเป็นคนขับรถของ เอกยุทธ โดยผ่านการประกาศรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต

“สันติภาพ ได้เข้ามาในเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา จึงอาจเป็นไปได้ว่ามีการวางแผนแฝงตัวมาเป็นเวลานานกว่า 7 เดือน จนเมื่อถึงวันที่ 6 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ สันติภาพ รู้ว่า เอกยุทธ เตรียมที่จะให้พนักงานคนขับรถคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ประกอบกับสบโอกาสที่ เอกยุทธ ไม่มีบอดีการ์ดคุมความปลอดภัย จึงลงมือก่อเหตุ”

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

“คดีนี้มีลักษณะเหมือน สมชาย (นีละไพจิตร) 2 เพราะคุณเอกยุทธมีปัญหากับทั้งตำรวจและการเมือง ดังนั้นการตรวจพิสูจน์จึงต้องโปร่งใส ควรให้หน่วยงานอื่น เช่น ให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้าร่วม ไม่ควรด่วนสรุปอะไร”

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

“ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ขณะนี้มีความสับสนอย่างมากคดีนี้อยู่ในความสนใจของสังคม และสลับซับซ้อนในกระบวนการสืบสวนสอบสวน จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจน จะพูดอะไรไปล่วงหน้า หรือกล่าวหาใครคงไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล ซึ่งมีผลงานสืบสวนเป็นที่ยอมรับ

“เรื่องเงินไม่น่าใช่ประเด็น หากคนร้ายต้องการเงินจริง จะลงมือก่อการทั้งทีคงไม่เอาเพียง 5 ล้านบาท เชื่อว่าเรื่องเงินเป็นเพียงปัจจัยหลอกเท่านั้น”

กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก

“พฤติกรรมตำรวจในคดีนี้ ชวนให้น่าสงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลัง”