"สุรินทร์"ว่าที่หัวหน้าปชป.?

โดย...ทีมข่าวการเมือง

“สุรินทร์ พิศสุวรรณ” อดีตเลขาธิการอาเซียน ชื่อนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อตัดสินใจกลับเข้าบ้านพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ของมูลนิธิควงอภัยวงศ์ หลังจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งแม่บ้านอาเซียนเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา

สถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ถือเป็นกลไกสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อระดมความคิดเห็นจากประชาชนทั้งประเทศก่อนจะนำมากลั่นกรองเป็น “พิมพ์เขียวประเทศไทย” อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคในอนาคตต่อไป

โดยพรรคหวังว่าจะสร้างจุดขายใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การสร้างหนี้เหมือนนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทย

แต่ความเคลื่อนไหวของประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบของการทำพิมพ์เขียวประเทศไทย แต่เป็นจังหวะในการเข้าพรรคของ ดร.สุรินทร์ มากกว่า

มีสมมติฐานให้ขบคิดว่า หรือนี่จะเป็นการเข้ามาปูทางสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หรือไม่ แนวความคิดดังกล่าวเริ่มมีการพูดคุยกันในพรรคมาแล้วในระดับหนึ่ง

แม้ว่าด้านหนึ่งกระแสของชนชั้นกลางในเมืองกรุง และหัวเมืองบางส่วน แต่ก็เกิดการมองมุมกลับว่าชื่อของอภิสิทธิ์บอบช้ำเกินไปสำหรับการเลือกตั้ง สส. ตามวาระในปี 2558 จากคดีการสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่อภิสิทธิ์โดนฟ้องข้อหาหนักน่วมหลายคดี

ในกลุ่มคีย์แมนระดับยุทธศาสตร์ของพรรคเริ่มมองว่าสถานการณ์ที่ลำบากนี้อาจเข็นชื่ออภิสิทธิ์มาเป็นจุดขายยาก โดยเฉพาะการชนะเลือกตั้งเพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง จึงเลือกให้ ดร.สุรินทร์ กลับมาเข้าชิมลางงานการเมืองในตำแหน่งดังกล่าว อย่างน้อยที่สุดประเมินว่าด้วยต้นทุนถึงอดีตเลขาธิการอาเซียน ย่อมเป็นแม่เหล็กที่สามารถดูดทั้งทุนและดึงคะแนนความนิยม

ไม่เพียงเท่านี้ หากชูอดีตเลขาธิการอาเซียนเป็นผู้นำสู้ศึกเลือกตั้งปี 2558 ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนพอดี ก็น่าจะช่วยให้พรรคมีจุดขายสู้กับฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ที่สำคัญ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้การสนับสนุนอยู่ลึกๆ เหมือนกันในฐานะที่เคยทำงานกันรู้มือมาแล้วสมัยเป็นอดีตนายกฯ ที่มี ดร.สุรินทร์ เป็น รมว.ต่างประเทศ

แต่ติดตรงที่ถ้าให้ ดร.สุรินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แล้วจะเอาลูกรักอย่าง “อภิสิทธิ์” ไว้ในตำแหน่งไหน ครั้นจะให้ขึ้นหิ้งในสภาของพรรคก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไรนัก หรือจะให้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคก็ไม่สมศักดิ์ศรีอดีตนายกฯ

ดังนั้น ด้วยกำแพงจารีตที่สูงเสียดฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์ จึงอาจจะเลือกเข็น “อภิสิทธิ์” ให้สู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ต่อไป โดยหากถ้านำพรรคแพ้เลือกตั้ง 3 สมัยติดต่อกัน ถึงเวลานั้นอภิสิทธิ์ก็คงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคลำบาก สวนทางกับ ดร.สุรินทร์ ที่จะเป็นตัวเต็งขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่