posttoday

พลิกปูม"เสงี่ยม"ฝ่ามติแดงสายล่อฟ้านปช.

14 พฤศจิกายน 2555

“เสงี่ยม” อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเป็นแกนนำ นปช.ชุมพร ทั้งที่ใน จ.ชุมพร มีแกนนำที่ นปช.แต่งตั้งอยู่แล้ว อีกทั้งยังเคยขัดแย้งกับ "ขวัญชัย ไพรพนา"

โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวานิช

เดินหน้าขวางมติแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไล่ตั้งแต่ออกมาโจมตี “ธิดา ถาวรเศรษฐ์” ประธาน นปช.หาว่าตุ๋นคนเสื้อแดงปมศาลอาญาระหว่างประเทศรับเรื่องสลายการชุมนุม แถมยังขู่ไล่พ้นเก้าอี้ประธาน ล่าสุด พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังฝ่ามติ “แดงส่วนกลาง” ประกาศระดมพลชุมนุมปกป้องทำเนียบรัฐบาลจากม็อบองค์การพิทักษ์สยาม ร้อนถึงแกนนำแดงหลายคนต้องออกมาสยบข่าวพัลวันหวั่นม็อบชนม็อบเปิดทางศัตรูล้มรัฐบาลได้สำเร็จ

พลิกปูม"เสงี่ยม"ฝ่ามติแดงสายล่อฟ้านปช. พ.ต.ท.เสงี่ยม

เป็นอดีตประธานสมาคมประมง จ.ชุมพร “เสงี่ยม” จึงปรากฏชื่อ ในฐานะแกนนำ นปช. ชุมพร บ่อยครั้ง ในปี 2552 เคยเดินสายติดตั้งจานดีทีวีและตั้งเวทีปราศรัยในตลาด จ.ชุมพร จนหวิดปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใน จ.ชุมพร ปีเดียวกัน เขาคือ 1 ใน 27 แกนนำแดง ที่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีกระทำผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง

ในเดือน เม.ย.ต่อมา ในวิกฤตการเมืองปี 2553 แกนนำรายนี้ยังนำทีมบุกอาคารรัฐสภา สุดท้ายไม่รอด ถูกหมายจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นกัน “มหาอุทกภัยปี 2554” สารวัตรเสงี่ยมแปะมือโกตี๋ แกนนำแดงปทุมฯ อ้างคำสั่งนายกรัฐมนตรีและศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) บุกเข้าเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ จุดชนวนความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการบริหารจัดการน้ำท่วม

แกนนำแดงชุมพรรายนี้ยังถูกจัดในก๊ก นปช.สาย “ไม่เอาธิดา” ประกอบด้วย “สุพร อัตถาวงศ์” (แรมโบ้อีสาน) “พายัพ ปั้นเกตุ” “ชินวัฒน์ หาบุญพาด” “พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” ที่มักไม่เห็นด้วยกับการบริหารองค์กร นปช.ของธิดา ที่ผูกขาดความคิดเพียงคนเดียว ในขณะที่ “ก๊กธิดา” ยังเหนียวแน่นไปด้วยแกนนำอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” “วีระกานต์ มุสิกพงศ์” “เหวง โตจิราการ” “ก่อแก้ว พิกุลทอง” “วรชัย เหมะ” และ สส.เพื่อไทยสายแดงอีกคับคั่ง

ชินวัฒน์ บอกว่า แม้บางกลุ่มใน นปช.จะมีการดำเนินกิจกรรมในลักษณะกลุ่มย่อยโดยไม่ต้องรอมติส่วนกลางบ้าง แต่ทุกคนคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ภายใต้องค์กร นปช.ที่เป็นเอกภาพ อย่างตอน “2 รามสูร” แห่งเอเชียอัพเดต “พายัพ-ไวพจน์” นำทีมแรลลีเคลื่อนรอบกรุงต้านพรรคประชาธิปัตย์นั้น ชินวัฒน์ บอกว่า ถึงไม่ได้ดำเนินการผ่านประธาน นปช. แต่ผ่านกระบวนการคิดแล้วว่าผลที่ได้รับไม่กระทบฝ่ายตัวเอง เเต่ทำเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้สร้างสถานการณ์ล่อแหลมให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและ นปช.

“นปช.และรัฐบาลต้องเดินคู่กัน 2 ขา เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ‘เสงี่ยม’ อยู่ทั้งในรัฐบาลและคนเสื้อแดง น่าจะเข้าใจจุดนี้ แต่กลับเชื่อแต่ความคิดตัวเอง ไม่ยอมปรึกษาใคร” ชินวัฒน์ กล่าว

ชินวัฒน์ บอกอีกว่า ในสถานการณ์ขณะนี้ นปช.ควรสามัคคีและไม่ควรสร้างความขัดแย้งกันเอง แต่ “เสงี่ยม” กลับใช้อคติส่วนตัวไม่ทำงานเพื่อส่วนรวม ที่ผ่านมาการจะแต่งตั้งใครเป็นแกนนำ นปช.ของแต่ละจังหวัดนั้น ต้องมีมติจาก นปช.ส่วนกลาง

อย่างไรก็ตาม “เสงี่ยม” กลับอุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเป็นแกนนำ นปช.ชุมพร ทั้งที่ใน จ.ชุมพร มีแกนนำที่ นปช.แต่งตั้งอยู่แล้ว อีกทั้งยังเคยขัดแย้งกับ “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดร แล้วย้ายก๊กไปอยู่กับ “อานนท์ แสนน่าน” แกนนำหมู่บ้านเสื้อแดงอุดรธานี ที่เคยขัดแย้งเรื่องเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในถิ่นอุดรฯ จนแยกตัวจากขวัญชัย แต่ไม่นาน “เสงี่ยม” ก็ไปแตกกับอานนท์อีกรอบ

วรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. มองว่า เข้าใจว่าคนเสื้อแดงบางกลุ่มต้องการปกป้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจากม็อบ จนต้องการออกมารวมตัวในวันที่ 24 พ.ย. แต่ขณะนี้ทางแกนนำ นปช.ได้ประชุมร่วมกันและทำความเข้าใจกับ “เสงี่ยม” แล้วว่าจะไม่มีการรวมตัวหน้าทำเนียบและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในการคุมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ หากใครต้องการแสดงออกให้รวมตัวเวทีรอบนอกใน จ.ปทุมธานี อุดรธานี ขอนแก่น สมุทรปราการ หรืออีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน