เครื่องราง-ศัสตราวุธยึดเหนี่ยวนักรบ"จตุพร"

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

ผ่านไปย่านวัชรพล ซอย 10 เลี้ยวรถเข้าหมู่บ้านวิสต้า ปาร์ค เกือบสุดซอยจะพบบ้านจัดสรร 3 ชั้น เลขที่ 99/92 ภายในชายคาหลังนี้มีหลายสิ่งชวนให้ค้นหาความหมาย

แค่มองจากภายนอกแปลกแหวกแนวกว่าเพื่อนบ้านข้างเคียง เพราะปลูกต้นไม้สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านใบปกคลุมจนแทบไม่เห็นตัวบ้าน รั้วรอบทำจากไม้สักอย่างดีมีกล้องวงจรปิดเก็บภาพความเคลื่อนไหวภายนอกตลอด 24 ชั่วโมง

จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) คือเจ้าของบ้านหลังนี้

เขาออกมาเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอารมณ์ดี

ครั้นย่างก้าวเข้าสู่อาณาบริเวณ พบเทวรูปขนาดใหญ่เรียงรายอยู่เบื้องหน้าเหมือนให้สักการะก่อนเข้าชมภายใน

“นี่คือบ้านพักอาศัยหรือแหล่งรวมอารยธรรมกันแน่” เป็นคำถามที่หลายคนแวะเวียนมาและมักแซวเจ้าของบ้านเสมอ

ทันทีที่เข้าไปภายในบ้าน สิ่งแรกต้องสะดุดตานั่นคือ ตู้โชว์ไม้สัก ภายในเก็บรักษาหัวโขนตัวละครรามเกียรติ์ครบชุด ช่างเป็นความงดงามวิจิตรศิลป์

“พอเปิดบ้านเข้ามาเจอหัวโขนก็เหมือนเตือนใจตัวเอง” จตุพร กล่าวพร้อมหัวเราะ

ไม่ทันได้ถามเป็นนักสะสมหัวโขนตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าตัวก็ขันอาสาเป็นมัคคุเทศก์พาทัวร์ชมจุดอื่นๆ ของบ้าน

ระหว่างเดินตามเจ้าของบ้าน ได้สังเกตโดยรอบมีการกรุผนังบ้าน ติดตั้งบิวด์อิน เน้นไม้สัก แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง งดงาม เมื่อมาถึงบริเวณห้องโถงเจ้าตัวนำเสนอวัตถุโบราณที่แกะสลักจากไม้เนื้อแข็งอายุหลายร้อยปีอย่างเช่นพญาหงส์วรรณคดีตัวสูงใหญ่ ที่แกะสลักจากไม้สักทั้งต้น ตั้งโชว์โดดเด่น อดไม่ได้ต้องขอทายราคาไม่น่าต่ำกว่าห้าหมื่นบาท เจ้าตัวได้แต่หัวเราะเหมือนผู้ถามประเมินราคาต่ำเกินไป

“ส่วนใหญ่ผมจะซื้อมาแบบลดแหลก เราชอบเขาก็อยากให้ ชิ้นนี้มาจากบ้านถวาย จ.เชียงใหม่ ถือเป็นงานละเอียดมากไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน” จตุพร ตอบแค่นั้น

ด้านหน้าบ้านปลูกต้นไม้แน่น

ข้างๆ พญาหงส์ จตุพรชี้ชวนชมกลองยักษ์ที่ทำจากไม้ตะเคียน ซึ่งได้มาจากพิบูลมังสาหาร กลองใบนี้ขนาดใหญ่กว่าถังเบียร์และอวบอ้วนกว่าเจ้าของบ้าน คาดการณ์ด้วยสายตาน่าจะสามคนโอบเช่นเดียวกับฆ้องยักษ์ทองเหลืองที่เจ้าตัวลั่นฆ้องจนเสียงดังกังวานบ้าน ก็ล้วนมาจากแหล่งเดียวกัน จตุพรบอกสั้นๆ ซื้อมาในราคาถูก

จากนั้นแกนนำของพี่น้องเสื้อแดงพาขึ้นไปยังชั้นสอง สร้างความตื่นตะลึงกว่านั้น เพราะอาณาบริเวณปีกขวาซ้ายจากที่เคยเป็นห้องหนังสือ ถูกปรับแต่งเป็นสถานที่เก็บโบราณวัตถุ ซึ่งจตุพรเรียกชั้นนี้ว่า โซนกษัตริย์นักรบและเทพที่เกี่ยวข้อง

พลันเปิดประตูเข้าไปจะพบรูปปั้นหล่อสำริด มหาราชนักรบไทยตั้งเรียงราย ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รูปปั้นองค์เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ขณะที่ริมผนังห้องมีการจัดวางศัสตราวุธสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นพระแสง หอก ง้าว

จตุพร บอกว่า วัตถุโบราณเหล่านี้ ส่วนใหญ่พี่น้องเสื้อแดงนำมามอบให้ในช่วงที่เดินทางไปปราศรัยตามที่ต่างๆ

“รูปปั้นเจ้าพระยาพิชัยดาบหัก ชาวอุตรดิตถ์นำมามอบให้ ดาบอรัญญิกก็ได้มาจากไปปราศรัย จ.พระนครศรีอยุธยา”

ผ่านพื้นที่ทางเดินเชื่อมไปอีกห้องหนึ่งมีการติดตั้งชั้นไม้สักเพื่อวางเครื่องสักการะ พานเงินพานทอง รูปปั้นนารายณ์ทรงครุฑพร้อมกับพระขรรค์โบราณ

“ครุฑองค์ที่สร้างเกือบร่วมร้อยปี ส่วนพระขรรค์ไม่แน่ใจอายุเท่าไหร่ แต่เป็นของโบราณที่พระครูบาสุนทรจาก จ.ลำพูน มอบให้ ท่านพูดสั้นๆ ว่าเป็นของคุณจตุพรและมีคทา ครุฑจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม”

แม้แต่รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งมีความเชื่อเป็นเทพแห่งความร่ำรวย หรือท้าวมหาพรหม ซึ่งปกติไม่ค่อยได้ทำจากสำริด ได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ก็มีให้สักการะที่บ้านจตุพร

“ผมไม่เคยไปวัดท่าน แต่ที่ประหลาดหลวงปู่บุญสร้างโดยส่วนใหญ่ แต่คนทั่วไปไม่รู้ในสารบบ ที่ได้มาเพราะท่านเมตตาผม” จตุพร กล่าวและว่า หลังปราศรัยพื้นที่ต่างๆ มักแวะวัดจะได้รับมอบวัตถุมงคลเหล่านี้

เมื่อขึ้นไปชั้นสาม ทั่วพื้นที่ภายในห้องจัดวางโต๊ะหมู่บูชารองรับพระพุทธรูปปางต่างๆ สำรวจแต่ละองค์ผ่านการหล่อจากช่างฝีมือดี แม้แต่รูปหล่อไฟเบอร์พระอาจารย์โตพรหมรังสี หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ล่าสุดเจ้าแม่อุมาเทวีที่เจ้าตัวบอกว่าเพิ่งได้รับมาจากคนเชื้อสายอินเดียในช่วงวันเกิด

อย่างไรก็ตาม พระประธานบางองค์ จตุพรยอมรับมีอายุตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หรือเกินร้อยปี ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่เศียรพระขนาดใหญ่ก็อัญเชิญมาไว้ที่ชายคาหลังนี้

“เศียรพระทำจากบ้านถวาย จ.เชียงใหม่ เดี๋ยวนี้เขาสามารถผลิตชิ้นงานทำมาจากไม้จามจุรี ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องเสื้อแดงมอบให้ มีทั้งพระร่วมสมัยบ้างเก่าบ้าง”

เอ่ยปากแซวกรมศิลปากรเคยมาสำรวจบ้างไหม เจ้าตัวหัวเราะ “ส่วนใหญ่เป็นของถูกกฎหมายครับ”

จากนั้นจตุพรพาไปชมพระพุทธรูปศิลาแลงสามองค์ ซึ่งดูแล้วเหมือนเพิ่งนำออกมาจากกรุเก่า แต่เจ้าตัวเผยเป็นฝีมือช่างสุโขทัยที่ทำขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยเอาศิลาแลงมาบดผสมปูนซีเมนต์เป็นฝีมือที่สามารถนำเทคโนโลยีปัจจุบันทำบล็อกเข้าไป

“ทั้งสามองค์ผมได้โดยบังเอิญเมื่อครั้งไปปราศรัยที่อุตรดิตถ์เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระหว่างแวะที่ปั๊มน้ำมันก็มีคนมามอบให้ ราคาเช่าบูชาประมาณ 2,500 บาทเอง”

นอกจากพระพุทธรูปปางต่างๆ เขายังมีพระเครื่องอีกจำนวนมาก แต่หากถามองค์ไหนศรัทธามาก จตุพรตอบไม่ชัดเจน บอกได้แต่ว่า ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกเดียวกัน ศรัทธาโดยปกติ เขายังยอมรับ ถ้าให้อธิบายแต่ละองค์มีที่มาที่ไปอย่างไรก็อธิบายไม่ครบ เนื่องจากแต่ละองค์มากันเร็ว ศึกษาทันบ้างไม่ทันบ้าง

“วัตถุมงคลเหล่านี้จะมาเรื่อยๆ อย่างที่ไม่คาดคิด ยิ่งจังหวะชีวิตผกผัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มักมาแทนที่เสมอ เพราะฉะนั้นห้องพระที่ได้ชมขณะนี้อีกไม่กี่เดือนต้องเปลี่ยนใหม่ อาจปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างเพิ่มเติมเพื่อรองรับ”

“ตอนแรกก็คิดเหมือนพระประธานมาองค์เดียว แต่นั้นมาเหมือนสายแร่ เหมือนห้องชั้นล่างจากพระเจ้าตากองค์เดียว ก็มีการนำกษัตริย์มหาราชทุกพระองค์มามอบให้ พระนเรศวรแทบทุกปาง พระยาพิชัยดาบหัก ก็มากเป็นลำดับต้นๆ เช่นเดียวกับแม่ทัพกวนอู”

สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลั่งไหลเข้าบ้านเรื่อยๆ ทำให้นักรบการเมืองที่วืดตำแหน่งรัฐมนตรี ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ถึงกับเปรยว่า “ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ดีไปอีกแบบ เพราะมีเวลาจัดห้อง”

จตุพร บอกว่า คนภายนอกอาจมองเขาเป็นคนดุร้ายก้าวร้าวอย่างเดียว แต่สำหรับคนที่รู้จักสนับสนุนเราจะรู้ว่าเป็นอีกแบบ

“ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหนอย่างไร เราประกาศไม่รับเงินรับทอง บ้านนี้จะเต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาล เอาข้าวสารมาฝาก แม้กระทั่งเสื้อผ้าหามาให้ บริจาคเป็นทอดๆ”

“ส่วนใหญ่งานบุญกฐิน ผ้าป่าก็จะปฏิบัติ ไม่ว่าจะมาร้อนมาเย็น ใจก็ไม่ได้ไปล้มตาม ผมจึงไม่เสียใจหรือดีใจเกินเหตุ จะไม่มีปรากฏการณ์นี้กับผม เราอยู่ในโลกแห่งความจริง แต่เมื่อมีความทุกข์ สิ่งเหล่านี้จะมาหาผมมากในช่วงสองสามปี”
 
“ชีวิตผมสมัยเป็นเด็กวัดบวรฯ ไม่เคยมีพระแขวนสักองค์ แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ที่มีความตายเป็นเดิมพัน ประชาชนหรืออะไรดลบันดาล สิ่งเหล่านี้ก็หลั่งไหลมาแบบที่ผมไม่คิดว่าเป็นแบบนี้ แต่เมื่อมีสิ่งเหล่านี้ก็ทำความสงบ ไม่ว่าจะร้อนจะหนาวจะจุดเดือดหรือจุดเยือกแข็ง เมื่อเรามาที่ห้องพระ ที่ห้องต่างๆ จะนำมาซึ่งความร่มเย็น” จตุพร กล่าว

 

กลองยักษ์ทำจากไม้ตะเคียน