posttoday

เด็ด"ปลัดกห."กินรวบ"ทบ."

27 สิงหาคม 2555

สัมภาษณ์ "พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม" กับกรณี รมว.กลาโหม ให้เสนอชื่อผู้ช่วยผบ.ทบ.เข้านั่งเก้าอี้ ปลัดกระทรวงกลาโหม

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพถูกจับจ้องขึ้นมาอีกครั้ง! ภายหลัง พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหมทำหนังสือถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้องเรียนกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ใช้คำสั่งทางวาจาให้เสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม

ทั้งที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมต้องมาจากพลเอกอัตราจอมพล ซึ่งนอกจากแหวกม่านประเพณีกองทัพยังผิดกระบวนการตามข้อกฎหมาย

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหา ในฐานะบิ๊กทหารที่เคยทำงานอยู่ในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มองผ่านประสบการณ์การแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่เคยมี รมว.กลาโหม คนใดปฏิบัติอย่างนี้มาก่อน ด้วยการผลักดันนายทหารระดับนายพล ซึ่งไม่ใช่อัตราจอมพลขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

แสดงให้เห็นชัดเจน นี่คือเป้าหมายแรกของ พล.อ.อ.สุกำพล ที่ต้องการมาตัดกับ ผบ.เหล่าทัพ

เด็ด"ปลัดกห."กินรวบ"ทบ." พล.อ.สมเจตน์

“ถ้าคนเป็นรัฐมนตรีกลาโหมมาจากพลเรือน อาจพอทำให้เข้าใจได้ว่าไม่ทราบหลักอาวุโสและประเพณี แต่นี่เป็นนายทหารระดับสูงรู้ประเพณีในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างดี”

อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อธิบายว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมต้องมาจากพลเอกอัตราจอมพลมาก่อน เพราะรองปลัดกระทรวงกลาโหมก็เป็นพลเอกอัตราจอมพล ไม่สามารถนำพลเอกธรรมดาข้ามอาวุโสได้

ปัจจุบัน พล.อ.ชาตรี ทัตติ เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมและมีอาวุโสมากกว่า พล.อ.ทนงศักดิ์

“การที่ พล.อ.อ.สุกำพล เสนอ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ทั้งที่เป็นพลเอกธรรมดาข้ามหัวรองปลัดกระทรวงกลาโหมที่เป็นพลเอกอัตราจอมพลให้มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมไม่สามารถทำได้”

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ถ้าจะทำได้ เหตุเกิด 2 ประการ 1.ในสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมมีพลเอกหลายอัตรา พลเอกเหล่านี้ข้ามอาวุโสมาเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมได้เลย 2.สร้างความแตกแยกในกองทัพ

นอกจากแหกม่านประเพณีสร้างความแตกแยก พล.อ.สมเจตน์ กล่าวด้วยว่า ยังเป็นการกระทำที่ผิดหลักกฎหมาย “มีการระบุว่า พล.อ.อ.สุกำพล พูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพ มีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นเลขาฯ แล้วสั่งการทางวาจาจะขอคนนั้นคนนี้มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ถือเป็นคำสั่งผิดกฎหมาย หาก พล.อ.อ.สุกำพล นำเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีตามที่สั่งด้วยวาจาต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำกราบบังคมทูลแต่งตั้ง นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วย”

“คำสั่งผิดกฎหมาย แต่นายกฯ กลับทำ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 สามารถยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลได้”

พล.อ.สมเจตน์ งัดข้อกฎหมายชี้แจงว่า ระบุไว้ชัดอยู่แล้วกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายต้องเป็นไปตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล พ.ศ. 2551 ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการ ประกอบด้วย รมว.กลาโหม เป็นประธาน ผบ.เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นกรรมการและเลขานุการทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอเปิดประชุม

“แต่นี่ พล.อ.อ.สุกำพล เรียก ผบ.เหล่าทัพหารือ แล้วอ้างว่าไม่มีใครขัดข้อง อย่างนี้ถือเป็นการประชุมไม่ได้ แล้วยังบอกอีก ถ้า พล.อ.เสถียร ปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่ทำตามนี้จะมอบหมายให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นผู้จัดทำบัญชีรายชื่อร่วมกับ รมว.กลาโหม เท่ากับเป็นการลุแก่อำนาจ”

เด็ด"ปลัดกห."กินรวบ"ทบ." กระทรวงกลาโหม

พล.อ.สมเจตน์ ชื่นชม พล.อ.เสถียร ที่กล้าทำหนังสือถึงนายกฯ เปิดเผยถึงความพยายามแทรกแซงแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม

“ผมขอชื่นชมท่านปลัดกระทรวงกลาโหม ยึดหลักรักษากองทัพอย่างแท้จริง ทั้งที่ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นรุ่นเดียวกับ พล.อ.เสถียร เพื่อนก็ควรสนับสนุนเพื่อน แต่ พล.อ.เสถียร รักกองทัพ ยอมเสียเพื่อน”

“ผมขอเรียกร้อง รมว.กลาโหม นายกฯ อย่าทำลายกองทัพ เรียกร้อง ผบ.เหล่าทัพอย่าให้ รมว.กลาโหม ทำเช่นนี้ เพราะถ้าทำได้ ต่อไปจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้กับกองทัพบกและเหล่าทัพอื่นได้ ผบ.เหล่าทัพต้องยึดมั่นหลักการ”

พล.อ.สมเจตน์ ยังกล่าวถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นบอร์ดพิจารณาบัญชีโยกย้ายด้วย

“ผบ.ทบ.อย่าคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดกับกองทัพบก อย่าเอาตัวเองรอด การเป็นพวกกับความถูกต้องมันคนละเรื่องกัน เป็นพวกหรือเป็นรุ่นก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ความมั่นคงกองทัพเป็นเรื่องส่วนรวม”

พล.อ.สมเจตน์ วิเคราะห์ทิ้งท้ายว่า ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งใกล้เข้าฤดูการโยกย้ายนายทหาร มีความพยายามนำคดีกระชับพื้นที่การชุมนุมมากดดันกองทัพ อ้างว่าทหารฆ่าประชาชน ต่อไปจะนำไปเป็นมูลเหตุปรับย้าย ผบ.ทบ.ได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของการขยายความขัดแย้ง