posttoday

ไขปมร้อนทะเบียนราษฎร์วุ่นรายเดือน

31 กรกฎาคม 2555

คนไทยยังคงต้องอดทนรอต่อไปว่าเมื่อไรมหากาพย์คอมพิวเตอร์ฉาวเรื่องนี้จะสิ้นสุดลงเสียที

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

ไขปมร้อนทะเบียนราษฎร์วุ่นรายเดือน

กลายเป็นปัญหาใหญ่อีกครั้ง เมื่อล่าสุด ระบบทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับอีกกว่า 100 หน่วยงานรัฐชำรุดทั่วประเทศ จากสาเหตุที่ว่าสวิทช์สำหรับตรวจสอบภาพใบหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครองชำรุด ทำให้เข้าถึงข้อมูลบัตรประชาชน รวมถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ส่วนอื่น ในที่ว่าการอำเภอ และที่ว่าการเขตทั่วประเทศใช้การไม่ได้

แม้ ธวัชชัย ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง จะออกมายืนยันแล้วว่า ขณะนี้ระบบสามารถใช้งานได้ตามปกติ และไม่ได้เกิดจากคอมพิวเตอร์ที่มีอายุการใช้งานมานานเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นเรื่องของระบบซอฟท์แวร์ชำรุดด้วย แต่ก็ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ กรมการปกครองก็ยังต้องทนใช้ระบบคอมพิวเตอร์อายุกว่า 9 อยู่ตามปกติ รวมถึงไม่สามาถมั่นใจได้เลยว่าจะแผลงฤทธิ์อะไรอีกหรือไม่

เพราะเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบบคอมพิวเตอร์ชิ้นนี้ ก็เคยชำรุดมาครั้งหนึ่ง จากปัญหาเครื่องแม่ข่าย กรมการปกครอง รังสิต คลองเก้าชำรุด ทำให้การรับส่งข้อมูลสำนักทะเบียนต่าง ๆ 2,416 แห่งทั่วประเทศล้มเหลว ทำให้ต้องใช้เวลาแก้ไขนานกว่า 1 วัน ท่ามกลางความลุ้นระทึกของคนในกรมว่า จะสามารถเชื่อมระบบกับเครื่องแม่ข่ายสำรองที่สำนักบริหารการทะเบียน วังไชยาได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ ก็เคยเกิดขึ้นในวันที่รัฐบาลเปิดทำบัตรประชาชนเด็กวันแรก ที่เครื่องนี้ชำรุดเนื่องจากสำลักข้อมูลที่มากเกิน จนระบบเมนบอร์ดเอาไม่อยู่

สาเหตุหลักของเรื่องนี้ มาจากระบบคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ซื้อมาตั้งแต่ 2546 และจะเริ่มหมดอายุการใช้งานในปี 2553 แต่จนถึงวันนี้ กลับยังใช้เครื่องเดิมในการจัดเก็บข้อมูลของประชากร 65 ล้านคนอยู่ หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 สมัยที่ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรมว.มหาดไทย ได้มีการทำโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ระบบใหม่มาแทนที่แล้ว โดยระบุในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างร่วมกับ บริษัท คอนโทรล ดาต้า จำกัด โดยสัญญาจัดซื้อระบบทั้งหมดมีมูลค่า 3, 490 ล้านบาท

หากแต่ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น ไม่ยอมลงนาม โดยอ้างว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนเพียงรายเดียว หนักข้อถึงขั้นว่ามีคนอ้างว่ารัฐมนตรีเอาหนังสือไปให้อธิบดีลงนามถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ทว่า วงศ์ศักดิ์ ปฏิเสธลูกเดียวโดยอ้างว่าหากเซ็นไปก็อาจถูกฟ้องร้องได้ เมื่อไม่ลงนาม วงศ์ศักดิ์จึงโดนโยกไปนั่งเก้าอี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และให้มงคล สุระสัจจะ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มานั่งเป็นอธิบดีกรมการปกครอง จนสามารถลงนามร่วมกับบริษัท คอนโทรล ดาต้า ได้ในที่สุด 

แม้จะลงนามในสัญญาเรียบร้อย แต่ขั้นตอนการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างยังคงอยู่ เพราะวงศ์ศักดิ์ได้ไปร้องเรียน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่ชวรัตน์ ก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยเอง ซึ่งแม้กรรมการชุดของกระทรวงมหาดไทยจะสรุปว่าไม่มีใครผิด แต่กระบวนการสอบสวนของปปช.ก็ยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กล้าณรงค์ จันทิก กรรมการปปช.เคยแย้มออกมาแล้วว่า คดีนี้มีนักการเมือง และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน

ข้อมูลล่าสุดจาก วิเชียร ชิดชนกนารถ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ชำนาญการพิเศษส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน สำนักบริการการทะเบียน กรมการปกครองระบุว่า เครื่องที่จัดหามาแล้ว ยังคงต้องรอการอนุมัติจากสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งขณะนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดก็ยังต้องรอการการันตีจากปปช.อยู่ดีว่าเครื่องดังกล่าวจัดหามาถูกระเบียบหรือไม่ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาของกรมการปกครองที่ทำได้ก็คือ ยืมระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนจากบริษัทคอนโทรลดาต้าเพื่อใช้สำรองข้อมูลต่อไปก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่อไป

ถ้าเป็นอย่างที่กรมการปกครองว่า ประชาชนคนไทยก็ยังคงต้องอดทนรอต่อไปว่าเมื่อไรมหากาพย์คอมพิวเตอร์ฉาวเรื่องนี้จะสิ้นสุด และคืนระบบทะเบียนราษฎร์ระบบใหม่ ให้คนไทยได้ใช้กันอย่างอุ่นใจ ไม่ต้องทนกันต่อไปเรื่อย ๆ จนไม่รู้จุดหมายว่าจะเสียอีกเมื่อไรเสียที