ครม.ปูระเริงคลื่น-ย่ำแผล3ปีแดงพังโรงแรม
การกลับมาใช้สถานที่แห่งนี้ประชุมครม.สัญจร โดยมีคนเสื้อแดงเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนบรรยากาศยึดทำลายมาเป็นการต้อนรับนายกฯ
โดย....ขำ เคืองใจ
การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือเรียกกันตามประสาอินเทรนด์ทางการเมืองตามที่คุ้นเคยกันอย่างดีตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณให้คำบัญญัติไว้ คือ “ครม.สัญจร” พลิกวงรอบมาถึงเดือนนี้นับเป็นการประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 5ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยคราวนี้ยึดหัวหาดชายทะเล จัดประชุมที่ โรงแรมรอยัลคลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป หรือ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี(เดิม)
จากที่ก่อนหน้านี้เน้นหัวเมืองสำคัญที่เป็นฐานเสียงเพื่อไทย ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ อุดรธานี ลงใต้ไปที่จ.ภูเก็ต พื้นที่พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนขึ้นไปภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี และลงมาภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ฐานที่มั่นสำคัญของพรรคพลังชล พันธมิตรร่วมรัฐบาล
เมื่อเป็นพื้นที่ชายทะเลเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวฝรั่งมังค่า หัวข้อหลักจึงหนีไม่พ้นการทุ่มงบประมาณพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว ปรับปรุงทัศนียภาพ ระบบการคมนาคมที่แออัด ปัญหาอาชญากรรม ต้องได้รับการแก้ไขไม่ให้เสียชื่ออเมซิ่งไทยแลนด์
ห้องแกรนด์บอลรูมที่ใช้จัดประชุมครม.สัญจรภายในโรงแรมรอยัลคลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ปถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
ขณะที่จังหวัดทางภาคตะวันออกเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นมาบตาพุด แหลมฉบัง โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่มักมีปัญหาการก่อแพร่กระจายมลพิษ และจากเหตุโรงงานระเบิดเป็นข่าวใหญ่โตในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสที่นายกฯและคณะได้ติดตามการบ้านในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนมีความคืบหน้าอย่างไร และยังเป็นโอกาสได้ติดตามการซักซ้อมดูแลความปลอดภัย ให้กับประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
นอกจากนั้นยังมีในส่วนข้อเสนอกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกซึ่งที่ทราบดีพื้นที่นี้มีผลผลิตทางการเกษตร เงาะ ทุเรียน ลองกอง มังคุด ฯลฯ ก็จะได้รับการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปดูแลพัฒนาศักยภาพการส่งออกผลไม้ไทย ในครั้งนี้ด้วย ส่วนเม็ดเงินที่ถูกเสนอมาแต่ละจังหวัดปาเข้าไปหลายร้อยล้านเมื่อเข้าครม.วันที่ 19 มิ.ย.ก็ต้องมาหั่นอีกทีพิจารณาถึงความจำเป็นต้องมาติดตามว่าพื้นที่ภาคตะวันออกจะได้รับสรรงบพัฒนาครั้งนี้กี่พันล้านบาท
กลุ่มเสื้อแดงมารอต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่พัทยา
หันมาดูสถานที่การประชุมคราวนี้ มีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ใช่แค่มองว่าเป็นสถานที่โรงแรมจัดประชุมเหมือนที่ต่างๆ แต่โรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แต่ยังสร้างความติดตาตรึงใจทางการเมือง เพราะสถานท่าแห่งนี้ ถูกบันทึกไว้ในเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อสามปีที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ วันที่ 11 เม.ย. 2552 โรงแรมแห่งนี้ เคยใช้เป็นสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน โดยมีการเชิญผู้นำของเอเชียมาร่วมด้วย แต่การประชุมก็ต้องยุติลงกระทันหัน เพราะมีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง หรือ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นำโดย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เป็นแกนนำนำกองกำลังมวลชนบุกประชิดโรงแรม
ขณะที่มีกลุ่มมวลชนสีน้ำเงินออกมาสกัดกั้นเกิดการปะทะกัน ก่อนที่พลังมวลชนเสื้อแดงผลักดันกองกำลังมวลชนที่เห็นต่างและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถเข้าไปทุบทำลายกระจกโรงแรม ไล่ล่าตามหาตัวผู้นำประเทศอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกลับเข้าไปนั่งแถลงข่าวราวกับประกาศชัยชนะ บรรดาผู้นำต่างชาติ ต้องหนีออกจากโรงแรมเป็นการด่วน ทั้งทางน้ำทางอากาศ กลายเป็นเหตุการณ์ระทีกใจให้กับผู้นำชาติต่างๆได้นำภาพเหตุการณ์ครั้งนั้นนำกลับบ้านไปนอนฝันว่า "นี่หรือประเทศไทย"
ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2552 ที่กลุ่มเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัลคลิฟโฮเต็ล กรุ๊ป
เหตุการณ์ปลุกระดมเกิดอาการบ้าคลั่งทำให้ ผู้นำชาติต่างๆ หนีกระเจิง โรงแรมเสียหาย นักท่องเที่ยวขวัญผวา ส่วนการดำเนินคดีผู้ก่อการละเมิดกฎหมายยังไม่คืบหน้า เหล่านี้ คือผลงานอัปยศของคนเสื้อแดง ที่ถูกบันทึกไว้
จากเหตุการณ์ระห่ำ 11 เม.ย. 2552 ผ่านมาถึงวันนี้ 18 มิ.ย. 2555 วันที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลที่มีมวลชนคนเสื้อแดงสนับสนุน และมวลชนเสื้อแดงที่เคยร่วมไล่ล่าทุบทำลายโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ ได้กลับมาที่โรงแรมแห่งนี้อีกครั้ง
แต่เป็นการกลับมาในลักษณะใช้สถานที่แห่งนี้ประชุมครม.สัญจร โดยมีคนเสื้อแดงเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนบรรยากาศยึดทำลายมาเป็นการต้อนรับนายกฯผู้น่ารัก ด้วยบรรยากาศสุดคึกคักภายในโรงแรมผ่านการบัญขาจากผู้ว่าราชการจังหวัดออกหนังสือถึงผู้บริหารท้องถิ่นให้ระดมมวลชนแต่ละตำบลอำเภอ ออกมาต้อนรับ ทั้งข้าราชการประชาชนนับพันคน
แบ่งงานกันเสร็จสรรพรับพระยาเหยียบเมือง ให้รองผู้ว่าฯ 3 ราย นายภัครธร เทียนไชย ดูแลพื้นที่โครงการของบประมาณ นายพรชัย ขวัญสกุล จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ กำกับดูแลสถานที่จัดการประชุม ครม.
เตรียมการแบบนี้ต้องเต็มเปี่ยมแห่งความระเริงรื่น โดยเฉพาะคนเป็นนายกฯระดับน้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องได้รับการปรนนิบัติให้ดี ใช้โอกาสนี้ พักผ่อนมองชายทะเลดูฝรั่งโต้คลื่นไม่ต้องผวาว่าจะมีม็อบสีใดเคลื่อนขบวนเข้ามาไล่ล่าจับผู้นำ
ด้วยการทุ่มไม่อั้นงบประมาณแผ่นดินสั่งเหมาห้องพักให้กับเสนาบดีทั้งหลาย ได้พักผ่อนห้องสุดหรู ตั้งแต่ระดับ president Suit (3 เตียง ) ตกคืนละ 8.4 หมื่นบาท ขณะที่ ห้อง Royal Wing Suit ( แบบ 1 เตียง) ราคา 1.8 หมื่นบาท พักสามวันสองคืน สิริรวมราคาปาเข้าไป 2 แสนกว่าบาท
“นี่แค่ต่อคน เมื่อรวมรัฐมนตรี 35 คน คณะที่ปรึกษา ผู้ติดตาม ข้าราชการกว่า 500 คน ก็น่าจะมีตัวเลขเกิน 7 หลักอย่างแน่นอน”
ภาพการบุกล้มประชุมอาเซียนของกลุ่มเสื้อแดง
สำหรับห้องประชุมครม.ระดับหรูห้าดาวคราวนี้ กำหนดไว้ที่ห้อง แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 ของโรงแรม ใหญ่โตโอ่อ่าหากจะใช้จัดงานปาร์ตี้การเมืองให้กับพรรคเพื่อไทยก็สามารถรองรับได้อย่างสบาย โดยภายในมีการติดตั้งจอมอนิเตอร์ยักษ์ กลางห้องประชุมเปิดพื้นที่ตกแต่งด้วยสวนน้ำน้อยๆ ให้เหล่าพญานาคที่ประดิษฐ์จากใบตองอย่างปราณีตพ่นน้ำเป็นจังหวะ เห็นแล้วทำให้บรรยากาศไหลเย็นสบายใจ ลดความเคร่งเครียดจากวาระการประชุมครม.ไปได้
การประชุมครม.สัญจรอันแสนสุขอุราครั้งนี้ เต็มไปด้วยความอบอุ่นท่ามกลางการเลี้ยงดูปูเสื่อ ได้รับการต้อนรับให้กำลังใจจากคนเสื้อแดง
ทว่าจะมีสักกี่คนได้มองย้อนทบทวน กว่าจะมาถึงวันนี้ ล้วนเคยสร้างวีรกรรมร่วมกันทำลายผ่านการปลุกปั่นแกนนำบางคน ซึ่งไม่เป็นผลดีอะไรเลย แล้วอย่าให้เกิดขึ้นอีกในบ้านนี้เมืองนี้