พร้อมพงศ์ แขวะปชป.ขี้แพ้ชวนตียื่นยุบพท.

“พร้อมพงศ์” จวก “วิรัตน์”ยื่นยุบเพื่อไทย ไร้เหตุผล  แขวะ อย่าให้ประชาชนเข้าใจว่าปชป.ขี้แพ้ชวนตี

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษฏพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ  คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทยโดยกล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนที่ถูกเพิกถอน สิทธิ์ช่วยพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงเลือกตั้ง ก้าวก่ายสั่งการเหมือนเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และขอให้กกต.พิจารณาคุณสมบัติของแกนนำนปช.ที่เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นั้น  เป็นสิทธิของนายวิรัตน์ที่จะกระทำได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าที่นำมาเล่าใหม่ ร้องเรียนใหม่ ไม่มีเหตุผลที่จะมายุบพรรคเพื่อไทย เพราะ1.มาตรา 97 ของพ.ร.บประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2550 นั้น ห้ามกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเป็นกรรมการบริหารพรรค ห้ามจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ และห้ามมีส่วนร่วมในการจดแจ้งจัดตั้งพรรคใหม่เท่านั้น ดังนั้นจะตีความรวมถึงการห้ามความคิด ห้ามแสดงความเห็นนั้นคงไม่ได้

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า  2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดที่แล้วที่ร่วมกับอดีตกรรมการบริหาร พรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเช่นกัน อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสุวิจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และบุคคลเหล่านี้ยังมีอำนาจตัดสินใจในการเข้าร่วมรัฐบาล กำหนดตัวรัฐมนตรี และเชิญไปร่วมประชุมในหลายที่เช่น บ้านพิษณุโลกและทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย ซึ่งเคยมีคนไปยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคแต่กกต.ก็ได้ยกคำร้อง ดังนั้นขอให้นายอภิสิทธิ์ทบทวนบทบาทของตัวเองด้วย หรืออย่างน้อยก็ควรสั่งสอนลูกพรรคให้ดูเรื่องเก่าที่ตัวเองทำเอาไว้ด้วย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า 3.บุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างถึง เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชายนั้น บุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย และไม่เคยก้าวก่ายแทรกแซงการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย มีเพียงแค่แสดงความเห็นในฐานะที่เป็นคนไทยธรรมดา ดังนั้นของให้พรรคประชาธิปัตย์ใจกว้าง อย่านำมาเป็นประเด็นการเมืองเพียงเพื่อชิงพื้นที่ข่าวหน้าสื่อ เพราะประชาชนจะมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ขี้แพ้ชวนตี ไม่มีน้ำใจนักกีฬา และ4.กรณีคุณสมบัติของแกนนำนปช.ที่เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ควรทำให้ประชาชนสับสน เพราะขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของกกต.มาแล้ว คนที่อารมณ์ค้างทางการเมืองไม่ควรกดดันกกต.