ประเด็นร้อน 6 ก.ค.

ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพิ่งรู้รสชาติของการเมืองที่แท้จริง เมื่อผู้มีอุปการคุณของพรรคต่างผลักดันรายชื่อคนในสายขึ้นเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะสายเจ๊ สายเฮียสายสีแดง ฯลฯ ร่วมๆ 100 รายชื่อ โดยยังไม่นับที่ต้องจัดสรรแบ่งปันให้พรรคร่วมรัฐบาล แต่มีเก้าอี้รองรับได้เพียง 35 ที่นั่ง อย่างไรตามสุดท้ายทุกอย่างต้องไปจบที่คนที่ใครก็รู้ว่าเขาเป็นใคร ตัวช่วยสำคัญฝุ่นตลบสำหรับการจัดโผคณะ

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

1.รัฐมนตรี (ครม.) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ยังไม่ลงตัวโดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญด้านเศรษฐกิจฝ่ายความมั่นคง และการดูแลกิจการสื่อในกำกับของรัฐ ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภา ที่มีคู่ชิง อาทิ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะอดีตรองประธานสภาหรือนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ว่าที่ สส.ขอนแก่น ในฐานะรองประธานสภาจึงต้องจับตากันว่าจะเป็นใคร เพราะกำหนดเรียกประชุมสภาแล้วในวันที่ 3 ส.ค.นี้

2.ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนักวิชาการทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงภาคธุรกิจ ที่ต่างพร้อมใจกันออกมาส่งสัญญาณให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงรีบเปิดชื่อโผ ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ภาคเอกชน และต้องการความชัดเจนนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน หรือการลงทุนโครงการประชานิยมและโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าจะมีตัวบุคคลใดมาคุมฝ่ายความมั่นคง ทั้งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และ รมว.มหาดไทย เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาประเทศ ไม่ใช่มุ่งเน้นเรื่องทะเลาะกันหรือการต่อรองของกลุ่มการเมือง

3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ยังวุ่นกับการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน อย่างไรก็ตาม กกต.จะสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทั้ง สส.แบ่งเขต และ สส.บัญชีรายชื่อ ได้ในวันที่12 ก.ค.นี้ และจากการสืบสวนเรื่องร้องเรียนมีมากกว่า 190 กรณี จะเร่งให้เสร็จภายใน 30 วัน หากการสอบสวนในบุคคลที่ถูกร้องเรียนยังไม่เสร็จสิ้น กกต.จะประกาศรับรองผลไปก่อน หากคดีใดมีหลักฐาน กกต.จะพิจารณาสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิทันที

4.น่าสนใจไม่แพ้กัน ต้องจับตาการดำเนินคดีต่อกลุ่มคนเสื้อแดงภายหลังรัฐบาลเพื่อไทยขึ้นมาบริหารประเทศ หลังจากที่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ซึ่งหลบหนีคดีก่อการร้ายไปพำนักยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่งทนายความติดต่อขอเข้ามอบตัวกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เพื่อเข้ารับทราบข้อหาในคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องช่วงการชุมนุมบริเวณราชประสงค์

5.เรื่องร้อนในวงการสื่อมวลชน กับข้อกล่าวหารับสินบนพรรคการเมือง เพื่อลงภาพแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยในหน้าหนึ่ง และนำเสนอรายงานข่าวการหาเสียงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางรายการโทรทัศน์ล่าสุดสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมตั้งคณะกรรมการสอบที่ดึงบุคคลภายนอกและในวงสื่อทำการสอบสวนกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย นพ.วิชัย โชควิวัฒน นางดรุณี หิรัญรักษ์ ศ.สิทธิโชค ศรีเจริญ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ นางบัญญัติ ทัศนียะเวช นายเจษฎา อนุจารี นายสมชาย หอมละออ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา น.ส.สุวรรณา สมบัติรักษาสุข และนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ เป็นอนุกรรมการร่วม ทั้งหมดจะใช้เวลา 15 วันในการค้นหาความจริง

6.ภาคเอกชน ยังคงเคลื่อนไหวกดดันการจัดตั้ง ครม.อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหอการค้าไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กำหนดแถลงเรื่อง "ความคาดหวังของธุรกิจต่อรัฐบาลชุดใหม่" ที่อาคารจุลินทร์ 10.30 น. ตามการสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

7.เพื่อให้การส่งไม้ต่อเป็นไปอย่างต่อเนื่อง วันนี้ 10.30 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ จะแถลงมอบการบ้านให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าพรรคเพื่อไทยคงจะส่งคนของพรรคเข้ามานั่งกระทรวงพาณิชย์ ต้องจับตาดูว่าจะฝากอะไรเพื่อให้งานพาณิชย์เดินหน้าต่อเนื่อง ไม่รู้จะรวมถึงเรื่องขายไข่ไก่ชั่งกิโลด้วยหรือไม่