บรรหารแย้ม"ชทพ."ขอดูแลงานเดิม
"บรรหาร" ยัน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มั่นคง ด้วย 299 เสียง บอกโควตารัฐมนตรีแล้วแต่พรรคใหญ่ แค่อยากดูงานที่ค้างอยู่
"บรรหาร" ยัน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มั่นคง ด้วย 299 เสียง บอกโควตารัฐมนตรีแล้วแต่พรรคใหญ่ แค่อยากดูงานที่ค้างอยู่
เมื่อเวลา 10.45 น. นายบรรหาร ศิลปะอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลที่จะจัดตั้งโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ด้วยเสียงพรรคร่วมอีก 4 พรรค เป็น 299 เสียง ว่า เชื่อว่าน่าจะมีความมั่นคงพอสมควร เพราะถือเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ที่เขาต้องการให้ใครเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล ส.ส.แต่ละคนกว่าจะฝ่ามาได้ดังนั้นต้องพยายามรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ตามที่แต่ละพรรคการเมืองปราศรัยหาเสียงกับประชาชนไว้อะไรบ้างที่บอกประชาชนไว้ก็ต้องทำ และต้องดำเนินการเรื่องความสามัคคีของคนในชาติให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยการทำตรงนี้ต้องมีความจริงใจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายด้วยกัน และเรื่องต่างๆที่มีความขัดแย้งกันตอนหาเสียง หรือปราศรัยก็ควรจะเลิกได้แล้วไม่ควรจะนำมาพูดกันอีก แต่ต้องไปดูว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร เช่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปราบปรามยาเสพติด
เมื่อถามว่า คิดว่า 299 เสียงมีความมั่นคงพอ ไม่ต้องไปดึงบางกลุ่มจากพรรคภูมิใจไทยมาอีกหรือ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ คิดว่ารัฐบาลน่าจะไปได้เพราะมีความมั่นคง ตั้ง 299 เสียง คราวที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์มีตั้ง 280 เสียง ก็เป็นตัวเลขที่สวย และอยู่ได้ตั้ง 2 ปีกว่า ถ้าไม่ยุบสภาเสียก่อนก็อยู่ได้ครบเทอม และคราวนี้ได้ 299 ก็ยิ่งดีใหญ่ แต่การจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมสมาชิกแต่ละพรรคในสภา อย่าให้สภาล่มบ่อยเหมือนคราวที่แล้ว ตรงนี้สำคัญ
เมื่อถามว่า แสดงว่าตำแหน่งประธานสภาครั้งนี้มีความสำคัญมาก นายบรรหาร กล่าวว่า ใช่ มีความสำคัญมาก เมื่อถามว่า ดังนั้นคนเลือกคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน นายบรรหาร กล่าวว่า อย่ามาถามตน เพราะเดี๋ยวจะถูกว่าตนเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นเรื่องของพรรคใหญ่เขา เราไม่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามคนในพรรคเพื่อไทยมีมากที่เหมาะเท่าที่ตนดูจากข่าว อยู่ที่พรรคเขาจะเลือกอย่างไร
เมื่อถามว่า คิดว่า 299 เสียงนี้จะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า อนาคตเป็นเรื่องที่ตอบไม่ได้ เพราะถ้ารัฐบาลทำดีก็ครบเทอม แต่ถ้าทำไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คราวนี้คะแนนเสียงมามากมาย ก็เป็นเรื่องที่น่าจะพิจารณา และตนในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคงต้องมาทบทวนว่าทำไมจึงเป็นอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะอยู่ได้เพียง 6-8 เดือน นายบรรหาร กล่าวว่า ใครเป็นคนวิจารณ์ แต่ตนคิดว่าอยู่ได้ ถ้าทำดีก็อยู่ได้นาน แต่ถ้าทำไม่ดีก็อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่า คิดว่าอยู่ได้มากกว่าครึ่งเทอมหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ครึ่งเทอมนั้นกี่ปี เมื่อถามย้ำว่า มากกว่า 2 ปีหรือไม่
นายบรรหาร กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ครึ่งเทอมเขาเปลี่ยนเป็น 6 ปีแล้วไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าทำดีก็อยู่ได้นาน และผมเองในฐานะเป็นที่ปรึกษาก็จะพยายามดูอะไรต่างๆและจะให้ข้อคิดข้อเสนอแนะไปที่รัฐบาล ในฐานะที่พอจะรู้ๆอะไรบ้าง”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จัดโควตารัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า ตนว่าจะเร็วไปหรือไม่ถ้าพูดเรื่องนี้ เพราะหลังเลือกตั้งรัฐบาลก็เพิ่งจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง รวมกันได้ 5 พรรค ดังนั้นเชื่อว่าตำแหน่งต่างๆคงยังไม่มีการคุยกัน เป็นเพียงการเดากันไปเท่านั้นว่าพรรคโน้นได้อย่างนั้น พรรคนี้ได้อย่างนี้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงยังไม่ได้พูดอะไร คงต้องหารือกันว่ามีอะไรบ้างที่พรรคแกนนำจะให้มา ซึ่งตนทราบว่าในวันพุธที่ 6 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้
นายบรรหาร กล่าวถึงเรื่องการจัดโผคณะรัฐมนตรีว่า หากตนพูดไปก็จะถูกโจมตีอีก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ตามธรรมดาแล้วหากเรามีงานอะไรค้างอยู่ก็อยากจะทำต่อเท่านั้นเอง เพราะงานค้างก็ยังไม่เสร็จสิ้น เช่นปัญหาเรื่องน้ำที่ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้ได้ น้ำมากชะตามไหล่เขาทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ ซึ่งกรมชลประทานน่าจะต้องเข้าไปวางรูปแบบในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้น้ำเซาะ ซึ่งคราวที่แล้วนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรก็กำลังแก้ไขอยู่ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของตน แต่จะได้ดูงานอะไรบ้างก็แล้วแต่พรรคแกนนำจะหารือ ส่วนกระทรวงที่เกี่ยวกับกีฬานั้นทุกพรรคต่างมีความถนัดทั้งพลังชล ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ดังนั้นต้องมาว่ากันอีกที กับนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชลคุยกันง่าย อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการแบ่งงานให้พรรคร่วมรัฐบาลนั้นไม่น่าจะมีปัญหา
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคแกนนำจะให้ตำแหน่งรองประธานสภากับพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยนายบรรหาร กล่าวว่า หารือแล้วตำแหน่งรองประธานฯคงไม่รับ เพราะคงไม่มีตัวบุคคล เพราะต้องเก่งด้านกฎหมาย เมื่อถามว่า อาจจะเปลี่ยนมาเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยแทน นายบรรหาร กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วย 1 ที่นั่งนั้นต้องได้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาเพิ่ม แค่นั้นก็พออยู่แล้ว เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ กับ 1 รัฐมนตรีช่วย ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ สื่อคิดและคาดคะเนเอาเอง รอถามหัวหน้าพรรคเอาดีกว่า ตนมันแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น
เมื่อถามว่า ตลาดหุ้นก็ขานรับรัฐบาลไปในทางที่ดี นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็คิดว่าจะดีขึ้น ตลาดหุ้นก็เป็นอย่างนี้อะไรเปลี่ยนใหม่ก็ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ดีขึ้นมาก็คงตกลงไปอีก แต่เชื่อว่าคงดี ใช้ได้