ทำไมต้องขาประจำ?
ผมรู้ว่า ผมขัดความฝันดีๆ ของประชาชนกลุ่มหนึ่ง เขากำลังยัวะผมฉิบหาย เขากำลังฝันดีๆ แต่ดันมาถูกปลุกขึ้น
ผมรู้ว่า ผมขัดความฝันดีๆ ของประชาชนกลุ่มหนึ่ง เขากำลังยัวะผมฉิบหาย เขากำลังฝันดีๆ แต่ดันมาถูกปลุกขึ้น
โดย.....ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม , ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย
แก้วสรร อติโพธิ แกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชันทักษิณ (คนท.)ผู้ประกาศตัวขอเป็น “ขาประจำของทักษิณ”
“ผมไม่ได้ค้านทุกเรื่อง แต่ถ้าเขาทำไม่ถูก ผมก็ค้าน ถ้าเขาทำมาถูก ผมก็ไม่ค้าน ก็แค่นั้น
ไม่ใช่ว่า ผมค้านแต่ละครั้งมันมีเนื้อหาอะไรหล่ะ ทำไมเขาใช้อำนาจหักหาญกฎหมายเหตุผล บ่อยเหลือเกิน ก็แค่นั้น แล้วผมอยู่วุฒิสภามาก่อน ผมเจอกับตัวตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา โอ้โห ...ไม่ไหวเลย พี่แกซื้อแหลกจริงๆ ทั้งซื้อทั้งล่อ... เจอกับตัวมา ไปสอบ คตส.ยิ่งชัด ก็มันเห็นอย่างนี้หล่ะ แล้วให้ผมทำอย่างไร ผมรู้ทางเขาหมดแล้ว เลยถูกเลือกเป็นขาประจำ”
“ผมไม่รู้เหมือนกันเขาพยายามแล้วพยายามอีก ฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องขาประจำเมื่อคุณไม่หยุดจะให้ผมหยุดได้ไง มันไม่ใช่เรื่องไม่ปรองดองแต่มันเป็นเรื่องที่จะให้ตระกูลชินวัตรพ้นกฎหมายไม่ได้ ยังไงก็ไม่ยอมทักษิณคิดเพื่อไทยทำ แล้วยังประกาศเอาผมกลับบ้านให้นิรโทษแล้วส่งน้องสาวมาเป็นร่างทรง เพื่อเอาพี่ชายกลับบ้าน ลองถามคนไทยดูซิ เออ ทำไมพวกคุณหมู ขนาด เขาทำได้อย่างนี้ แสดงว่ากฎหมายไม่มีแล้วใช่ไหม คนที่ติดคุกไม่ใช่เพราะทำผิด เพราะมันโง่ให้จับได้ใช่ไหม ควรสมน้ำหน้ามันใช่ไหม สังคมไทยเป็นอย่างนั้นเปล่า ถ้าชินวัตรจะชนะก็ชนะ ผมก็ต้องแพ้ ก็สาสมแล้ว ถ้าสังคมไทยเป็นอย่างนี้ ก็ควรโดนอย่างนี้”
อดีตกรรมการ คตส. บอกว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายฯเพราะไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมความผิดคดีคอรัปชั่นที่ศาลฎีกานักการเมืองได้ตัดสินไปแล้ว โดยเฉพาะคดีทุจริตที่ดินรัชดา ที่พิพากษาจำคุกทักษิณ 2 ปี โดยในรูปธรรมจะยื่นเรื่องต่อดีเอสไอและอัยการให้ดำเนินคดีกับ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เบิกความเท็จต่อศาลฎีกานักการเมืองในคดียึดทรัพย์ทักษิณ รวมถึง คดีแจ้งข้อมูลธุรกรรมหุ้นชินคอร์ปเป็นเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
เขาบอกว่า กรณีนส.ยิ่งลักษณ์เบิกความเท็จต่อศาลในคดีทักษิณร่ำรวยผิดปกตินั้น แต่เนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญของคดี
“กฎหมายระบุอย่างนั้นเรายืนยันว่าหุ้นชินคอร์เป็นของทักษิณระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลทักษิณมีมาตรการเอื้อประโยชน์ คุณปูบอกว่าไม่ใช่ของทักษิณแต่เป็นของหนู แต่ศาลบอกว่าไม่ใช่มันเป็นของพี่ คุณซื้อขายกันจอมปลอมเท็จไหมล่ะเถียงอย่างไร เรื่องนี้ถ้าดำเนินคดีจริงๆมีหลัก คือ ในคู่ความคนเดียวกันถ้าประเด็นใด ประเด็นหนึ่ง ศาลได้ตัดสินเป็นที่ยุติแล้วในคดีอื่น ศาลอื่นต้องฟังตามนั้นน่ะ เพราะฉะนั้น ศาลที่พิจารณาคดีคุณปูเบิกความเท็จคุณปูไม่มิสิทธิ์สู้เลยน่ะว่าหนูพูดความจริง ซึ่งหลักให้ศาลสองศาล จะตัดสินคู่ความและประเด็นเดียวกันแตกต่างกันไม่ได้ เรื่องหนูพูดความจริงหมดสิทธิ์ ถ้าจะสู้ก็มีเรื่องเดียว คือ หนูไม่ได้พูด อ้าว!ถ้าไม่ได้พูดแล้วนี่มันอะไรล่ะ หนูขาดเจตนาอยากถามว่าขาดเจตนาอย่างไรก็ถามขนาดนั้น ปูมีเงินปันผลแล้วเข้าบัญชีคุณ แต่ก็ยังส่งให้เขาอยู่อย่างนั้น ทักษิณทำไป หนูบอกไม่รู้ ก็พูดอย่างนี้ มันรอดยากคดีแบบนี้”
กลับมาที่การนิรโทษกรรมคดีทักษิณ แก้วสรรยกตัวอย่างว่า สมมุติตัวเขาต้องโทษคดีคอรัปชั่นแล้วก็มานิรโทษกรรม ตอบได้ไหมว่าอะไรคือประโยชน์สาธารณะ ที่สุดแล้วก็ตอบไม่ได้
ถ้าอย่างนั้น กล้ายกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ นักโทษคดีนี้ จะได้ออกจากคุกกันให้หมด
“คดีคอรัปชั่นทำไม่ได้ ทำเมื่อไหรโดนทันทีเพราะเป็นการแทรกแซงอำนาจศาลในกรณีที่ศาลตัดสินแล้ว ขัดกับหลักการความเสมอภาคด้วย หนทางของเขามีหนทางเดียว คือ ต้องเพิกถอนการดำเนินคดี ต้องตรงนี้เท่านั้น …. ถามว่าฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจหรือไม่ที่จะไปบอกว่าการดำเนินคดีไม่ถูกต้องและขอเพิกการดำเนินคดีและถ้าจะเอาผิดกันจริงให้มาเริ่มดำเนินคดีกันใหม่อย่างนั้นหรือ ผมเห็นว่า ทำไม่ได้ ถ้าทำได้แล้วเหตุผลตรงไหนมาอธิบายว่า การดำเนินคดีไม่ถูกต้องตรงไหน ที่คุณทักษิณโดนไปตามชั้นไต่สวนเป็นไปตามอำนาจพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตน่ะครับ ซึ่งไม่ใช่กฎหมายของคมช. คมช.เพียงแต่ตั้งป.ป.ช.พิเศษขึ้นมาเท่านั้น และส่งอัยการและศาลวินิจฉัยพ.ร.บ.วิธีการพิจารณาของศาลเหมือนศาลปกติ กระบวนการที่จัดการเขาทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน”
ฝ่ายทักษิณระบุว่า ต้องตั้งหลักวันที่ 19 กันยา 2549 เพราะเริ่มยึดอำนาจ จึงต้อง นิรโทษกรรมทุกคดีหลังจากนั้น เหมือนต้นไม้พิษ? แก้วสรร แย้งทันที “จะหมุนโลกกลับไปไม่ได้ การจะเพิกถอนคดีต้องมีเหตุผลซิ อย่ามั่ว คณะปฎิวัติจะทำถูกบ้างไม่ได้เหรอ ถ้านับ 19 กันยา เป็นต้นมาก็ต้องเลิกให้หมดไม่ว่า สภาและกฎหมายที่ออกมา”
“ไม่ชอบตรงไหนชี้มาซิ อย่างบอกว่า คตส.ตั้งอำนาจโดยคมช.ก็แค่นั้นซึ่งตรงนี้มันไม่ใช่เรื่องกระบวนการดำเนินคดี ถ้าตอนนั้นคมช.ออกกฎหมายพิเศษให้ผม ไม่ยุ่งกับคตส.ด้วยหรอก ผมไม่คิดว่าสิ่งที่คตส.ทำไปจะขัดกับหลักนิติธรรมอะไรเลย ทฤษฎีต้นไม้พิษคลอดลูกออกมาแล้ว ผลไม้มันเป็นพิษ มันมาจากคำพิพากษาของอเมริกามันเกิดปัญหาถ้าการจับกุมไม่ถูกต้องไปขึ้นศาลมีหลักฐานชัดเจนว่าคนนี้ผิดศาลจะพิพากษาได้หรือไม่ หรือ ถ้าผมไปหาหลักฐานมาโดยการดักฟังคุณ มันชัดเจนว่าคุณผิดชัดๆถามว่าศาลเอาหลักฐานนี้มาลงโทษคุณได้ไหม
“อันนี้เป็นปัญหาของกระบวนการที่มันจะเป็นพิษด้วยไหม และศาลควรจะยอมปิดตาไม่ดูอะไรที่เขาจับมาและได้หลักฐานมาอย่างไรเหรอ พวกนี้ไปดูคำพิพากษาอะไรของมันมาแล้วมาอ้างอะไรของพวกมัน ชี้มาซิว่ากระบวนการตรงไหนที่มันไม่ถูกมีไหม ด้วยเหตุนี้ทั้งหมดเราถึงค้านเฉพาะการนิรโทษคดีคอรัปชั่นเท่านั้นน่ะครับ จะชนะแบบถล่มทลายก็ทำไม่ได้เพราะขัดต่อหลักการ ถ้าทำกันจริงก็ต้องปล่อยนักโทษคอรัปชั่นออกมาให้หมด”
แผนนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณสำหรับแก้วสรรเห็นว่า ชัดเจนเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดชัดกับลูกพรรคเมื่อวันที่ 23 เม.ย ก่อนยุบสภาว่า จะกลับไทยภายใน 6 เดือน และจะแก้รัฐธรรมนูญคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งโดยอำนาจคมช. ซึ่งเป็นการ “ซ่อนหาง” ที่จะใส่เรื่อง นิรโทษกรรมไว้ในบทเฉพาะกาลท้ายรัฐธรรมนูญ
“นี่จึงเป็นกลวิธีที่เห็นเขาลงมือแล้ว เขาเอาแน่ คุณปูมา ขนแดงไปอยู่บัญชีปาร์ตี้ลิสต์พร้อมพูดชัดเจน ผมจะหยุดตรงนี้ทำอย่างไรล่ะ คุณเป็นรัฐบาลได้ผมทำอะไรไม่ได้หรอกเชิญ แต่ถ้าคุณติดข้อหาด้วย คุณทำไม่ได้ก็แล้วกัน ดังนั้น ไม่ต้องไปฟังคุณปู คุณปูไม่รู้เรื่องอะไรให้พูดให้ทำอะไรก็ทำไปตามนั้น ต้องดูที่ทักษิณเขาพูด”
“คุณปู” เป็นหุ่นเชิดทักษิณแบบไหน? แก้วสรร อธิบาย ช่วงที่ สมัคร สุนทรเวชเป็นนายกฯจากพรรคพลังประชาชน ถูกสั่งให้ปราบม็อบ ก็ไม่ปราบงึกงัก ครั้งนี้ ทักษิณต้องเลือกคนที่สามารถสั่งแล้วทำได้ทันทีและต้องเป็นคนที่ขาประจำของเขา ต้องรู้สึกว่าเมื่อเลือกแล้วเหมือนกับเลือกทักษิณ
“คุณปูเคยแตะอะไรมาบ้าง ไม่มีเลย เขาหยิบขึ้นมาทำไม ตายชัดๆ มันต้องมีจ็อบสิที่เขาต้องการให้ทำ จ็อบนั้นคืออะไร... รู้ว่าน้องไม่พร้อมแล้วจะเลือกเอามาทำไม ผมเชื่อว่า เอาลงเพื่อเฉพาะกิจอันนี้ เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วก็ยุบสภา พอแก้รัฐธรรมนูญเสร็จต้องมีบทเฉพาะกาลให้สภาฯและรัฐบาลนี้เป็นสภาและรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญใหม่ ให้ร่างกฎหมายประกอบภายในกี่เดือนมันอยู่ตรงนี้ ดีไม่ดีเอากฎหมายเดิมขึ้นมาเลยก็ได้ฟื้นแล้วก็ยุบสภา งานเฉพาะกิจมันชัดสำหรับผม ผมอ่านอย่างนี้”
แกนนำคัดค้านนิรโทษกรรมทักษิณ ฯ บอกว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจกับการที่แกนนำเพื่อไทยยื่นฟ้องกลับ ใครอยากทำอะไรก็ทำไปได้เต็มที่ แต่จะเป็นโอกาสดีที่จะได้พิสูจน์กันตามกระบวนการยุติธรรมว่า สิ่งที่ นส.ยิ่งลักษณ์ ให้การในศาลคดียึดทรัพย์ทักษิณนั้นมันเป็นเท็จอย่างไร เครือข่ายฯ จะเดินหน้าด้วย กฎหมายเพื่อบล็อคให้ถึงที่สุด
“ ถ้ายังดื้อจะทำอะไรต่างๆอีก เราก็จ้องทางกฎหมายกันล่ะ เราจะใช้กฎหมายเป็นหลักและให้ความรู้ผู้คนเพื่อแยกให้ออกว่านิรโทษคืออะไร เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องปรองดองแล้ว เรารวมเพื่อหยุดกฎหมู่ชินวัตร”
ถามไปตรงๆ แม้ทักษิณทุจริตศาลลงโทษ แล้วทำไมคนไทยส่วนใหญ่ยังเลือกเขาอยู่? แก้วสรรนิ่งคิดก่อนตอบ “คุณทักษิณ แทงใจดำคนส่วนมาก มีคนที่ถูกทอดทิ้งอยู่เยอะ และประชาธิปัตย์มันก็เป็นแค่ ขุนนางเลือกตั้ง ทำงานไม่เป็น ไม่เข้าตา เมื่อคุณทักษิณสามารถสร้างภาพตัวนี้ขึ้นมา ทำไม่หยุด ทำงานไว ถูกมั้งผิดมั้งก็ว่ากันทีหลัง ก็ลุยอย่างนี้ไป แกก็เข้ามาได้จังหวะ ตลาดกำลังต้องการ ถึงขนาดที่ว่า คอรัปชั่นไม่สำคัญ เอาแต่งาน อันนี้มันเป็นเรื่องแทงใจดำของ คนส่วนใหญ่ไม่แยแสเรื่องถูกต้อง เพราะเขามาช่วยแล้ว มึงมาขวางทำไม ทีนี้เขาก็วางนโยบาย จนประชาธิปัตย์ติดโรคเขาแล้ว เกทับค่าแรง ข้าว ปริญญาตรี กันอยู่ เขาก็สร้างสินค้านี่
“ประชานิยมตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่โหยหากันอยู่ในหมู่สังคมส่วนใหญ่ก็ได้ มันไม่มีใครเอาเกษตรกรรมมาตั้งว่า จะพัฒนาอย่างไร ทุกคนไม่เห็นเกษตรกรรม เห็นแต่เกษตรกรที่จะให้เสียงกู ก็เลยบอกจะให้ค่าข้าวเท่าไร ค่าข้าวนี่มันมาจากไหน แล้วมันซื้อได้จริงเหรอ แล้วขายใคร ทักษิณเข้ามาได้จังหวะ ขณะที่สังคมเราทิ้งช่องว่างไว้เยอะ มันเหมือนคนปวดฟัน พอเห็นอับดุลเอ้ย..เล่นงูเห่าอยู่ อ่าวปวดฟันเหรอ..เอ้ย ปวดฟันก็กินข้าวไป เห็นไหมนี่ ยาของเรา ใส่ปั๊บ เขาแม่งดำ เต็มอีกตัวข้าวขาวเลย เห็นมั้ยครับ หายปวด เอาเลย จากปวดฟันเลยถูกอับดุลเอ้ย หลอกกินเลย ซวย
เงื่อนไขเดียวที่แก้วสรรยืนยันจะยุติการเคลื่อนไหวคือ ฝ่ายเพื่อไทยต้องประกาศว่า จะไม่
นิรโทษกรรม คดีคอรัปชั่นทักษิณ ส่วนเรื่องอื่น ถ้าคุณจะนิรโทษก็ตามใจ
“ผมฉีก คำกล่าวโทษผม เดี๋ยวนี้เลย ไม่ยุ่งแล้ว เรื่องมันมีแค่นี้เท่านั้น มันไม่ใช่เพราะปู ลงสมัคร แต่เพราะคุณยิ่งกว่านับหนึ่งแล้ว นับสอง สามแล้ว ถึงสิบเมื่อไรก็หลุด แล้วจะให้ผมนั่งรออย่างนี้หรือ ก็เขาลงมือแล้ว มีกฎหมายที่ไหนห้ามบ้างว่า ระหว่างเลือกตั้ง ห้ามแจ้งความ และเขาห้ามแจ้งความผู้หญิงเหรอ จำเลยเป็นผู้หญิงสวยๆ ถูกจำคุกถมเถไป แล้วบอกศาลรังแกผู้หญิงเหรอ”
แก้วสรรบอกว่า สิ่งที่ทำ ด้านหนึ่งก็เพื่อต้องการไม่ให้เกิดม็อบในอนาคต เปิดให้กฎหมายทำงาน ตรวจสอบ ถ้าจำได้ช่วงที่เป็น ส.ว. ได้ยื่นฟ้องทักษิณต่อศาลรัฐธรรมนูญคดีซุกหุ้น 2 เมื่อศาลไม่นับเรื่อง กลุ่มพันธมิตรดีใจ แต่ถ้าศาลรับคดี การสู้ในถนนจะหมดสิทธิ์ทันที ดังนั้น ที่จะแจ้งความก็เพื่อหยุดไม่ให้ชาวบ้านต้องมาเหนื่อยตีกันอีก
สถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองจนถึงวันนี้ ในทัศนะแก้วสรร เห็นว่า เป็นหลายศึกในสงครามเดียว แต่ศึกนี้จะเป็นศึกสุดท้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ และของประเทศ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชนะ ผมเลิกเป็นขาประจำเลย ไม่เอาแล้ว..
ผมไม่มีอะไรซ่อนเร้น
“ผมไม่มีอะไรซ่อนเร้นหรอก มันทนไม่ไหว ... ขนาดศาลฎีกาลงมติ 9 ต่อ 0 ว่า ซุกหุ้น ปลอดประสพ (สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพือไทย)บอกจะรื้อศาล แล้วจะรื้อไง บอกมาซิ จะปลดผู้พิพากษาหรอ ตรงไหนที่เขาผิดบอกมาซิ ผมนี่อยากกล่าวโทษคดีเสือโคร่งจริง”
แก้วสรร อติโพธิ ยืนยันอีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวต่อต้านการนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอะไรแอบแฝงและไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ออกมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างที่เข้าใจ เพียงแต่บอกว่า “ภาวนาอย่าให้รัฐบาลนี้ ใช้อำนาจเพราะคุณเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ถ้าคุณถืออำนาจสาธาณะแล้วมาสั่งเจ้าหน้าที่ให้กล่าวโทษยิ่งลักษณ์ก็แย่ ไม่มีใครยอมหรอก ผมก็ไม่ยอม”
“ก็คุณเพิ่งส่งยิ่งลักษณ์มานี่ ทำไมไม่ถามพรรคเพื่อไทยบ้างว่า คนมีคดีติดตัวอย่างนี้ ส่งมาได้อย่างไร คุณก็รู้ว่า เบิกความเท็จมา ไปถามตรงนู้นบ้างซิ ศัพท์กำลังภายในเขาบอกว่า ลูกผู้ชายมีบางเรื่องพึงกระทำ บางเรื่องไม่พึงกระทำ คือ เรื่องที่ไม่ต้องคำนวณ ทำก็ทำไปเลย ผมหมายถึงอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องซ่อนเร้นอะไร มันเป็นสังคมอีเย็นไง สังคมทาส ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องความถูกต้อง ทุกอย่างเป็นเรื่องผลประโยชน์ ใครทำอะไรมา ข้างหลังไม่มีอะไรซักอย่างก็แค่นั้น
เห็นอาจารย์เคยไปขอลงสมัครผู้ว่า กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์? แก้วสรร ชี้แจงว่า ก็ผูกไปซิ ... ผมนะเป็นคนอยากทำงาน
อย่างการตรวจสอบคอรัปชั่น เบื่อมาก มีแต่ศัตรู เราอยู่กรุงเทพมา เราเห็นว่า ควรจะแก้ปัญหาตรงไหน ก็เอานโยบายไปเสนอประชาธิปัตย์ บอกว่า จะเอานโยบายพัฒนาเมือง อย่างนี้ไหม แล้วเดี๋ยวผมจะเป็นผู้ว่าให้ ผมไม่ได้ไปหาปชป.แล้วให้บอกว่า รับผมหน่อย เมื่อเขาไม่รับ ก็โอเค มก็ลงสมัคร แข่งกับเขา ผมอยากทำงาน ผมไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไร และผมช่วยสยามรัฐ เป็นคอลัมนิสต์ เป็นที่ปรึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ก็ไม่ได้ซ่อนเร้นอะไร พรรคไหนเขาจะเอาผม ...ไม่มี”
รังแกผู้หญิงอย่างที่ปลอดประสพบอกหรือเปล่าว่า เป็นหน้าตัวเมีย? แก้วสรรร ตอบ แกดูถูกผู้หญิงนะ ผู้หญิงที่กล้าหาญถมเถไป คำว่าหน้าตัวเมีย สมัยนี้เขาเลิกใช้กันแล้ว
“ลำพังความเป็นผู้หญิง มันไม่ใช่คุณภาพของนายกฯ นายกฯหญิงในประเทศอื่นที่เขาได้กัน เป็นคนเก่ง มีความสามารถ ประสบการณ์ทางการเมืองสูง คุมคนได้ เป็นหญิงเหล็ก เป็นผู้นำ หลายคนและเป็นได้ดีเพราะเริ่มต้นจากการเป็นนักการเมืองที่เข้าถึงประชาชน ถ้าใครมีคุณสมบัติที่ดีตรงนี้ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เช่น มากาเร็ตแทชเชอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือ จูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรี ออสเตรเลีย แล้วอยากถามว่าคุณปูมีตรงนี้หรือไม่ ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ก็เป็นได้และเสียงข้างมากให้การยอมรับ ไม่มีหรอกที่เป็นน้องสาวเจ้าของพรรค แล้วโผละขึ้นเป็นนายกฯ อันนี้เหลือเชื่อ ถ้าได้นะ ก็โอเค คนไทยชอบอย่างนี้ ผมก็ไม่ขัด”
แก้วสรร ทิ้งท้ายว่า อย่าเอาความเป็นผู้หญิงมาใช้ในทางการเมือง ไม่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน เรื่องความถูกผิดทางกฎหมายก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ จะมาอ้างว่าเป็นผู้หญิงไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเพศใดเพศหนึ่งจะทำถูกต้องเสมอไป ไม่ทราบว่าทำไมถึงมีตรรกะแบบนี้ขึ้นมา เพราะเป็นการเอาเรื่องเพศมาบิดเบือน