มาร์คบุกขอคะแนนโคราชเจอแดงป่วน

ชาวโคราชต้อนรับ"อภิสิทธิ์ "อบอุ่นแต่หนีเสื้อแดงไม่พ้น เจ้าตัว ชี้ ป่วยการปรองดอง เพื่อไทยพยายามดึงทหารเข้ามาขัดแย้ง เผย โดนแดงป่วน แค่พยายามแย่งพื้นที่ข่าว แต่จะอดทน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวนครราชสีมา ระหว่างการหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 15 เขต ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนจะเดินทางทักทายประชาชนบริเวณตลาดกิมเฮง ท่ามกลางเสียงตะโกนสู้ๆ เบอร์ 10

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุในระหว่างการหาเสียงที่จ.นครราชสีมาว่า ป่วยการที่จะพูดถึงการปรองดองในขณะนี้ หลังจากพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงมีความพยายามลากฝ่ายทหารเข้าไปสู่ความขัดแย้ง

"อยากให้สังคมมองว่า เพื่อไทยกับกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และมีความพยายามทำการเมืองแบบไหน ทั้งนี้ในส่วนกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยมีความพยายามลากทหารเข้าเป็นผู้ขัดแย้ง มองว่าเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่า มีความพยายามจะตั้งตนเป็นผู้ขัดแย้งกับกลุ่มคนต่างๆ ซึ่งในส่วนประชาธิปัตย์ มองว่าเป็นการป่วยการที่จะพูดถึงเรื่องการปรองดองในขณะนี้ พร้อมทั้งเสนอแนะว่าถ้าอยากก้าวผ่านความขัดแย้งก็ให้เลือกประชาธิปัตย์ โดยพรรคจะเดินหน้าสานต่องานทันที"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

พร้อมเชื่อว่า ในการหาเสียงโคราช มั่นใจว่าจะมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากลงคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจากครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนในระบบสัดส่วนสูงมาก

นายอภิสิทธิ์ มองว่า การที่อาจจะมีการก่อกวนในการเลือกตั้งอาจจะเป็นความพยายามในการแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งได้บอกลูกพรรคให้ใช้ความอดทน และเชื่อว่าประชาชน จะมองเห็นได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับ ภายหลังเกิดเหตุการณ์ก่อกวนการหาเสียงในช่วงเช้าที่ผ่านมา

“สิ่งที่อยากย้ำ การพูดคุยแลกเปลี่ยนก็ทำได้ บางครั้งที่มา พูดง่ายๆมาแย่งพื้นที่ข่าว ผมก็พยายามบอกกับลูกพรรคว่า เราต้องอดทน ผมเชื่อว่าประชาชนจะเห็นเองว่าคนที่ใช้วิธีการแบบนี้ เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปราศรัยที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีหญิงวัย 68 ปีอ้างตัวว่ามาจาก จ.ปราจีนบุรี ได้มาตะโกนถามเรื่องคนตาย 91 ศพ พร้อมกับโจมตีว่านายกฯไม่เคยทำได้ตามที่พูด การเรียนฟรีไม่มีจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันตัวหญิงคนดังกล่าวออกไป โดยมีกองเชียร์ประชาธิปัตย์คุมเชิงอยู่ใกล้ๆ

แต่นายอภิสิทธิ์ยังคงปราศรัยถึงนโยบายเรื่องการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ก๊างหุงตุ้ม การประกันราคาสินค้าการเกษตร การปราบปรามยาเสพติด การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และขณะที่นายอภิสิทธิ์เดินหาเสียงในตลาดกิมเฮงมีชายสูงวัยคนหนึ่งระบุว่า เป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มานาน 20 ปี และเคยทำก๋วยเตี๋ยวส่งแม่ยายนายอภิสิทธิ์ได้เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับราคาสินค้า เช่น ราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันพืช หากนายกฯตอบได้ก็จะเลือกประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ยังได้สอบถามเรื่องการตายของคนจำนวน 91 ศพ

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ได้ตอบข้อซักถามชายคนดังกล่าวนานเกือบสิบนาที และระหว่างนั้นมีหญิงสูงวัยสามสี่คนได้นำป้ายของพรรคเพื่อไทยมายืนปะปนกับผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับชูนิ้วชี้และตะโกนว่าไม่เอาๆ ทำให้ประชาชนเจ้าของร้านค้าขายบริเวณดังกล่าวซึ่ง่ส่วนใหญ่เชียร์ประชาธิปัตย์ได้ตะโกนเบอร์ 10 สู้ๆ

นอกจากนี้ ชายคนหนึ่งซึ่งสนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้ตะโกนบอกให้กองเชียร์เพื่อไทยยุติการประท้วง พร้อมกับระบุว่า “พวกสมองกลวง ทำอะไรโง่ๆ เสียชื่อจังหวัด รักใครชอบใครก็เก็บไว้ในใจแล้วไปเลือก”
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้เดินรับดอกไม้จากประชาชนตามรายทาง โดยมียายวัย 79 คนหนึ่งที่เปิดร้านขายดอกไม้นั่งรอมอบดอกกุหลาบให้นายอภิสิทธิ์พร้อมระบุว่า “รักอภิสิทธิ์”

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินรับดอกไม้จากประชาชนบริเวณดังกล่าว ก่อนจะขึ้นรถแห่เดินทางไปยังวิทยาลัยเทคนิคนคราราชสีมาที่ห่างออกประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อไปถึงได้เข้าไปยังห้องสำนักงานอำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาเพื่อลงนามในสมุดเยี่ยม ต่อมาได้เดินไปยังห้องหอประชุมของวิทยาลัย โดยมีนักศึกษาชายหญิงตะโกนสู้ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ตลอดทาง และก่อนขึ้นหอประชุม นายอภิสิทธิ์ได้เยี่ยมชมรถยนต์ที่นักศึกษาใช้ฝึกงาน เมื่อไปถึงหอประชุม นายอภิสิทธิ์ได้รับมอบเสื้อของสถาบันพร้อมหมายเลข 10 และตอบคำถามด้านต่างๆ จากนักศึกษา เช่น ราคาน้ำมัน ปัญหายาเสพติด การเรียนฟรีและอุปกรณ์การศึกษา ปัญหาน้ำท่วมนครราชสีมา และอยากเห็นนิวคาลเซิลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ขณะนี้มีสองเรื่องคือปัญหาของแพงและยาเสพติด แม้จะผ่านวิกฤตมาจนมั่นคงแล้ว ปีนีถือว่าประเทศไทยโชคไม่ดี เพราะน้ำมันราคาโลกแพงมาก คงไม่สามารถขายถูกได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องนำเงินไปชดเชย ซึ่งไม่สามารถทำได้ทั้งหมด สำหรับปัญหาราคาข้าวนายอภิสิทธิ์ยังยืนยันนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตร โดยย้ำเหตุผลว่า การรับจำนำเกษตรกรไม่ได้ประโยชน์ถ้วนหน้า เกษตรไม่มีทางขาดทุน แม้แต่คนที่ไม่ได้ปลูกไว้ขายก็สามารถรับเงินประกันราคาสินค้าเกษตรได้

นอกจากนี้ ยังพูดถึงความสำเร็จของโครงการประกันรายได้เกษตรที่ชาวบ้านสามารถนำเงินไปซื้อของและปลดหนี้ได้จากนโยบายดังกล่าว สำหรับปัญหาน้ำท่วมนายอภิสิทธิ์ยอมรับว่าตอบยากว่าจะท่วมหรือไม่ เพราะสภาพดินฟ้าอากาศไม่เหมือนเดิม ทำได้เพียงการปรับปรุงระเบียบด้านการช่วยเหลือ เช่น การเบิกจ่ายเงิน การซื้อของบางอย่างที่ระเบียบไม่ให้ซื้อ เช่น การซื้อเรือ จึงจะมีการทำระเบียบที่อยู่นอกเหนือระเบียบราชการ ทั้งนี้จะมีการเพิ่มพื้นที่รับน้ำใน จ.นครราชสีมาซึ่งมีการสำรวจแล้ว แต่คาดว่าต้องใช้เวลา

หลังการปราศรัยนายอภิสิทธิ์ได้ร่วมรับประทานอาหารที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาก่อนจะเดินทางไปปราศรัยต่อที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี