posttoday

ผบ.ตร.โบ้ยสื่อเข้าใจผิดเงินหายหมื่นล้าน

07 มิถุนายน 2554

ผบ.ตร.ยันเงินหายหมื่นล้านเข้าใจผิด สั่งเฝ้าระวังการกลั่นแกล้งหาเสียงทางเว็บไซต์ "พงศพัศ" รับลูกเร่งบชก.ตรวจสอบทุกวัน  เตรียมกำลังตำรวจ แสนนาย คุมเข้มวันเลือกตั้ง

ผบ.ตร.ยันเงินหายหมื่นล้านเข้าใจผิด สั่งเฝ้าระวังการกลั่นแกล้งหาเสียงทางเว็บไซต์ "พงศพัศ" รับลูกเร่งบชก.ตรวจสอบทุกวัน  เตรียมกำลังตำรวจ แสนนาย คุมเข้มวันเลือกตั้ง

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีประมาณ 90,200 หน่วยทั่วประเทศ เบื้องต้นจะใช้กำลังตำรวจอย่างน้อย 1 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้ง คาดว่าจะต้องใช้กำลังตำรวจ 1 แสนนาย ในวันที่ 3 ก.ค. นี้ ซึ่งทางกกต.จะสามารถสรุปผลเขตเลือกตั้งได้ชัดเจนภายในวัน 10 มิ.ย.

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เรื่องเรื่องเงินสดหมุนเวียนในระบบสถาบันการเงินไทยหายไปกว่าหมื่นล้านบาทนั้น ได้รับการยืนยันจากนายสรสิทธิ์ สุนทร​เกศ ​ผู้ช่วย​ผู้ว่า​การ สายกำกับสถาบัน​การ​เงิน ธนาคาร​แห่งประ​เทศ (ธปท.) เป็นการเข้าใจผิดข่าวที่เห็นทางเว็บไซต์หรือสื่ออื่นๆ ยืนยันว่าไม่เคยให้ข่าวไปเช่นนั้น ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลือกตั้งที่บช.น.มี 4 คดี อาทิ ยิงหัวคะแนนที่บึงกุ่ม, ยิงหัวคะแนนที่หนองจอก, ยิงบ้านหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ที่บางบอน, บช.ภ. 1 กรณียิงนายประชา ประสพดี, ปาระเบิดหัวคะแนนที่จ.สมุทรปราการ, ยิงนายวิโรจน์ตายที่จ.อ่างทอง, บช.ภ.5 มีลักษณะการทะเลาะวิวาทกันระหว่างสองพรรคใหญ่, ยิงผู้ใหญ่บ้านที่แม่จันเสียชีวิต และยิงหัวคะแนนที่ จ.ลำปาง พื้นที่ทำลายป้ายหาเสียงมากที่สุดคือ บช.ภ.1 โดยพื้นที่บช.น.จำนวน 104 ป้าย บช.ภ.1 จำนวน 301 บช.ภ.2 จำนวน 86 ป้าย บช.ภ.3 จำนวน 46 ป้าย บช.ภ.4 จำนวน 148 ป้าย บช.ภ.5 จำนวน 142 ป้าย บช.ภ.6 จำนวน 64 บช.ภ.7 จำนวน 39 ป้าย บช.ภ.8 จำนวน 65 ป้ายบช.ภ. 9 จำนวน 57 ป้าย ศชต.จำนวน 11 ป้าย

         
ด้านพล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการทำลายป้ายหาเสียงว่า สถิติการทำลายป้ายประกาศหาเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 1,057 ป้าย ได้ถูกดำเนินคดีแล้ว 4 คดี เกิดขึ้นที่บช.ก. จำนวน 2 คดี บช.ภ.3 จำนวน 1 คดี และ บช.ภ.6 จำนวน 1 คดี ซึ่งมีการแจ้งความมาทั้งหมด 20 คดี มักเป็นคดีที่มีการแจ้งความฟ้องฝ่ายตรงข้ามจากการพูดจาใส่ร้ายป้ายสี เพิ่มจำนวนเขตการเฝ้าระวังทั้งหมด 40 เขต 24 จังหวัด ต้องเฝ้าระวังพิเศษคือ 3 เขตเดิม คือ จ.นครสวรรค์ เชียงราย นราธิวาส ขณะนี้มีผู้สมัครส.ส.รักษาความปลอดทั้งหมด 256 ราย จึงการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ผู้สมัครไปทั้งสิ้น 540 นาย

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา(สบ 10) กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้มีการตรวจสอบทุกวันในเรื่องของการหาเสียงทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย โดยบช.ก.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตองยอมรับว่าการตรวจสอบข้อความการหาเสียงทางเว็บไซต์นั้น ค่อนข้างยากแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามแบ่งแยกว่า ข้อความใดเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือสนับสนุนพรรคการเมือง และตรวจสอบข้อความเหล่านี้เป็นข้อความที่เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่
 
"อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถการกระทำที่ผิดกฎหมายให้แจ้งเบาะแสเข้ามาที่หมายเลข 1599 ซึ่งขณะนี้พบว่าเริ่มมีประชาชนให้เบาะแสกับการซื้อสิทธิขายเสียง ทางตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวประสานไปยังกกต. อีกทั้งยังสามารถแจ้งเบาะแสการซื้อสิทธิขายเสียงที่หมายเลข 1171 ของกกต.ได้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ ซ้ำซ้อนกันในการทำงานและจะดำเนินการภายใน 7 วัน"